วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2555

30 March: ชีวิตน้อยๆที่กำเนิด

เช้านี้ตื่นเพราะเสียงเจ้านกจอมตอกตาปู เสียงตัวนี้จะดังน่าเบื่อมาก จ็อก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ เป็นจังหวะไม่หยุด ไม่รู้ไม่มีใครบอกมันแน่เลยว่าเสียงนายน่าเบื่อมากกกกจริงๆ ไม่รู้หน้าตามันจะน่าเบื่อเหมือนเสียงหรือไม่

ออกไปเยี่ยมเยือนลูกนกกางเขน ท่ามกลางความห่วงใยของแม่นกที่เฝ้าดู แต่เราก็ทนไม่ได้เพราะตอนนี้แสงแดดเปลี่ยนทิศเฉียงๆ เลยด้านขวาเปิดช่องแดดส่อง เราเลยไปตัดใบบอนด้านหลังมามัดกับต้นไม้ เป็นหลังคากันฝนได้ด้วย และเอาใบทองกวาวเสียบเพิ่ม คงอยู่ได้อีกหลายวันกว่าใบบอนจะเหี่ยวอีกครั้ง  นี่แหละน้อ! ตอนไม่รู้ไม่ห่วง พอรู้ก็ห่วงเขาว่าจะร้อน จะเปียก นี่ขนาดลูกของนกนะเนี่ย! ยังไงๆก็ถือว่าเป็นชีวิตน้อยๆที่กำเนิดในบ้านเรา อย่างน้อยแม่นกเลือกแล้วว่าที่นี่เหมาะ ปลอดภัย และดีสำหรับลูกของเธอ ก็ OK นะ


  ช่วยเอาใบทองกวาวมาบังแสงแดด

วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2555

29 March: ถวายเพลพระ/ ช่วยนก

วันนี้เช้าตื่นตี 5  เศษ ผัดหมี่ไข่ ปูอัด ข้าวโพด ถั่วลันเตา ใส่กล่องน่ารัก ไปตักบาตรพระ 4 รูป ไกล้ 10 โมงไปเลี้ยงพระเพลที่ในอ่าว พระ 12 รูป ของพระท่านจัดอาหาร 3 ชุด คนขับรถ 1 โต๊ะ กลุ่มเราอีก 1 โต๊ะ อาหารทะเลทั้งหมด 8,694 บาท พระอาจารย์ขอจ่ายด้วย 4,000 บาท หารสองกะโยมๆ หุหุ เพราะท่านจะร่วมเลี้ยงแสดงความยินดีกับพระบัณฑิตใหม่ของท่านด้วย และเลี้ยงท่านที่ไปช่วยงานที่ไปเยี่ยมพระธรรมจาริกทางเหนือ อิ่มท้อง อิ่มบุญกันเรียบร้อยแยกย้ายกันไป  ช่วยซื้อปลาทอดกรอบจากยายที่แก่มากที่มาขายที่นี่ประจำ จะซื้อตักบาตร 4 ชุด ยายบอกเอาไป 5 ไม่ต้องทอน

กลับบ้านบ่ายสองแล้ว เลยพักผ่อนดู TV  เรื่อยเปื่อย เพราะอบอ้าว จัดการอาหารให้เด็กๆเสร็จ ก็เป็นเวลาทำงานได้อีก

(ต่อจากบันทึกเมื่อวาน) .....เช้านี้ตกแต่งรอบรังให้นกใหม่เพราะใบบอนเหี่ยว 2 ใบทำให้แสงแดดเช้าในรังนกตรงเลย เดี๋ยวเป็นลูกนกอบ ไปเก็บใบทองกวาวใบใหญ่ๆมาเสียบเป็นแผงบังแดดให้ อันนี้ work มากเพราะเย็นนี้ดูแล้วบังแสงได้ดีจริงๆ หวังว่าฝนจะไม่ตก อันนี้ยังคิดไม่ออกจะเอาร่มอันเล็กมากางบนต้นไม้ก็กลัวแม่นกตกใจไม่มาเดี๋ยวลูกอดตาย ทำบูญได้บาปไปอีก อันนี้รอดูก่อน life must go on เนอะ ! อ้อ! ตกลงเป็นนกกางเขนนะเอ่ย ดีใจมาก จะได้มีเพลงไพเราะฟังอีก



ก่อนทำ

หลังทำ เอาใบทองกวาวมาหนีบกับลวดบังแสงแดดตอนเย็นที่เข้าตรงด้านหน้ารัง

ลูกนกกางเขน ตัวดำสนิท


วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2555

28 March: ก้อนลูกนก?

พุดสามสีหน้าบ้าน หอมแปลกดี

วันนี้ยุ่งกับการติดต่อสถานที่ๆจะไปเล็กน้อย จองที่แล้วเรียบร้อย จากนั้นก็ยุ่งอีกสำหรับการจองตั๋วเพราะต้องต่อเครื่อง เลยต้อง planning ๆๆ เสียเวลาไปครึ่งวัน

วันนี้เอกเอาไข่มาให้ 30 ฟองแตกไป 4 เหลือ 26 หุ หุ

ตอนเย็นเดินออกไปถ่ายรูปในสวนหน้าบ้าน หอมดอกพุดสามสีมากออกเต็มต้น หอมมาก หอมแปลกด้วย เดินเล่นๆจะมาหาอะไรถ่ายปรากำว่าโดยไม่ตั้งใจตามองไปเห็นคล้ายๆรังนกอยู่ในลิงปูนที่แขวนไว้ มองลงไปนึกว่าไม่มีอะไรแต่ตกใจมากที่เห็นตัวอะไรดำๆเป็นก้อนๆวางอยู่ เลยชะโงกดูอีกทีเห็นขยับได้ ตกใจ นึกว่างูขดอยู่ หรือลูกค้างคาว เห็นเป็นสีดำกลมๆ เลยถ่ายรูปไว้ แล้วด้วยความไม่ทันคิดเลยใช้เฟลชถ่ายไปสามสี่ครั้ง ก็เห็นที่ขดๆขยับตัว คราวนี้ตกใจ มองอีกทีเป็นลูกนก เพราะมันอ้าปาก แต่ตายังปิดอยู่คงออกจากไข่มาไม่นาน เลยไม่ใช้เฟลชต่อ  รู้สึกเสียใจที่ใช้เฟลชไม่ทันคิดแย่จังเลยเรา แย่มากๆๆๆ  แต่ดีที่เขาไม่เป็นอะไรน่าจะมี 3 ตัว ไว้ค่อยดูต่อว่าใครเป็นแม่



ก้อนลูกนก


เห็นปากเขาแล้วเลยมั่นใจว่าเป็นนก

เขียนเรื่องนี้ไว้ที่ http://meecorner.blogspot.com/2012/04/blog-post_21.html

วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2555

27 March: อุทาหรณ์ความโลภ


วันนี้ฝนตก ไชโย!  อากาศเปลี่ยนไปทันที เพราะเมื่อวานตกทำให้คลายร้อน วันนี้ซ้ำก็เลยเย็นสบาย ไม่รู้ว่าเป็นมรสุมฤดูร้อนหรือไม่ เพราะเขาว่าจะตกที่ภาคเหนือ อีสาน ก่อน แต่ยังไม่ได้ข่าวทางโน้นเลย ทางนี้ตกก่อนฟ้าร้องโครมครามเลย วันนี้เจ้าหมาๆทั้งหลายเลยเข้ามาครองบ้านกระจุกรอบตัวเลย

ในที่สุด "จอมนางชิงบัลลัง " ก์ก็อวสานเสียที ตามดูมานานมาก ได้ข้อคิด ได้เห็นตัวอย่างจุดจบของผู้ไฝ่อำนาจ ทะเยอทะยาน ไม่มีคุณธรรม มีคำพูดหลายตอนน่าบันทึก เหมาะสอดคล้องกับยุคสมัยจริงๆ จะเอาไปบันทึกไว้อีกบล็อก คงอีกวันสองวัน

ข่าวเด่นช่วงนี้ก็เป็นข่าววงการแพทย์เภสัชที่ ในคดีการลักลอบนำยาซูโดอีเฟดรีน ออกจากระบบ (เพื่อนำไปเป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด) "เภสัชกรยักยอกยาซูโดอีเฟดรีน" ซึ่งเป็นยาแก้ไข้หวัดและสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด จาก ร.พ.ศูนย์อุดรธานี และขณะนี้ นายสมชาย แซ่โง้ว เภสัชกรชำนาญการ ร.พ.อุดรธานี ยังคงหลบหนีหมายจับ"  สอบไปมาก็โยงก้วางขึ้นเรื่อยๆ   ตอนนี้เป็นช่วงคุณธรรม จรรยาบรรณเสื่อม  ความละอายลดลง ความโลภ ละโมภมากจนเกินพื้นฐานศีลธรรมในใจตัวจะยับยั้งได้ ดังนั้นคนที่มีอาชีพที่เชื่อว่าต้องมีคุณธรรม จรรยาบรรณกำกับ จึงทำผิดกันมากขึ้นเพื่อตอบสนองกิเลสตน

