วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

31 May: วันงดสูบบุหรี่โลก

เช้าไป scan นิ้งตามปกติ เห็นนศ.รุ่นใหม่ทำกิจกรรมรับน้องสารพัด วุ่นวายวิ่งข้ามถนนแบบไม่ดูอะไรหลายคน อันตรายจัง อาจเกิดอุบัติเหตุแบบทุกปีตอนเปิดใหม่ๆ นึกว่าเป็นถนนในหมู่บ้านจะข้ามตอนไหนก็ได้กระมัง ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้หลายศพอยู่ ปิดกันให้แซด ชนกันกระเด็นไปคนละทิศ ไม่มีการจำกัดอะไรเลยรถแต่งซิ่่งก็วิ่งเข้ามา บึ้มๆ อวดความเท่ห์กัน ขับเร็วแค่ไหนก็ได้ แย่จริงๆ


วันนี้วันที่ 31 พฤษภาคม (ของทุกปี) องค์การอนามัยโลกกำหนดให้เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก (World No Tobacco Day)เพื่อให้ตระหนักถึงอันตราย และความสูญเสียจากการสูบบุหรี่

คำขวัญปีนี้คือ  2555 "จับตา เฝ้าระวัง ยับยั้งอุตสาหกรรมยาสูบ" (ก็ได้แต่ตั้งเก๋ๆเป็นธรรมเนียม ใครปฎิบัติ)
เย็นนี้ตั้งใจเขืยน "ภัยมืด..บุหรี่มือสาม" อันตรายแฝงที่คิดไม่ถึงจริงๆ แต่ยังแปลไม่เสร็จ มีอาการง่วง สงสัยต้องต่อพรุ่งนี้

วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

30 May:การศึกษาไปทาง คุณธรรมไปอีกทาง

ไม่โกง ไม่คิดทำชั่ว กินได้ นอนหลับสบาย

วันนี้ลางานอีกวัน ที่คณะฯไปกระบี่กัน ประชุมแบบที่รู้ๆกัน แล้วแต่หัวข้อที่ชงกันมา มันเป็นเช่นนี้มาตลอดไม่มีใครช่วยได้จริงๆเพราะคุณภาพไม่ไช่เป้าหมายแท้จริงของพวกผู้บริหารและทีมจัดการของเขา ตั้งงบแล้วต้องใช้เงิน เอาชื่อเรื่องไปใส่ในช่อง  KPI ให้ครบ เสียดายเงินภาษีจริงๆ

วันนี้ฝนตกสบายๆอีกวัน

ไปรู้ว่าวันนี้เพื่อนสองสามีภรรยาไปช่วยกันตกแต่งบัญชีช่วยบริษัทที่ได้กำไรให้เป็นขาดทุน เพื่อจะได้เสียภาษีน้อยลง เพราะเจ้าของบริษัทที่คบกัน (เพื่อผลประโยชน์) ขอมา สองสามีภรรยาเลยรีบไปช่วยเพราะบอกว่าสามารถอ้างเรื่องน้ำท่วม ส่งสินค้าไม่ทัน ขายได้น้อย (แต่จริงๆแล้วรายได้จากการบริการ และอะไหล่มากมาย) ก็ข้ามเกาะไปช่วยกันตกแต่งบัญชีใหม่ แจ้งไปแล้วบอกว่าเอากลับได้คงต้องใช้กำลังภายในดึงกลับเพราะบอกว่าทำทัน เขาไม่กล้าบอกเราว่าไปทำเรื่องเช่นนี้อีก เพราะเราเคยเตือนพวกเขาแล้วว่าการทำเช่นนี้เป็นการโกงภาษีแผ่นดิน (สามีเขาทำเช่นนี้ให้กับบริษัทที่เขาบริหารเช่นกัน แต่เขาอ้างว่าไม่ใช่ เพียงแค่ใช้ช่องทางที่มีเท่านั้นเอง) ถ้าทุกคนช่วยกันโกงภาษีคนละไม้คนละมือแล้วชาติจะพัฒนาได้อย่างไร ใครโกงก็ทำไปแต่เราไม่ควรเป็นหนึ่งในนั้น มีการศึกษาดี เรียนมาว่าอะไรชั่ว ผิด บาป แล้วยังทำ เศร้าใจจริงๆ การศึกษาไปทาง คุณธรรมไปอีกทาง

(หมายเหตุ สามีเพื่อนรายนี้จบเศรษฐศาสตร์ สถาบันเด่นดังแห่งชาติ เขามักจะภูมิใจในคำสอนตอนหนึ่งของอาจารย์เขา ที่ว่า  "..คำตอบของเศรษฐศาสตร์ไม่มีถูกผิดหรอก.." เล่าวีรกรรมทุกครั้งจะยกข้อความนี้ให้ฟัง  เราก็ฟังก็เศร้านะ )

