วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2554

13 Dec: ภาพที่เศร้า


วันนี้ไปมหาวิทยาลัยเช้ามาก ไป scan นิ้วก่อนเพราะจะต้องเอาเจ้า Yiching ไปหาสัตวแพทย์ ไปถึงพ้นหน้าศาลแขวง เห็นยายคนหนึ่งเข็นรถเข็นไม้ ตัวก้มงอเพราะยายหลังโกง และขายายโก่งมาก เวลาเดินเลยค่อนข้างลำบาก รถเราผ่านไปเร็วจึงเห็นแวบเดีนวว่าในรถเข็นมีอะไรบางอย่างที่ยายต้องเข็น เราเอะใจแต่คิดว่าคงไม่ไช่ ก็ผ่านไป ออกจากมหาวิทยาลัยใช้เส้นทางเดิม รถติดไฟแดงเปลี่ยนเขียวพอดี เจอยายอีกครั้งมองออกไปเห็นภาพที่เศร้ามาก ที่เราเข้าใจไม่ผิดคือยายเข็นของจริงๆ แต่ที่ยายเข็นคือเด็กผู้ชายที่อายุน่าจะเกิน 10 ขวบแล้ว รูปร่างปกตินั่งขัดสมาธิด้านหน้าสุดของรถเข็น ใส่ชุดนักเรียนเรียบร้อย  ยายกำลังออกแรงอย่างมากเพื่อเข็นรถที่มีเด็กนี้นั่งเพราะยายกำลังเข็นเพื่อเลี้ยวขึ้นบนรอยต่อถนนอีกสายที่สูงกว่าก็เลยต้องออกแรงดัน เห็นแล้วสงสารมาก แต่หันมองหน้าเด็กที่หันไปมองยายด้วยหน้านิ่วคิ้วขมวดสีหน้าไม่พอใจที่ยายเข็นช้าหรือเข็นไม่ขึ้นเสียที หรืออะไรก็ตามแต่ เห็นแล้วเป็นความรู้สึกที่แย่มากๆ ถ้าไม่ติดว่ามีรถต่อท้ายและไฟเขียวแล้ว จะลงไปช่วยเข็นจริงๆ และจะถามเด็กว่าพิการหรือเปล่า (เพราะมั่นใจว่าเด็กปกติ และหน้าตาดีด้วย)  เลยหมายมั่นปั้นมือว่าพรุ่งนี้จะไปเช้าเพื่อรอยายที่น่าจะเข็นเด็กมาโรงเรียนอีก จะถ่ายรูปไว้ แล้วจะไปถามยายและเด็ก ขอยุ่งเรื่องชาวบ้านหน่อยเถอะ อยากรู้ว่าเด็กนั่นเป็นหลานยาย หรือยายรับจ้างพาเด็กมาโรงเรียน ??  แต่ไม่ว่าคำตอบจะเป็นอย่างไรก็รับไม่ได้เพราะแทนที่เด็กโตนั่นจะลงจากรถเข็นมาช่วยยายเข็นรถขึ้นที่ชัน กลับหันมาแสดงอาการไม่พอใจและคงพูดอะไรก่อนหน้านั้น ..เราคงจะทำอะไรบางอย่างดูเหตุการณ์ก่อน...สังคมเป็นแบบนี้แล้วหรือ ??

เอาภาพมาเพิ่ม ทิ้งไว้นานลืมไปเลย...จนเห็นมีผู้เข้ามาอ่าน ลองดูภาพ


 
ตอนเช้าหากใครผ่านถนนสายนี้ในบริเวณไกล้มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นถนนเส้นหลัก ในช่วงไกล้ 7.00 น. การสัญจรคับคั่งในช่วงเวลาเข้าโรงเรียน จะเห็นภาพนี้ เป็นประจำ ยายแก่ๆคนหนึ่ง เข็นรถเข็นที่มีถังพลาสติกเปล่า 2-3 ใบในถังมีเศษผ้าขี้ริ้ว บางครั้งจะมีผลไม้ติดมาด้วยเช่นกล้วย มะละกอ และหน้ารถจะมีเด็กชายคนหนึ่งที่ไม่เด็กนักนั่งเฉยๆอยู่ข้างหน้า ทราบว่าเรียนชั้นประถมปีที่ 6 ก็น่าจะอายุ 13-14 ปี แต่ตัวโต


 
ภาพนี้ถ่ายขณะรถแล่นอยู่เห็นปุ๊ปสะกิดใจมาก เลยไปจอดรอข้างหน้าเพื่อเก็บภาพจึงได้ภาพบน ปรากฎว่ายายไม่เลี้ยวกลับเข็นรถเข็นเลยไปทางถนนหลัก แต่เป็นทางชันขึ้นเล็กน้อย และเป็นทางแยกไฟแดง ยายก็ต้องรีบเข็นกลัวไฟเขียว (ภาพล่าง)
 
 
 
 
ล่าง ยายเข็นถึงทางเข้าโรงเรียนด้านหน้า วางพักรถเข็นเพื่อให้หลานชายตัวโตลง ยายนั่งพักเหนื่อย หลานสะพายกระเป๋าแล้วเดินเข้าโรงเรียนเลย ไม่มีการแสดงความขอบคุณหรือยกมือไหว้ยาย

 
เมื่อหลานเดินเข้าโรงเรียนแล้วยายนั่งพักเหนื่อยอยู่ครู่หนึ่ง แล้วลุกขึ้นจัดของ ที่ไม่มีอะไรนอกจากเลื่อนกล้วยเครือนั้น .............อ่านต่อในhttp://meecorner.blogspot.com/2012/09/blog-post_18.html