เห็นตัวอย่างนายแพทย์ไกล้เกษียณคนหนึ่งที่ได้เป็นถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาล บนเกาะ เพื่อเตรียมจะย้ายมาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัด แต่สุดท้ายโดนไล่ออกจากราชการ เพียงเพราะปปช.สอบแล้วพบว่ามีส่วนทุจริตคอรัปชั่น หมดอนาคต จริงๆ และก็ไม่แปลกใจว่าทำไมต้องการเงินมากนัก เพราะสร้างบ้านริมน้ำ ทำเขื่อนยื่นออกไปแล้วต้องมีสระว่ายน้ำในบ้านอีก (สร้างไปรุกล้ำที่สาธารณะ)  รถเก๋งในบ้าน สามี ภรรยา และลูกชายที่เรียนอยู่รวม 4 คัน มอเตอร์ไซด์แบบยักษ์ ของลูกชายอีกคัน เพิ่งซื้ออย่างละคัน มีคนรับใชั 2 คน ตอนนี้ก็ทำคลีนิกอย่างเดียว จริงๆเราเชื่อว่าเขาไม่จนแน่นอน มีมากกว่าคนอื่นๆอีกมากมายด้วย แต่ความต้องการที่มากเกิน ความต้องการทางสังคมที่จมไม่ลง ทำให้ต้องโลภ ละโมบ โกงแผ่นดินได้ก็ทำ ไม่ยั้งคิด กรรมจริงๆ น่าเศร้า เสียดายแทนประเทศชาติ

วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2555

26 March: ละครไทยๆ


เจ้ากางเขนตัวนี้จะมาเกาะตรงนี้เช้าเย็น แล้วร้องเพลงเสียงดังฟังเพราะด้วยความมั่นใจ

วันนี้เขียนหนังสือทั้งวัน เกือบจบบทที่ยากที่สุดแล้ว จริงๆจบแล้ว อ่านทวนอีกก็เพิ่มอีก เหลือหัวข้อแนวทางป้องกันและแก้ใขปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อม ที่เขียนเพิ่มจะเอาแบบแนวใหม่โละการเขียนแบบโบราณตามๆกันมา ขนาดอ่านยังรู้เลยว่าไม่มีใครทำหรอก ทฤษฎีจ๋าออกปานนั้น น่าเบื่อจัง

วันนี้เพื่อความรวดเร็ว ไม่ปรุงอาหารเที่ยง-เย็น สั่ง junk food มากิน ขนาด junk jib jib จ่าย 600 กว่าบาท จริงๆแล้วไม่อยากทานแต่อยากทำงานต่อเนื่อง เลยเอาสะดวกไว้ก่ อน  พรุ่งนี้จะผัดกะหล่ำปลีต่อดีกว่า
บ่ายฝนตกดีใจหลาย ได้น้ำหลายกาละมัง ไม่สะอาดมีฝุ่นดำแขวนลอย แสดงว่าหลังคาบ้านมีตะไคร่หลายแล้ว ใช้ล้างพิ้นหน้าบ้าน กับใส่ในอ่างกก บัว

นั่งเขียนไปเปิดละครเย็นช่องมีสี ได้ยินเสียง เหลือบตามองเพราะรู้สึกว่ามีเสียงที่ไม่ไช่เสียงพูดนานมาก ก็เห็นตัวละครกำลังปาของกินใส่กัน พืช ผัก ผลไม้ ของกินทั้งนั้น ส่งเสียงกรีดๆๆร้อง คิดเทียบกับหนังเกาหลีเมื่อวานเย็นแล้ว รู้สึกคนละเกรด คนละระดับความคิดเลย ไม่เคยเห็นชาติไหนแสดงหนังแล้วชอบขว้างปาของกินทิ้งขว้าง เท่าไทยเลย มันเป็นอะไรที่แย่มากในความรู้สึกของคนโบราณอย่างเราที่เคยถูกสอนไม่ให้เอาของกินทิ้งขว้างเล่น คนที่อดหยากมีมากมาย แต่ในหนังกลับเอามาขว้างเล่นทิ้งได้ ตัวอย่างที่ไม่ควรให้เด็กเอาอย่าง วนไปวนมาละครไทยมีสองแนว แย่งผู้ชาย (ยุคนี้) แย่งมรดก และแซมฉากตบตี และโจ๊กตลกไร้สาระ ไม่แปลกใจ เพราะเขาต้องสร้างให้ตรงกับความต้องการตลาด แต่แปลกใจว่าตอนเด็กๆเราไม่ค่อยเห็นละครแบบนี้ แต่สิบกว่าปีมานี้ส่วนมากเป็นแบบนี้ แสดงว่าสังคมเรายังไม่พัฒนารสนิยมระดับนี้กันเลย นี่สิแปลก แย่จัง ต่อไปตอนเย็นจะได้รู้ว่าช่องนี้ก็ off ไปได้เลย

วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2555

25 March: ทานติ๋มซำ


นกปลอมคู่นี้จาก happy meal ที่ McDonal's UK เวลาเอาขาหน้าชนกันมันจะร้องเพลง

ตื่นสายมาก (06.40 น.) เพราะนอนดึกไปหน่อยตะลุยเขียนตำรา เหลืออีก 3 สัปดาห์เอง เช้าเพื่อนบ้านชวนไปกินติ๋มซำอีก เกรงใจว่าชวนมาสองสามครั้งแล้ว ก็เลยไป ปรากฎว่าเดินหาที่นั่งก็ได้ยินเสียงใสๆเรียก "อจ.คะๆ" แล้วก็เข้ามากอด งงๆว่าใครมาแอบจู่โจมกอด มองหน้าทันที อ้าวเจ้าหนูพรศรี นี่เองไม่ได้เจอกันนานมาก ปรากฎว่าเป็นเจ้าของร้านนี้ ร่วมกับพี่น้อง บอกว่าพ่ออยากให้พี่น้องมาทำกิจการร่วมกันว่าแล้วเธอก็ตาแดงๆน้ำตารินๆ คงคิดถึงพ่อ พ่อเธอเสียเมื่อสองปีก่อน ชาเย็นอร่อยดีมาก อย่างอื่นๆโดยรวมดี เราชอบถุงทองทอด

ทานไป 370 บาท เสร็จแวะไปดูโครงการบ้าน

วันนี้อากาศร้อนแต่น้อยกว่าเมื่อวาน เราพักผ่อนด้วยการแอบถ่ายรูปนก วันนี้แอบถ่ายหลายช่วงเลย เพราะมาส่งเสียงยั่วยวนใจ  วันนี้เราผัดหมี่ขาวทอดกรอบ ราดหน้ากุ้งกะหล่ำปลี อร่อยมากขอบอก สุดๆ หาทานที่ไหนไม่ได้ ที่เส้นจะกรอบได้ถูกใจ แล้วจะทำอีก soon เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปเก็บหลักฐานไว้ หิวมากไปหน่อย เลยลืม

วันนี้เข้าไปอ่านในบล็อกที่เคยไปเขียน พบว่าหนู poo มาเขียนว่ากำลังรอจะอ่านเรื่อง ความไม่มีตัวตน ก็ดีใจ ที่มีกัลยาณมิตรน่ารัก ตามมาอ่านเพื่มขึ้น (ที่รู้ก็มีหนูปริม กะ คุณคนบ้านไกล) เลยต้องรีบเรียบเรียง หน่อย เรื่องนี้ต้องบรรจงเขียนเพราะหากทำได้ก็จะมีสุขแบบที่เราเป็น สุขที่สงบจริงๆ

My Silient corner 18: เตรียมตัวเดินทางไปเรียน University of London

หนังสือรับรองการเป็นนักเรียนทุนรัฐบาลไทย  

(ต่อ)...หลังจากหลักฐานจากทางกพ.ทุกอย่างเรียบร้อย เซ็นต์สารพัดสัญญาทั้งสองฝ่าย รับทราบเงื่อนไขการรับทุนและการกลับมาใช้ทุน ก็รับเอกสารทุกอย่างที่ต้องใช้ยื่นทางมหาวิทยาลัยลอนดอน โดยเฉพาะหนังสือรับรองการเป็นนักเรียนทุนรัฐบาลไทย เป็นอะไรที่ศักดิ์สิทธิ์มาก (รูป) เขาต้องการความมั่นใจว่ามีจ่ายตลอดจนจบแน่ คิคิ   


ครั้งแรกสุดก่อนหน้านี้ทาง KCL ส่งชื่อ supervisor มาเลยว่าคือ Prof. Dr. Jeremy R Mason และ sup. ก็ได้ mail มาคุยด้วยแล้ว แต่พอใกล้วันจะไปไม่นานก็มี mail จาก Prof. Christ Thurston เขียนตอบมาอีกว่ายินดีรับเราเป็นนักศึกษาในกลุ่มของอาจารย์ ก็เลยเป็นงงๆ ในที่สุดก็ mail ไปถาม Prof. Mason ว่าเกิดอะไรขึ้น ปรากฏว่าเป็นความเข้าใจผิด เพราะ Prof. Mason รับเราเข้าอยู่ใน research group ของอาจารย์แล้ว ก็ไม่มีอะไร (ไปที่นั่นเราก็เจอ Prof. Christ Thurston เช่นกัน อจ.น่ารักดี อายุมากแล้ว ป่วยมากตอนเราอยู่ปีที่ 2 อจ.เลยลาออกไปพักรักษาตัว จนเราจบ อจ.ก็ไม่ได้กลับมา และทราบข่าวอจ.เสียชีวิตเมื่อเราเรียนจบกลับมาไทยแล้ว) 


จากนั้นก็ไม่มีอะไรนอกจากไปตรวจร่างกายตามที่กพ.ระบุ ที่ต่างจากปกติคือต้องตรวจสายตาด้วย เพิ่งรู้ว่าการตรวจตามีขั้นตอนมากเช่นกัน ไม่ไช่ตรวจสายตาสั้นยาว เขาคงกลัวว่าสายตาจะไม่ดีเป็นอุปสรรคต่อการเรียนมั้ง ที่สำคัญคือฟิล์มเอ็กซ์เรย์ต้องเอาติดตัวไป ใบแสดงผลตรวจร่างกาย ซึ่งทางรพ.ออกเป็นภาษาอังกฤษให้เพราะรู้ว่าไปตปท. ทุกอย่างต้องเอาไว้ในที่หยิบได้สะดวก ซึ่งตอนที่เราไปนั้นเป็นช่วงที่ไช้หวัดนกระบาด เลยตรวจเข้มงวดมาก 


ระหว่างว่าง รอช่วงเดินทางก็เป็นการจัดเตรียมของที่จะพาไปส่วนมากเป็นของกิน (กลัวอดอาหารไทย) เตรียมซื้อเสื้อผ้ากันหนาว เสื้อกันฝนแบบเสื้อโค้ท กันหนาวแบบน้อยๆแต่กันฝนได้  รองเท้าบู้ท รองเท้าอื่นๆ เตรียมกระทั่งหมอน หมอนข้าง เอาแบบแฟบๆ ไปพองลมตอนแกะออก ผ้าห่มอย่างหนานุ่ม (อันนี้ pa ซื้อจากพม่ามาให้) เตรียมแบบคนบ้านนอกเข้ากรุง กลัวว่าในกรุงจะไม่มีของที่ตัวเองต้องการ เอาไปแบบตั้งครอบครัวใหม่ได้เลย คิคิ เสร็จสิ้นรวมทุกอย่างแล้ว 8 กระเป๋าใหญ่ (รวมของกินได้มากมาย)


อันนี้ต้องบอกว่าถ้าปกติแล้วน้ำหนักเกินแน่นอน แต่นักเรียนทุนที่ไปเรียนครั้งแรก เขาขอน้ำหนักเกินให้อีก 40 kg. และเราเป็นสมาชิกบัตร? ได้อีกจำไม่ได้ว่าให้เพิ่มอีก 20 หรือ 40 kg. รวมแล้วก็ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม แต่เที่ยวหลังไปกลับก็เป็นตามระเบียบปกติ มีอีกครั้งตอนเที่ยวกลับสุดท้ายที่เรียนจบ ทางกพ.ที่ลอนดอน ก็เขียนขอน้ำหนักให้อีก รู้สึกว่าได้ค่อนข้างมากเช่นกัน

วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2555

24 March: ดูหนัง ดูชีวิต


เล็งแอบถ่ายนกจากในบ้านออกมา zoom สุดๆได้แค่นี้ คงต้องซื้อกล้องใหม่ soon ๆๆๆ

วันนี้เป็นวันอบอ้าวอีกวัน เขียนหนังสือต่อทั้งวัน กะแอบถ่ายรูปนกเป็นระยะๆ ฝากอากีที่โทรมาถามซื้อผัดไทย และกุ้ง แค่นี้ก็สบายไป

เย็นก็ดูภ.เกาหลี "มรดกรักฉบับพันล้าน" ดูทุกครั้งแล้วแทบไม่อยากเปิดดูละครไทยเลย เทียบสาระ กันไม่ติด ผู้สร้างหนังของเขามีความรับผิดชอบต่อสังคมพอสมควร หนังมีความเป็นไปได้ ไม่เวอร์ร้อยล้านแบบคุณหนูไทยๆ ตบตีแย่งผู้ชายหรือไม่ก็มรดก จนเด็กดูเอาเป็นตัวอย่าง แล้วก็ออกมาเป็นข่าวตื่นเต้นเวลาเด็กนักเรียนตบแย่งผู้ชายในโรงเรียน แล้วจะโทษใคร ตอนนี้กู่ไม่กลับแล้ว ช่วยกันบั่นทอนวัฒนธรรมกันคนละม้ายคนละมือ น่าสงสารจริงๆสำนึกคนไทย ครูสอนอย่างหนึ่ง สื่อถ่ายทอดอีกอย่าง  สังคมชักจูงพวกเขากันมาก ติด IT จนไม่สนใจอะไร อยู่แต่ในกลุ่มตัวเอง ไม่สนใจรอบด้าน (สาธารณะ) ดูหนัง ย้อนดูชีวิตจริง

กำลังเขียนหนังสือไปดูละครใหม่ แหม่มแก้มแดง ถ่ายกันที่ลอนดอน ทำให้หวนคิดถึงอดีตอีกจังเลย

วันนี้หยีโทรมาบ่นเรื่องฝรั่งและสามีของเธอ เฮ้อ!

วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2555

23 March: ตะกวด

ดอกไม้โปรด ตอนนี้ออกดอกเต็มไปหมด

วันนี้ตอนสายอากีโทรมาคุยเรื่องการเตรียมการเปิดร้านอาหารอีก ชวนเราไปลองทานติ๋มซำตอนเช้าแต่เราปฎิเสธเพราะปกติที่บ้านมีของพวกนี้ทานจนเบื่อมาก แต่ก็ได้มาเป็นประจำ

บ่ายมีเรื่องตื่นเต้นเมื่อ yiching ยอดนักสืบเสาะแสวงหา (เรื่อง)  เห่าเสียงดังมาก ทุกตัวเลยระดมไป รวมทั้งเราด้วยเพราะเต้เห่าเหมือนเห็นงู ปรากฎว่าพอไปถึงตกใจ งงๆเพราะมีเสียงดัง ฟู่ๆๆๆๆ เหมือนคนพ่นลม มองตามแนวที่หมามองก็เห็นตัวอะไรไม่รู้มันยืนเกาะที่มุม เราก็กลัวมันกระโดดเข้ามา เดินไปไกล้ๆ มองคล้ายๆว่าเป็นตะกวด ไม่เคยเห็นของจริงแต่เคยดูในโทรทัศน์  ตกใจทำอะไรไม่ถูก link ไม่อยู่ เลยโทรหา papa ก็บอกว่าให้ตามแป๊ะมาช่วย เลยโทรไปบอก และก็จัดการเก็บเต้ไว้ในบ้านวุ่นวายกะหมาเพราะกลัวว่าจะไปรุมกัดเขา ตอนแรกตั้งใจจะให้เขาออกทางหน้าบ้าน แต่ทุกคนยืนทางหน้าบ้าน และตะกวดเขาพยายามไปทางหลังบ้าน พอเขาตั้งหลักได้เขาวิ่งจู๊ดเลย วิ่งเร็วจริงๆ เขาวิ่งไปลงคลองหลังบ้าน

เราไม่แน่ใจว่าเป็นตะกวดหรือเหี้ย เลยเข้า google หาความรู้ทำให้รู้ว่าเป็นตะกวด สีน้ำตาลอ่อน หางยาวมาก (เพิ่งเข้าใจเหมือนกันว่าตัวตะกวดและตัวเหีี้ยเป็นคนละตัวกัน) ตัวไม่ใหญ่ขนาดต้นแขนเรา คงมากินหนู แสดงว่าที่เคยได้ยินเสียงหนูร้องตอนบ่าย เย็นๆ คงเป็นเจ้านี่มาหาหนู แต่วันนี้ yiching คงไปนอนใต้รถเลยเจอกัน โชคดีที่มันรอดปากหมาได้ ขำที่มันส่งเสียงขู่ฟู่ๆๆๆ

เข้าไป search หา เจอเรื่องความเชื่อของตะกวด เหี้ย เข้าบ้านและเคล็ดความเชื่อการฝัน แต่อันนี้เราไม่เชื่อ เลยเฉยๆ ถ้ามันมากินหนูก็อยากให้เข้ามาอีก เอาตัวรอดจากหมาให้ได้ก็แล้วกัน วันนี้ถ่ายรูปไม่ทันมัวแต่กลัว เกิดมาไม่เคยเจอตัวจริง  คราวหน้าไม่พลาด  ไหนๆก็ไหนๆเอารูปมาเก็บไว้เป็นที่ระลึก คิคิ

เหี้ย หรือตัวเงินตัวทอง



 ตัวแบบนี้ล่ะวันนี้ที่พบ (ตะกวด หรือแลน (Varanus bengalensis)


ข้างบนนี่  ตุ๊ดตู่ (Varanus dumerilii) พบในป่าทางภาคใต้

ที่มาภาพ : http://www.thaiwildlife.org/main/featured-articles/varanus

วันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2555

22 March: วันน้ำโลก

คลองหลังบ้าน โชคดีที่มีน้ำเต็ม

วันนี้เป็น "วันน้ำโลก" ก็ไม่รู้ว่าคนไทยตระหนักปัญหาน้ำแล้วหรือยัง เพราะคนไทยตื่นตูมและขี้ลืม ตอนนี้ไม่รู้ว่าการป้องกันน้ำในปีนี้ทำไปถึงไหน และหากเกิดสิ่งน่ากลัวกว่าคือ ขาดน้ำทุกหย่อมหญ้า แห้งแล้งดินแตก จะทำยังไง เพราะสิ่งนี้ป้องกันไม่ได้ เราทำลายป่ากันมากจนน่ากลัว วันนี้เห็นข่าวช่อง 7 พาไปดูที่ท่าสองยาง จ.ตาก เขาหัวโล้นหมด มีตอไม้ดำ เป็นผลของการเผาป่า มีควันเป็นบางช่วง ชาวเขาที่นั่นก็บอกว่ามีนายทุนจากทุกภาคให้เผา จะปลูกสวนยาง นี่ล่ะ ความละโมภ ไร้สำนึก ของสัตว์ที่ได้ชื่อว่า " คน" ทำลายป่าธรรมชาติ ฆ่าสัตว์อื่นจำนวนมากทั้งทางตรงและทางอ้อม  ไม่รู้เมื่อไหร่จะตระหนักกันจริงๆ ไม่ "ปากว่า ตาขยิบ" กัน ต้นไม้ดีๆ ต้นใหญ่ๆ มูลค่ามหาศาล ถูกตัดไปอยู่ที่ไหนก็รู้ๆกันอยู่

วันนี้เขียนหนังสือต่อ ไม่ทำอะไร นั่ง ๆ เดินๆกวาดดินที่พวกหมาๆจอมซนที่พากันวิ่งเข้าวิ่งออก เย็นแป๋วมาช่วยกวาดใบไม้ที่ร่วงมามาก ได้ 4 กระสอบอาหารหมา 1 เข่ง

เฝ้าถ่ายรูปนกเป็นระยะๆ ช่วงนี้ใบไม้ร่วงเกือบทุกต้นก็เลยโปร่ง นกเกาะก็พอเห็นบ้าง แต่เขาก็ระวังตัวแจ ไวมาก เจ้าตัวที่เล็กมากยังถ่ายไม่ได้ แห้วมาหลายครั้ง เพราะอยู่ไม่นิ่ง ยิ่งเล็กยิ่งกระโดดไวมาก

อากาศร้อน อบอ้าว โชคดีที่ยังมีร่มไม้ทั่วบ้าน ไม่งั้นแย่ เพื่อนบ้านอากีก็ออกไปตั้งแต่ 11.30-บ่ายสาม

วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555

21 March: จ่ายภาษีให้แผ่นดิน


จากดอกบัว สู่ฝักบัว

วันนี้เช้าไปมหาวิทยาลัยอีกครั้ง เพราะจนท.สรรพากร มาตั้งโต๊ะคำนวนภาษีให้กันที่นี่เพราะปชก.เยอะ เราไปเป็นคนที่สาม แต่ผู้อาวุโสทั้งสามต้องนั่งรอเหมือนปีที่แล้วเลย เพราะระบบมีปัญหา และที่แปลกระบบของสรรพากรไม่สามารถเรียกดูข้อมูลเก่าได้เลย ไม่มีอตีต ไม่มีปัจจุบัน (เพราะต้องกรอกใหม่หมด) เลยไม่เห็นอนาคต  ยุ่งมากวันนี้แต่ก็เรียบร้อยในที่สุด เราจ่ายภาษีไป 14,000 กว่าบาท จนท.ก็บอกด้วยความเกรงใจว่า"อจ.จ่ายเยอะนะคะ"  เพราะอจ.ไม่หักอะไร นอกจากประกันชีวิตปกติ (ที่ไม่ได้ทำเอง) ก็บอกว่า "ไม่เป็นไรค่ะ ไว้ช่วยรัฐซ่อมถนน" แล้วก็ไปจ่ายเงินภาษีที่ธนาคาร จนท. 2 คนก็พูดอีกว่า "อจ.จ่ายเยอะนะ" อีกคนที่คุ้นเคยก็บอกว่า "ปกติเขาจ่ายน้อยกว่านี้เป็นหลักพันเองนะ อจ.ไม่มีอะไรหักเหรอ" ก็บอก "มีบ้าง ไถ่ชีวิตวัวไปหลายหมื่น แต่ไม่ควรเอามาลดภาษี บุญไถ่ชีวิตทำไปแล้วก็ดีแล้ว ทำบุญหลายแห่งในรูปแบบต่างๆแต่ไม่เคยขอใบอนุโมทนาบัตร ก็ไม่เป็นไร ก็ตั้งใจไปแล้ว และก็ดีเงินนี้ช่วยรัฐสร้างถนน..." เขาก็พูดว่า " คิดแบบอจ.นี่ก็ดีนะ"

 อะไรๆก็อย่าไปตึงกับมันนัก ให้มันผ่านไปแบบง่ายๆอะไรๆก็จะได้เย็นๆ ไม่วุ่นวาย เคยเห็นคนเงินบาทเดียวฆ่ากันตายที่ปั้มน้ำมันปีที่แล้ว..ก็ เฮ้อ! ชึวิตนี้ถูกจัง เขียนแล้วแวบ คิดถึงอีกคนที่มีตำแหน่งแล้วชอบไถเงินคน จนกลายเป็นนิสัยถาวร  จ้างคนหลักล้านเปลี่ยนหลักฐานสูติบัตรลูกหลานเขา หวังโกงเงินมรดก นี่ก็พวกคนน่าสงสารที่หวังจะเอาเงินมาด้วยจิตบาป เลี้ยงครอบครัว จะ "สุขเกษม" ได้จริงหรือ นี่ก็กรรมหนัก เพราะไปขวางทางบุญ !!

วันนี้ทองลงราคามั้ง เพราะคนที่นั่งรอภาษีบ่นกันยาวเหลือ 24150 คนที่ชอบเขาก็ชอบนะ ไป gd health เจอพี่ติ่งกะพี่น้อย เลยนั่งคุยกันอีกชั่วโมง คนขับรถนั่งรอในรถ

วันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2555

20 March:



วันนี้อยู่บ้านเขียนหนังสือทั้งวัน ได้ intro จบ ภาคที่เขียนยากมาก ต่อไปนี้ตลุยเนื้อหา ว่ายน้ำสบาย

วันนี้ดู "จอมนางชิงบัลลังก์" เห็นการกระทำของนานจองแล้วคิดว่าจริงๆในโลกนี้จะมีคนที่คิดชั่ว ทำชั่วได้ ตลอดเวลาทุกลมหายใจแบบนี้จริงไหมหนอ ? ขณะกำลังเขียนนี่ก็เลยนึกถึงสามีภรรยาคู่ลวงโลก สร้างหลักฐานเท็จเพื่อโกงเงินทองคู่นั้นได้ จะดีกว่าหน่อยตรงคู่นี้โกงให้ลูก ชายหญิง และตายาย แต่จริงๆแล้วเขาไม่จน เพราะสร้างภาพหลอกคนแก่มาได้มากเกินควรแล้ว แต่โลภไม่พออีก   เงินบาปเลี้ยงลูกให้เจริญไม่ได้จริงๆ เห็นมามากมาย ถ้าไม่กลับตัวกลับใจคงติดกับอกุศลกรรมไปจนวันตาย น่าสงสารไปอีกแบบ

วันนี้นกกางเขนมาร้องเพลงหวานๆให้ฟังด้านหลังเลยถ่ายรูปไว้

วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2555

19 March: เพื่อนยืมเงิน

ดอกไม้หน้าบ้าน

วันนี้ฝนตั้งเค้าแต่ไม่ตก อบอ้าวสุดๆ อยู่บ้านเขียนหนังสือ วันนี้อากีซื้อโต๊ะเก้าอี้มา 10 ชุดๆละ 4500 ชิงช้า 1500 เก้าอี้เก่าตกแต่งใหม่คู่ละ 1400 ชวนให้เราแวะไปบ้านดู ตอนนี้ตั้งไว้รอบๆบ้านก่อน เราไม่เห็นด้วยหรอกนะเพราะไม่เหมาะเป็นโต๊ะอาหารเลย เป็นโต๊ะทานกาแฟจะเหมาะกว่า ตัวเล็กเตี้ย ตั้งกับข้าวสองอย่างก็เต็มแล้ว แต่เราไม่ทักอะไรเพราะเขาปรึกษากันเองดีแล้วและซื้อมาแล้ว ถามเรื่องแม่ครัวก็เอาคนที่เคยทำอาหารเลี้ยงในซอยพิศาล ซึ่งจำได้ว่าไม่ work อันนี้ปากเราไวไปหน่อย ทักว่าเอ คนนี้เขาทำอาหารไม่ค่อยประทับใจนะ แต่เธอบอกว่าทำแกงไตปลาอร่อย ก็ว่ากันไป ติงไปแล้ว ก็รู้สึกลึกๆแต่ไม่อยากพูดห้าม ว่างานนี้น่าจะไม่รอด  เพราะความที่เขาเองเชื่อมั่นกันเองมากไป

วันนี้เย็นเพียงโทรมา เรื่องสมชาย พอวางหู สมชายก็โทรมาเลยงงๆ เขามาขอยืมเงิน 5000  บาท เราให้ยืมไม่ถามอะไรเขา เพราะคิดอย่างเดียวว่าหากเพื่อนไม่เดือดร้อนจริงคงไม่ขอยืมและเคยรู้เรื่องเขาจากเพียงและกุ้งมาแล้ว ก็เลยโทรไปถามเพียงอีกครั้งว่าเกิดอะไรขึ้น เพียงรู้ไหมว่าสมชายโทรมาทำไม เขาบอกว่ารู้ว่าจะมายืมเงิน เราเลยถามกลับว่า แล้วสมชายไม่ขอยืมพวกเขาหรือไง เขาบอกว่าขอยืม แต่ไม่มีให้ เฮ้อ! เราก็ไม่โทษเขาทั้งคู่หรอกนะเพราะเป็นสิทธิส่วนตัว แต่หากจะคิดแล้วก็รู้สึกว่าเกินไป ในความเป็นเพื่อนเรียนด้วยกันตั้งแต่เด็กเขาออกปากครั้งแรก จำนวนไม่มาก มีก็ควรให้ จะได้คืนหรือไม่ไม่ต้องคิด เพราะทั้งเพียงหรือเราไม่ลำบากนักกับเงินแค่นี้  ส่วนเราเคยตั้งใจแล้วว่าเงินประจำตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่ได้มาทุกเดือนจะใช้ทำบุญตลอด บางเดือนก็ใช้เกิน ไปบ้างก็ไม่เป็นไร .เดือนนี้ก็ให้เพื่อนยืมไป ก็ถือว่าหากเขาเดือดร้อนจริงแล้วเงินจำนวนนี้ช่วยเขาได้ ก็เกิดกุศล  เพราะคำว่า "เพื่อน"

.....เราก็นัดให้สมชายมารับเงินที่หน้า makro แถมให้พระสิวลีที่ท่านเจ้าคณะจังหวัดให้มา 1 องค์ อธิษฐานให้ไปด้วยว่าขอให้เพื่อนตั้งตัวได้ พ้นจากความลำบาก ให้ท่านคุ้มครอง เราก็หวังเช่นนั้นจริงๆ  เจอเขาเอาเงินให้และบอกให้เขาสวดมนต์ทุกวันอย่างน้อยก็บทอิติปิโส และพาหุงมหากา แล้วตั้งจิตอธิษฐานให้ได้สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต หวังว่าเขาคงเชื่อ

วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2555

18 March: หมาที่ถูกสั่งสอน


ซันวา จอมขี้เกียจ นอนกินไปเรื่อยๆ อิ่มแล้ว แต่ขอกินถ้วยสำรองต่อ

วันนี้ตื่นสาย 06.15 เพราะเมื่อคืนนอนเกือบตี 2  เขียนงาน วันนี้อากาศอบอ้าวมาก เหมือนฝนจะตกแต่ไม่ตก

ซันวาเริ่มซนมากขึ้น ตอนนี้ก็ 4 เดือนเศษ เปลี่ยนจากกัดเปลือกหอยมาเป็นกัดรองเท้า ตอนนี้โดนไป 2 คู่แล้ว เราเลยยกรองเท้ามาตีมือเขาแบบเบาๆ คงนึกว่าล้อเล่น ตีมือข้างนึงเสร็จ เขาก็ส่งอีกข้างให้ เลยถูกตีมือ 2 ข้างเลย  พยายามจะสอนให้รู้ว่าทำผิดต้องถูกตี และเรียกมาทำโทษก็ต้องมา ไม่ไช่หนี  เพราะเจ้าpote’ เขาน่ารัก ทุกครั้งที่ทำผิดพอเราเห็นและดุเขา เขาจะเผ่นก่อน แต่เราจะเรียกดีๆ ว่า "เต้คร้าบ ! เต้ มาให้ตีซะดีๆ "  เขาก็จะมาตัวอ่อนย่อตัวระทวยมาเชียว  เราก็เอาม้วนกระดาษตีเขาเบาๆให้รู้ว่าตะกี้ผิด  และเป็นเช่นนี้เสมอไม่หนีซุกซุน ให้ต้องตามกัน   หมาทุกตัวจะฝึกให้รู้เช่นนี้ ตีเบาๆเสร็จ เราก็เล่นกันต่อ จบไปเรื่องหนึ่ง ไม่ต้องคอยหลบหนีทั้งวันให้ทุกข์ไปเปล่าๆ
 หากเราเลี้ยงหมาก็ต้องมีเวลาฝึกสอนหมาของเราด้วย มันก็จะดีทั้งเขา (ใครๆเห็นก็เอ็นดู) และเจ้าของเองด้วย ชาวบ้านจะได้ไม่ว่าสักแต่จะเลี้ยง เลี้ยงหมาก็ไม่สั่งสอนแล้ว จะเอาปัญญาไปสอนอะไรได้ (ถ้าเป็นคน ก็จะถูกว่า ได้แต่เกิด ไม่รู้จักสั่งสอน หรือไม่ก็ลงที่เด็ก ว่า ลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน) คิคิ

วันนี้เขียนเรื่อง อย่า..งมงายในวิทยาศาสตร์ ที่กำลังถูกกล่าวกันมาก ตามประสาสังคมแบบไทยๆ

วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2555

17 March: ลูกไม้หล่นไกลต้น

วันนี้ดีใจมากที่ฝนตก แม้ไม่มากนัก แต่ลดความร้อนได้บ้าง สงสารสัตว์ต่างๆที่มันร้อน ไม่มีน้ำให้ชุบตัวกัน  วันนี้ให้คนมาตัดหญ้าและต้นไม้ที่เก้งก้าง เราก็ช่วยตลอดเก็บ ตัดใบไม้ที่เกะกะ เมื่อยไปเลย

กำลังนั่งเขียนก็นั่งดู ภ.ซีรีย์ มรดกรักฉบับพันล้าน เรื่องนี้สะท้อนชีวิตหลายๆครอบครัว เป็นตัวอย่างที่ดีหลายๆเรื่องที่แตกต่างจากภ.ไทย หลายอย่าง ไม่แปลกใจทำไมสังคมไทยรุ่นใหม่ เด็ก EQ ต่ำนัก เพราะสื่อทุกด้านมีแต่เสนอภาพที่เป็นลบมาตลอดเรื่อง จะมาดีตอนไกล้จบ แต่ปลูกฝังสิ่งที่เป็นยาพิษมาตลอด เด็กซึมซับบทตบตี พูดหยาบ ทะเลาะไร้เหตุผล มีแต่ตามจับเพศตรงข้าม  หรือไม่ก็มรดก  แต่เกาหลีเรื่องนี้และเรื่องอื่นที่เคยดูเขาไม่มีอะไรที่มอมเมาฝังลึกแบบไทย

ตอนของวันนี้ดูแล้วทำให้หวนคิดถึงครอบครัวหนึ่งที่มีพ่อบ้านมีอาชีพชอบรีดไถโดยใช้ตำแหน่ง ทำทุกอย่างหลอกลวงคนแก่ให้ตายใจเพื่อเงินมรดก ที่ชั่วร้ายคือการจ้างปลอมแปลงเอกสารสูติบัตร สร้างเรื่องราวให้กับทายาทเจ้าของมรดกนั้น แต่ที่แปลกใจคือเอาลูกของตัวเองมารับรู้เรื่องราวที่เป็นเท็จด้วย ก็ไม่รู้สุดท้ายลูกสาวที่เรียนมหาวิทยาลัยคนนั้นมีสำนึกละอายในสิ่งที่พ่อแม่ทำหรือไม่ ไม่รู้ว่าพ่อแม่รู้ตัวไหมว่าเงินบาปเลี้ยงลูกให้เจริญไม่ได้หรอก วันหนึ่งกรรมที่ก่อไว้ต้องตอบสนอง น่าสงสารจริงๆ โลภ หลงบังตา  ไม่อยากให้ลูกทั้งคู่ของเขาต้องโตมาด้วยเงินที่พ่อแม่ทำความเดือดร้อนให้คนไปทั่ว กรรมหนักจริงๆ ลูกไม้หล่นใต้ต้น จะเจริญยังไง

ในภ.เกาหลีวันนี้ลูกสาวเสียใจ ละอาย ที่รู้ว่าแม่ทำผิด โกงคนเพื่อลูก (จริงๆน่าจะเพื่อตัวเองมากกว่า) เลยนัดพระเอกออกมาคุย นับว่าเด็กสำนึกดีกว่าผู้ใหญ่ อันนี้ลูกไม้หล่นไกลต้น

วันนี้ไม่มีอะไร นั่งค้นข้อมูลดิบไว้เขียนหนังสือต่อ

วันศุกร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2555

16 March: scan นิ้ววันสุดท้ายของปีการศึกษา


สมุนไพรแก้ช้ำในหน้าบ้าน ช่วยคนมาเยอะแล้ว

วันนี้เช้าไป scan นิ้ววันสุดท้ายของปีการศึกษา และคณะให้เขียนใบแสดงภาระงานช่วง summer เราถามขวัญว่าไม่ได้สอน summer ต้องเขียนไหม เธอบอกไม่ต้อง ป้านงคราญก็บอกว่าก็ต้องเซ็นต์ไว้ เลยเขียนว่าเขียนตำราเฉลิมพระเกียรติ 1 เล่ม จบ แวะไปคุยกับน้องๆที่โปรแกรมจนเที่ยงพาไปทานก๋วยเตี๋ยวใต้สะพานที่คนเขานิยมกัน เจอลูกศิษย์พยาบาล 4 คน เราไม่เห็นเขาแต่เขาเห็นเรา ถามว่า "อจ....ไช่ไหมคะ" เราบอกว่า" ไช่จ๊ะ" ก็ดีใจกันที่นั่งอยู่กระโดดยืนมาคุยด้วยทักซักถามกันเพราะ 3 คนไม่เคยเจอพวกเขาเลยเป็น 20 ปี แต่เขาจำได้ อีกคนเคยเจอเมื่อปีที่แล้ว เขาทานกันเสร็จจ่ายเงินเลี้ยงโต๊ะเราอีก เขาบอกว่าให้เขาได้เลี้ยงอจ.เถอะ เอาก็เอา ไม่เคยยอมให้ใครเลี้ยง (นอกจากสามี คิคิ) มานานแล้ว ตอนนี้เป็นคนไกล้แก่เลยมักจะจ่ายเลี้ยงคนอื่นๆเป็นประจำเมื่อมีโอกาสไปเจอ

อ้อ วันนี้ขณะกำลังไปทานเที่ยงดร.รุ่นกลาง โบกมือดักรอรถให้หยุดแล้วเอาใบปลิวมาให้ดู ถามว่าได้หรือยังก็บอกว่ายัง แต่ได้อ่านแล้ว คนเอามาให้อ่าน แต่ไม่เห็นประโยชน์ของการทำครั้งนี้ เลย ก็ไม่รู้ว่าอจ.ที่เขียนนี้ทำไปทำไม หวังผลอะไร คราวนี้เธอไม่ลงชื่อ เราเลยถามว่าทำไมไม่ลงชื่อ..ดร.ตอบแทนว่าเพราะคนเขียนบอกว่าลงไปก็ไม่มีใครเชื่อว่าเธอคนนั้นเป็นคนเขียน  แต่สำหรับเราแล้วไม่เห็นเลยว่าเป็นการกระ
ทำที่ฉลาด หรือ smart จริงๆขึ้นไปพูดกับนายอธิการเองเลยก็ได้  ฟังไม่ฟังแต่ก็ดีกว่าการทำแบบเด็กๆ

รีบทานรีบกลับเพราะอุเขาต้องไปสอนที่ระนอง ตาลวันนี้เรียนภาษาเลยไม่ได้ไป กลับมาส่งอุ แล้วเรากะสุเชษนั่งคุยต่อในรถอีก ชั่วโมงเศษ เรื่องกฎแห่งกรรม ธรรมะปฎิบัติ  กลับถึงบ้านก็เกือบสี่โมงเย็น

อากาศร้อนจัง เข้าบ้านแล้วเย็นสบายจนไม่อยากเดินออกจากชายคาเลย

วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555

14-15 March: เกิดมาโชคดีแล้ว/บุญ-กรรม



เมื่อวานเช้าเข้ามหาวิทยาลัย เงียบมากแทบไม่เห็นคนเลย  เข้าเมืองไปธุระหลายที่ ไปโอนเงินให้ดร.ขจิต ไปช่วยโรงเรียนน้ำท่วม และรร.ที่เด็กไม่มีของเล่นเลย 3,000 บาท อจ.ขจิตนี่เป็นกัลยาณมิตรน่ารักรู้จักทางบล็อก และก็ได้มีโอกาสพบกันตอนอจ.มาสอนที่นี่และเป็นวันที่เรามอบถวายกุฎิให้คณะสงฆ์พอดี ก็เลยไม่ได้มีเวลาสนทนาหรือพาไปใหนเลย อจ.เลยไม่แวะมาเจออีก สงสัยคิดว่าเราไม่น่ารักแน่เลย ( แก่แล้ว คิคิ)

บ่ายก็ยุ่งๆกับการเตรียมของให้ link บ่ายสามเศษ เดินทางไปเยี่ยมหลวงพ่อในป่าอีก ไม่ได้ไปหลายเดือน ตอนนี้ถนน สะพานเริ่มซ่อมเส็จไปหลายส่วนแล้ว หากน้ำป่ามาอีกก็น่าจะ "เอาอยู่" จริงๆ ถวายปัจจัยให้ท่านไว้ทำกิจของสงฆ์ 5,000 บาท สนทนากับท่านหลายเรื่อง มีช่วงหนึ่งท่านได้เอ่ยยืนยันว่า" ไม่มีอะไรต้องกังวลโลกนี้ยังไงๆ คนชั่วย่อมได้รับกรรมของเขาในที่สุด ขอให้เราแผ่เมตตาไปเรื่อยๆ เขาก็แพ้ภัยตัวเอง จนเขาไม่มีทางออก" ซึ่งอันนี้ก็กราบเรียนท่านเช่นกันว่าเราเชื่อมั่นในผลบุญมาก และใช้ชีวิตอยู่ด้วย "ผลของบุญ" เชื่อมั่นและศรัทธาในสิ่งดีที่ตัวเองทำ และเราได้อุทิศกุศลแผ่เมตตาให้สามีภรรยาผู้น่าสงสารคู่นั้น รวมทั้งพ่อแม่เขาผู้หลงผิดของเขา และลูกทั้งคู่ ผู้จะต้องรับผลกรรมจากสิ่งที่พ่อแม่ ตายายได้ทำไว้ในอดีต ปัจจุบัน และจะทำในอนาคต เสมอๆ ให้เขาเหล่านั้นได้รับผลบุญที่เราทำอุทิศให้ตลอด ไม่รู้เป็นเจ้ากรรมนายเวรของใครแต่ปางไหน แต่ก็ต้องแผ่เมตตาให้เขากลับตัวกลับใจ เพื่อลูกของเขาจะไม่ต้องรับกรรมที่หนักกว่าที่พ่อแม่เขาทำไว้ กับคนหลายครอบครัวมาแล้ว เพราะสุดท้ายพวกเขาจะไม่เหลืออะไรที่ทุจริตมาจากครอบครัวอื่นเลย กรรมนี้ตกทอดเป็นมรดกกรรมจริงๆ หลวงพ่อบอกว่าแล้วเราจะได้เห็นผลกรรมที่ตอบสนองกลับไปยังพวกเขาเองในไม่ช้า (หอยทากก็หาเลี้ยงชีวิต "สุขเกษม"
ตามสัญชาติญาณ ไม่ต้องไปเบียดเบียนหลอกลวงใคร คนเราแท้ๆยังไปเที่ยวคดโกง หลอกลวงหาเลี้ยงชีวิต แย่กว่าหอยซะอีกนะ)

กลับบ้านก็ 4 ทุ่มเศษแล้ว

วันนี้ไม่มีอะไรเช้าคนขับไปส่ง link แล้วมารับเราและเต้ไปหาหมอ หมอให้ยาเต้มากิน 16 วันแน่ะ เป็นพยาธิในเม็ดเลือดตามคาด เมื่อวานกำเดาออกจมูกข้างเดียว มากพอควร แต่เราต้องเข้าในป่าก่อนเลยให้เอกมาเป็นเพื่อนเขาก่อน

วันนี้เป็นวันจ่าย จ่ายค่าหนังสือที่พิมพ์มุทิตาท่านวุฒิ 12,000 บาท ไปจ่ายค่ารักษา ค่ายาให้คุณสมศักดิ์และพ่อของเขา 3,100 กว่าบาท จนท.ถามว่าอจ.ต้องช่วยจ่ายให้ตลอดเลยหรือก็บอกเธอว่าไม่เป็นไรหรอกเขาขอความอนุเคราะห์ก็ให้ ถือว่าให้เป็นทาน เราจิตดีเป็นพออย่าคิดอะไรมาก เลี้ยงเพื่อนจ่ายมากกว่านี้เลย เกิดมาโชคดีแล้วที่มีให้ผู้อื่น และเป็นที่พึ่งของใครได้ ดีกว่าต้องเป็นผู้ที่ต้องเป็นผู้ขอตลอด

อากาศร้อนมากเลยยอมให้บรรดาหมาๆทั้งหลายทุกตัวเข้ามานอนในบ้าน ปกติเขาก็เวียนกันมานอน วันนี้มานอนพร้อมกันหมด บ้านเลยเป็นบ้านของหมาไปโดยปริยาย

วันอังคารที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2555

11-13 March: ภูเก็ต/ สิทธารถะ (Siddhartha)


ไปภูเก็ตมา 2 คืน 3  วัน เจอ Pai และ Aum เซ็นต์สัญญาเรียบร้อย พักผ่อนแบบย้ายที่เขียนหนังสือ เอาเข้าจริงก็ไม่ได้เขียนเท่าไหร่เพราะวันที่สอง pai พาตระเวนไปทั่วอาณาจักรเธอ 5 ชั่วโมงเศษ ไม่เป็นไรทุกอย่างในโลกนี้เป็นการเรียนรู้ รู้จัก "คน" ที่ได้คือการอ่านหนังสือระหว่างทางได้จบ 1 เล่มคือ สิทธารถะ (Siddhartha) งานเขียนของ เฮอร์มานน์ เฮสเสนักเขียนชาวเยอรมันแปลโดย สดใส  สำนักพิมพ์ สร้างสรรค์บุ๊คส์  ซึ่งพิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2526 ฉบับที่เราอ่านเป็นปี 2550 หนังสือนี้ซื้อมานาน แต่เพิ่งได้โอกาสหยิบเลือกไปอ่านตอนเดินทางยาวครั้งนี้ ดีใจที่ได้อ่านได้ความคิดอะไรเกิดขึ้น อ่านไปก็อ่านออกเสียงให้ link ฟังแล้วก็ discuss กันตลอดจนถึงตอนบทสุดท้ายที่สิทธารถะได้คุยกับโควินทะอ่านแล้วยังย่อยไม่ได้เพราะคำโตเกินไป ทุกคำพูดที่สนทนาเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ต้องหาเวลามาอ่านอีกครั้ง แต่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงได้อ่านแล้ว เราคงเชยแล้วล่ะที่เพิ่งอ่าน แต่ดีกว่าคนที่ยังไม่ได้อ่านเนอะ คิคิ  link บอกว่าในภาพยนตร์คำพูดไม่ได้มีรายละเอียดมากขนาดนี้  อ่านแล้วรู้สึกขอบคุณคุณ สดใส ที่แปลหนังสือดีๆมาให้ได้อ่าน ข้อคิดมากมายที่ได้ จะเอาไปบันทึกไว้ในอีกบล็อก คงอีกหลายวันจึงเขียน ขอย่อยอ่านเพิ่มก่อน เพื่อให้เกิดปัญญามากกว่านี้   :)

ได้ข้อคิดจากหนังสือเรื่องนี้จะเอาไปบอกนศ.ว่า

"ความรู้ถ่ายทอดให้กันได้ ปัญญาเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดหรือสอนกันไม่ได้ ต้องค้นพบด้วยตัวเองเท่านั้น"

วันเสาร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2555

9-10 March: งานฉลองสมณศักดิ์/ หนังสือ กินดี อยู่ดี มีสุข

หนังสือ "กินดี อยู่ดี มีสุข"

เมื่อวานไม่ได้เขียนบันทึกเพราะ online ไม่ได้ตลอด สงสัยพายุสุริยะโจมตี คิ คิ เมื่อวานยุ่งทั้งวัน ไปหาสุเอาเงินไปจ่ายค่า sumsung series 9 , galaxy 7.7 , thumb drive 2 ตัว  รวม 63,600 บาท  แวะไปรับหนังสือ 300  เล่ม "กินดี อยู่ดี มีสุข" จากโรงพิมพ์ที่กทม.งานด่วนทั้งสองฝ่าย ขอบคุณโรงพิมพ์ที่ปั่นกัน คราวนี้เล่มละ 40 บาท เราทำ (เขียน) มุทิตาท่านพระครูวิสุทธิวุฒิคุณ  เอาไปให้ท่านที่วัดไว้แจกงานฉลองสมณศักดิ์วันนี้ (10 มีค.) แล้วแวะไปกราบลพ.สะอิ้งอดีตเจ้าอาวาส อายุท่าน 97 ปี แล้ว เอาเพมเพอสไปถวาย  2 ห่อ นมแอนลีนพิเศษ 3 ชุด คราวหน้าจะเอาไปอีก ท่านตบหัวทั้งสองคน กดหมุนๆๆ สักครู่ท่านยื่นมือมาอีก ก็ก้มให้ท่านตบหัว แล้วท่านพึมพำเบาๆว่า เป็นคนดี  ตบหัว link อีกทีแล้วพุดว่า นี่ก็คนดี แล้วท่านก็ยิ้ม ท่านถามว่าวันนี้เป็นวันอะไร มาจากไหน ทำอะไร เราถวายปานะ สักครู่ก็กราบลา

จริงๆอยากบอกใครต่อใครที่จิตเป็นกุศลอยากทำหนังสือถวายพระ หรือวัดไว้แจกในโอกาสต่างๆ ว่าหากไม่รู้จะเอาหนังสืออะไร หรืออยากได้อะไร จะเขียนให้ฟรี เพราะชอบเขียน หุ หุ  ปีนี้เขียนถวายไป 3 เล่มแล้ว งานตัวเองอีกเดือนกว่าก็ต้องรีบปั่นอีก ตำราเฉลิมพระเกียรติฯต้องเพิ่มเติมอีกให้ทันต่อเหตุการณ์ ภายใน1 เดือนต้องเสร็จ

วันนี้เช้าไปร่วมงานที่วัดเขาแก้ว พระมาก คนมากเรารีบกลับเพราะไม่ชอบที่ๆมีคนมาก แล้วไปกราบลพ.สะอิ้งอีกครั้ง มีคนแวะมาเลยขอตัวกลับ แวะไปมหาวิทยาลัย เซ็นต์ชื่ออยู่เวร

อากาศร้อนมากๆๆๆๆ พาซันวาไปฉีดยา น่ารักมากนั่งรถเรียบร้อยมาก

วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2555

8 March: งานประทานพัดยศภาคใต้

ดอกไม้หน้าบ้าน

ตื่นตีห้าเตรียมทำอาหารถวายพระพรหมจริยาจารย์ ไข่เจียวไข่เค็ม  สาหร่ายวาตาเมะผัดข้าวโพดน้ำมันหอย  ไข่พะโล้  ยำเกี้ยมฉ่าย บร็อคโคลี่น้ำมันหอย ยำกุ้งแห้ง(ของคุณสาย) ข้าวต้มขาว (คุณกิ่ง) เอาไปถวายที่วัด

กลับมาบ้านจะเอาโทรศัพท์ก็เข้าไม่ได้เพราะกุญแจหักข้างใน เลยต้องทิ้งไว้ยังงั้น เพราะต้องรีบไปสนามบินรับสมเด็จพระรัชมังคลาจารย์ ท่านมาประทานพัดยศให้พระทั่วภาคใต้ที่ได้รับในปีนี้ (ร้อยกว่ารูป) พระอาจารย์ส่วงหน้าไปก่อน เรากับคณะตามไปทีหลัง รอเครื่องบินกองทัพอากาศที่จะนำคณะจากกทม.มา เราได้รับมอบหมายให้นำคณะนักบินกองทัพอากาศ (11) คนไปทานเที่ยง ด้วยเหตุผลที่เวลาจำกัดเลยไม่ได้พาไปดังที่ตั้งใจ แต่จองโต๊ะที่เพื่อนเดินทาง แทน อาหารใช้ได้แต่ไม่ประทับใจมากนัก นอกจากรายการไข่เค็มที่ใช้ห่อหมกล้อม แต่ที่ผิดหวังคือผลไม้แย่มากที่เอาแอปเปิ้ลมาเป็นรายการผลไม้ แทนที่จะเอาแตงโม สัปรด มะละกอฯ เฮ้อ! หลังจากนั้นคณะต้องการไทนกาแฟอเมซอนเลยให้อุ๊ พาไปทานต่อ พวกเรากลับไปตามช่างกุญแจมาช่วย พี่ดาจัดการตามลูกน้องให้ ไปนั่งรอกินกาแฟบ้านกิ่งต่อ ช่างมาบ่าย 3 ก็ดีจัดการจนเรียบร้อย

วันนี้เลยทั้งวันชีพจรลงเท้า แต่ไม่เป็นไรอิ่มใจที่ได้ช่วยกิจคณะสงฆ์

งานนี้ไม่มีรูปมาลงเพราะไม่ได้ไปอยู่ฝ่ายพิธีการ เลยไม่ได้เข้าในงาน ได้แต่อิ่มใจอยู่ห่างๆ  ได้ทำหนังสือมุทิตาพระ 2 รูป  ของท่านวุฒิฯพรุ่งนี้ส่งมาถึง

วันพุธที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2555

7 March: วันมาฆบูชา/ บุญที่ไม่หมด

ดอกบัวหน้าบ้าน

วันนี้เช้าไปวัด แล้วกลับบ้านเอารถมาเก็บ คนขับรถมารับไปรับอาหารจากคุณสายที่จะถวายเพลพระ วันนี้พระจากทั่วภาคใต้ที่จะมารับพัดยศ ในสมณศักดิ์ต่างๆที่วัดท่าไทร แต่ท่านเจ้าคณะภาค 16 ท่านจัดประชุมอบรม ซักซ้อมการรับ ในวันพรุ่งนี้ มีพระมาร้อยกว่ารูป แต่โยมมากันเป็นพันคน เมื่อคืนพระจากเบตงมารับ 1 รูปโยมตามมา 20 กว่าคน วัดอื่นๆก็เช่นกัน กุฎิที่เราสร้างถวายวัด (ปัจจัยของก๋ง ยาย) รองรับพระ 40 รูปได้สบาย เห็นแล้วปิติ แทนก๋งยาย อุทิศบุญให้ก๋งยายด้วย เกิดบุญที่ไม่เคยหมดจริงๆ

คืนนี้ไปเวียนเทียนคนมามากเหมือนทุกครั้ง  เห็นไฟที่กุฎิทั้ง  3  หลังสว่าง พระมาพักอาศัย ปิติจัง กลับมากรวดน้ำอุทิศให้ทั่วไปหมด  เคยพูดกับบางคนที่ถามเราว่าทำไมไม่ซื้อรถเบนซ์มาใช้ เราตอบทุกครั้งว่า คงไม่ซื้อหรอกเสียดายเงิน รถคันเดียวนั่งไปมาแค่นี้ นั่งอยู่แค่ไม่กี่คน เอาเงินค่าเบนซ์ไปสร้างเสนาสนะที่จำเป็นแก่วัดที่ไม่มีปัจจัยมากพอจะสร้างเองได้ดีกว่า และพระภิกษุสงฆ์ได้ใช้โดยทั่วถึงกัน ยังประโยชน์มากกว่าในภพนี้และภพหน้า

วันนี้บ่ายกลับมาแก้งานส่งโรงพิมพ์เป็นระยะๆ ตั้งแต่บ่ายจนเย็น โชคดีที่จบทันไปวัด วันศุกร์นี้หนังสือส่งมาถึง

วันอังคารที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2555

6 March:


เช้าไปมหาวิทยาลัย หอบเอกสารสัมมนาของนักศึกษาปึกใหญ่ เมื่อคืนตะลุยตรวจตั้งแต่เย็น สลับกับงานเขียนที่ส่งโรงพิมพ์ อ่านเลยเที่ยงคืนจนมึนได้ที่ เด็กรุ่นใหม่เรียน ทำงานแบบสุกเอาเผากินจริงๆ คุณภาพไม่มี โกงได้โกง เฮ้อ!

แวะคณะเจอรุ่นเดียวกัน 3 คนเกือบ 200 (ปี) คิคิ คนเขาแซวกัน ยืนคุยเกือบครึ่งชั่วโมง เราแวะคุยกะศิรวัฒน์เรื่องแผนกำหนดการส่งตำราของมหาวิทยาลัยที่ออกมามันตลกฝืด แย่จริงๆ แต่ไม่มีผู้บริหารที่รับเรื่องมาใครกล้าติง เพราะออกจากหัวคิดของ..น่าสงสาร เราเลยแนะให้เขาดูข้อบกพร่อง ข้อที่เป็นไปไม่ได้ และปัญหาที่จะเกิด พร้อมทั้งบอกทางที่ควรทำ ควรแก้ เขาบอกเขาไม่กล้าพูดกับคนที่ทำแผนหลัก (แต่เขาไม่บอกเราว่าใคร) แต่เขาจะทำในระดับคณะที่เราเสนอคือการกำหนดวันส่ง และตั้งกรรมการตรวจระดับคณะก่อน ! นี่ก็อีกเฮ้อ!

ไปค้นหนังสือห้องสมุดเกือบ 2 ชั่วโมง

เย็นไปงานศพแม่นึก เผือกคง กลับสามทุ่มเศษ (แม้ว โทรมาบอก)

วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2555

5 March: ปิดเทอมอีกแล้ว


เช้าไปวัด เข้ามหาวิทยาลัย รวมคะแนนส่งเกรด ยุ่งกับงานซ้อนงาน มาเกือบสองอาทิตย์ วันนี้โล่งไปเกินครึ่ง แต่ก็มีโถมเข้ามาอีกเป็นงานจร แต่มีช่วงว่างหายใจ ตอนนี้เขียนบล็อกเลยเบรกไปหลายวัน หัวสมองขึ้นควันเพราะปั่นงานทั้งวัน แต่เราไม่ชอบความเครียด ก็เลยทำทั้งวัน แต่ช่วงพัก ทักคุยกับเจ้าหมาๆในบ้านยังให้เวลาเท่าเดิมไม่ลดลง เพราะเราจะไม่ค่อยให้งานมาเบียดบังชีวิตและความสุข ของผู้อยู่ข้างตัว ยังให้เวลาเขาเท่าเดิม แต่ลดเวลาเอ้อละเหย ของเราลงก็ทำงานได้มากขึ้น

 กำลังฟังรายการ ที่นี่ตอบโจทย์ ช่อง ThaiPBS  ฟัง รศ.ดร.สมชาย ภคภาสวิวัฒน์ พูด แล้วเฮ้อ! อยากไปสมัครเป็นลูกศิษย์เรียนหนังสือด้วยจัง  นี่ถ้าให้เลือกใหม่เราก็คงไม่เรียนวิทย์   อจ.พูดว่าตอนนี้ที่น่าห่วงคือ information overflow - knowledge overload

ไม่ต้อง scan นิ้วตั้งแต่ 19 มีค-15 พค

วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2555

4 March: ทอร์นาโดถล่มสหรัฐ/ ฝุ่นไทย

ที่มาภาพ: http://thaisaeree.com/

วันนี้เช้าไปวัด แล้วกลับมาเร่งงานเขียนหนังสือมุทิตาท่านพระครูวุฒิฯทั้งวัน จนเสร็จส่งโรงพิมพ์เมื่อครู่นี้เอง เฮ้อ ! หมดงานร้อนอีก เดือนนี้ปั่น 2 เล่ม หัวเป็นน็อตเลย

ต่อจากนี้ยังเหลืออีกเล่ม แต่มีเวลาอีกช่วง ได้เว้นหายใจหน่อย

บ่ายฝนตก หลังจากร้อนมากมาหลายวัน ดีใจแทนต้นไม้

ได้เห็นข่าวทอร์นาโดถล่มสหรัฐตามข่าวว่าถึง 90 ลูกในช่วงเดือนนี้ นับเป็นเรื่องน่ากังวลมาก อยากเขียนว่าน่ากลัวมากกว่า  เป็นสิ่งชี้วัดความผิดปกติของภูมิอากาศจริงๆ หากยังกังวลกับเรื่องโลกร้อนแบบไม่จริงใจ จริงจัง ก็ยังจะร้ายแรงเพิ่มทั่วโลก อีกในไม่ช้า ยังไม่ตระหนักแบบจริงๆก็คงต้องให้ถึงตัวแบบไม่มีน้ำ ไมม่มีไฟ ไม่เหลือทรัพยากร ตอนนั้นก็สาย จะมานั้่งถกกันเรื่องเศรษฐกิจชาติ หรือเรื่องผลประโยชน์ตัวเองก็ไม่รู้จะเอาเงินพวกนั้นไปซื้ออะไร เมื่อไม่เหลืออะไรให้ซื้อ

เรื่องแบบนี้บังคับใครให้กังวลด้วยไม่ได้  ขนาดสอนเด็กทุกครั้งที่สอนเรื่องมลภาวะสวล สอนเคมีสวล พูดสารพัดดูหน้าตาคนเรียนแล้วเหนื่อยใจ ไม่ in ไปกับครูเลย ใครจะเริ่มหาทางแก้ไขจริงจัง เพราะเอาแต่ประชุมแบบละลายงบมานับไม่ท่วม ไม่เห็นมีอะไรืี่ได้รับการปฎิบัติต่อเนื่องเลย งบหมด งานจบ สงสัยโลกร้อนกว่าจะอุ่น (ไม่หวังเย็น) คงงบหมดไม่รู้กี่หมื่นล้าน

ไทยภาคเหนือกำลังแย่ แค่เผาป่า ไฟไหม้ ไม่ว่าเกิดจากอะไร ก็มาจากความแห้งแล้งเป็นเหตุ ส่วนที่มาของความแห้งแล้งก็คนนี่ละ เมื่อเราทำร้ายธรรมชาติ นี่ก็เป็นผลตอบแทน ที่แย่คือทุกคนเดือดร้อนไปหมด ปอดมีปัญหาแน่สูงเกินมากไป วันนี้ถึง 300 กว่าไมโครกรัม/ลิตร แล้วน่ากลัวจริงๆ อยู่แต่ชาวบ้านรู้ไหมเท่านั้นล่ะว่าผลร้ายต่อสุขภาพ มันอันตราย และรักษายังไง เหมือนเครื่องจักรที่มีรอยแผลแล้ว ยังไงๆในอนาคตปอดก็ไม่เต็มร้อยแล้ว

วันเสาร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2555

3 March: "กินเป็น อยู่เย็น เป็นสุข"

เช้าไปวัด แล้วรีบกลับมาทำหนังสืออีกเล่มมุทิตาให้ท่านพระครูฯ ชื่อ "กินเป็น อยู่เย็น เป็นสุข"  ดัดแปลงเล็กน้อยจากที่ทำให้อ.สาโรช งานเยอะยังไม่ได้ตัดเกรดเลย วันจันทร์นี้ตั้งใจจะส่งเกรด

บ่ายแก่เอกเอาขาหมูต้มมาให้เด็กๆ  มาจัดการอาบน้ำยาให้หมากันเห็บหมัด เมาทั้งคนทั้งหมาไปเลย

วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2555

2 March: บางคน..


เช้าไปวัด แล้วกลับมาทำงานต่อ เจาะรูเฉลยข้อสอบปรนัย อัตนัยอ่านเสร็จไปหลายวันแล้ว ตอนบ่ายบ่าวมาช่วย format เครื่องเก่าให้ใหม่หมด หลังจากติดไวรัส TEMP อยู่หลายวัน แต่ตอนนี้ซื้อ เครื่อง sumsung ใหม่แล้วบางดี แต่ไม่เป็นไรตัวเก่านี้ใช้สอน ตัวใหม่ไว้เขียนหนังสือ

บ่าย pa แวะมาดูบ้าน มาเอาข้อสอบ 

โทรไปบอกนิ เรื่องพ่อของสมศักดิ์ ให้ลงบัญชีไว้ จะตามไปจ่าย นิไม่ค่อยชอบแต่เราบอกไม่เป็นไร ช่วยได้ก็ช่วยถือว่าให้เป็นทาน เขาขอมาก็ให้ แต่หากจะถามว่าเขาควรทำไหม ก็ต้องบอกว่าไม่ควร แต่เมื่อเขาต้องการให้เราช่วยจ่ายค่ารักษาให้ก็ถือว่า เขาให้โอกาสเราสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์ เป็นทานก็แล้วกัน อย่าคิดมาก แต่สรุปนิก็บอกว่าเขาไม่ชอบการทำแบบนี้ เหมือนฉวยโอกาส เราช่วยลูกแล้ว ลูกยังเอาพ่อมาให้เป็นภาระเราอีก ไม่เป็นไร เราเชื่อเสมอว่า คนที่ขอ น่าจะลำบากใจกว่าคนที่ช่วย เมื่อเขากล้าออกปากขอ ก็คงต้องช่วยเนอะ  หุหุ

กำลังดู TV มีข้อความนี้ขึ้นแวบเดียว รีบจำไว้ ขำดี แต่น่าสงสาร บางคน คนนั้นจัง หุ หุ

บางคนมีชีวิตอยู่อย่างเป็นคน
บางคนมีชีวิตอยู่คล้ายคน
บางคนมีชีวิตอยู่โดยไม่รู้ว่าเป็นคน

อี้หมิง

วันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2555

1 March:


เร็วจังผ่านไปอีกเดือน วันนี้ลางาน ไปวัดเช้า อยู่บ้านตรวจข้อสอบ

 link ศึกษาเกมใน galaxy คิคิ

เขียนร่างรายละเอียดตำราเฉลิมพระเกียรติส่งคณะ