เราก็มองชีวิตความเป็นอยู่ของคู่นี้ตลอดมา เคยแปลกใจว่าดูแล้วเขาก็ดี เป็นคนมีน้ำใจ ใจบุญ แต่ทำไมไม่เจริญ มีแต่เรื่องร้อนใจ ภรรยาสุขภาพไม่ดีนัก มารู้เรื่องที่เขาได้ไปช่วยเศรษฐีโกงภาษีมาโดยตลอดแล้ว ไม่แปลกใจ ทุกเรื่องมีคำตอบในตัว ก็จะดูต่อไปเพราะคงห้ามไม่ได้แล้ว ทุกอย่างเขาเลือกเดินเอง

วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

29 May: สุขที่ได้อ่าน


กางเขนหาอาหารให้ลูก

วันนี้ลาราชการ มีธุระที่ต้องไปหาดใหญ่ ให้แป๋วมาช่วยดูแลเด็กๆที่บ้าน ฝนคงตกหนักมาก กลับถึงบ้าน 2 ทุ่มเศษ

วันนี้อ่านหนังสือจบไป 3 เล่มคือ ประกายส่องใจ ของพระอาจารย์สมลักษณ์ วัดท่ามะโอ พลังแห่งบุญฤทธิ์  ถึงโสดาบันในชาตินี้ และ มหัศจรรย์แห่งจิต ของอ.สนอง วรอุไร เล่มหลังนี่ยังอ่านไม่จบ ไว้ค่อยอ่านต่อ อ่านแล้วรู้สึกดีใจที่ได้อ่าน ทำความเข้าใจหลายเรื่องมากขึ้น และรู้สึกเสียดายแทน "คนเป็น " อีกหลายๆคนที่ยังไม่ได้อ่าน

วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

28 May : เพียงแค่ ..อย่ายกย่องคนเลว


บ้านแสนสุขของฉัน :)

เช้าไปมหาวิทยาลัย รู้สึกหลายๆอย่าง แล้วก็วางมันไว้ที่นั่น วันพุธ-พฤหัส เขาให้อาจารย์ทั้งคณะไปประชุมอบรมเทคนิคการสอน การประเมินผล ที่กระบี่ ก็ที่ๆบุคลากรที่นี่เขาเคยไปกันเป็นประจำ ที่พัก นี่ไม่แน่ใจว่าเป็นโรงแรมรีสอร์ทเดิมที่เจ้าของเคยมาเรียนที่มหาวิทยาลัยนี้หรือไม่ เพราะอบรมกันบ่อยที่กระบี่ ทั้งๆที่ไม่กี่ปี น่าจะไม่เกินสามปีที่อธิการบดีบอกว่าต้องสร้างหอประชุมใหญ่ (ร้อยกว่าล้าน สร้างเสร็จแล้ว) แล้วต่อไปนี้เราจะประชุมกันที่ในนี้ไม่ต้องไปไหน ประหยัด สุดท้ายก็เป็นลมปาก ไม่แปลกใจ หากทำได้แบบที่พูดจะงง! หุ หุ สัจจะย่อมไม่มีใน....ฉันใด...

หวังว่าครั้งนี้คงไม่มีข่าวบุคลากรระดับดอกเตอร์ไปเล่นการพนันจนมีเรื่องให้ต้องเคลียร์กันอีกนะเอ่ย จะได้ไม่ต้องปิดกันให้ ZZZZ

มีบางคนสงสัยว่าคนที่สอนมาเกินสิบปี ยังต้องไปอบรมเทคนิคกันอีกหรือ เราก็บอกว่าไปเถอะ ไปช่วยกันเซ็นต์สนับสนุน เพราะเขียนโครงการไว้แล้ว จะได้เอาไปใส่ตามค่า KPI ให้ครบ ก็รู้ๆกันว่าไปทำไมกันที่กระบี่ อย่าไปเครียด กลัวเสียเวลาก็เอางานเตรียมสอนไปทำ หรือไม่เขาอาจมีเรื่องใหม่ๆเทคนิคการสอน การประเมินผลแบบไร้ E  หรือไม่ก็สอนปฎิบัติการสิ่งแวดล้อมแบบไม่ต้องทำปฎิบัติการเฉพาะทาง เพราะไม่มีอุปกรณ์เฉพาะสาขาให้นักศึกษาได้อย่างไร  หรืออาจบอกครูว่าสอนอย่างไรให้ครูไม่รู้สึกผิด ที่เด็กไม่ได้อะไรๆดังที่เขียนในหลักสูตรเลย

วันนี้เขียนเรื่อง เพียงแค่ ..อย่ายกย่องคนเลว
http://meecorner.blogspot.com/2012/05/blog-post_28.html

วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

27 May:


ชมพู่นมแมวหน้าบ้าน เป็นไม้ป่าหายากแล้วกลิ่นหอมแปลกๆ เนื้อบาง แห้งๆกรอบหวาน


วันนี้ฝนตั้งเค้าตอนเช้า มาตกจรองตอนบ่าย ตกหนักแล้วหยุด ปรอยๆตลอด อากาศเย็นลงทันทีเข้าฤดูฝนได้ในวันเดียว

ช่วงเช้าซันวาขุดๆๆร่องดินอีก เลยต้องจัดการเก็บกวาด เลยต่อไปถึงปลูกต้นไม้เพิ่มเติมอีก

วันนี้ข้างบ้านระดมพลพรรคมาจัดการปลูกต้นไม้ ทำประตูรั้ว ต่อท่ออะไรไม่รู้ลงน้ำ วันนี้ขุดฝังเรียบร้อย โผล่แต่ปลายท่อ วุ่นวายมากทั้งวัน

วันนี้แปะมาจากพม่า เอาแป้งและชามาฝาก แป้งแบบฝนจากไม้หอมแบบกลิ่นไม้จันทน์ สีออกครีมเข้มๆ ไปทานอาหาร health food เลยถามสาวๆพม่าในร้าน

ค่ำนี้ไปแวะร้านเค็กที่คุณศุภชัยมาส่ง

ไม่ได้เขียน my silient corner หลายอาทิตย์แล้ว ไม่ได้ลืมแต่ไมว่างที่จะเค้นออกมา รอสมองโปร่งๆก่อน ตอนนี้งานเยอะมาก

วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

26 May:ข้างนอกวุ่นวาย แต่..


ลูกรำเพยหน้าบ้าน


เช้าไปวัด จัดถวายอาหารเช้า แวะไปหาร้านกาแฟที่ตั้งใจไว้จนเจอ แต่ยังไม่เปิดร้านเลยกลับ

 วันนี้ฝนตกหนักมากเป็นพิเศษ ลมกระชากกิ่งไม้หักสองกิ่ง ไม่น่าเชื่อ ตกอย่างหนักแต่ไม่นาน ห่วงเจ้าลูกนกกางเขนวิ่งไปปิดรังให้ ฝนหยุดไปดูเค้าปรากฏว่าที่ปิดไว้ลอยกระเด็นไปหมด เลยจับมาเรียงใหม่ แต่ลูกนกคงหิวมากอ้าปากซะกว้างเหลืองอ๋อยไปหมด



ข้างบ้านวุ่นวายเล็กน้อยวันนี้ ต่อเติมตามรสนิยม แต่ที่แย่คือการเดินไฟที่่ไม่รับผิดชอบต่อท่อพาดหลังคาศาลาโด่จากกำแพงบ้านไป ต่อท่อออกไปที่คลองอีกสองท่อไม่รู้ท่ออะไรเพราะทุกอย่างที่เป็นท่อใช้สีเดียวหมดคือสีฟ้า จริงๆแล้วสายไฟเขาใช้ท่อเหลืองกัน นี่ขนาดเป็นช่างก่อสร้างเอง บ้านตัวเองแท้ๆ link บอกว่างดพูดแล้วแต่รสนิยม ก็ไม่ต้องไปเห็น.....ตอนเย็นเขาย้ายศาลาเลื่อนเข้ามาไกล้บ้านอีก ความเป็นส่วนตัวลดลงมาก คนงานนั่งคุยจุกจิก แต่ไม่เป็นไร ปิดผ้าม่านก็แล้วกัน ชีวิตก็เป็นเช่นนี้ แม่ชีท่านหนึ่งเคยพูดกับเราว่า "ข้างนอกวุ่นวาย แต่ใจเราสงบเป็นพอ" ช่างเป็นคำเตือนใจที่มีค่าจริงๆ

วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

25 May:


หัวใจร้อยดวงหน้าบ้าน

เช้าไปวัด เตรียมสอน วันนี้ฝนตกหนักแต่ไม่นาน อากาศเริ่มเย็นลงบ้าง เย็นเปลี่ยนต้นไม้หลายต้น วันนี้อาบน้ำเด็กๆทุกตัว ไปดูลูกนกกางเขน รังเปียกแต่ตัวนกไม่เปียก แสดงว่าผิวหนังกันเปียกได้ดีมากๆ

วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

24 May: ดีแต่เปลือก

ไปมหาวิทยาลัย แวะฝ่ายทะเบียนวัดผล ที่มีปัญหาทุกเทอม เพราะมีผอ.ฝ่ายทะเบียนฯที่ไม่ค่อยรู้เรื่องของเทคโนโลยีสารสนเทศ อยู่เอาตำแหน่งไปเรื่อยๆ อะไรๆก็เลยสารพัดปัญหา การแก้ปัญหาแทบไม่มี แต่กลบปัญหาเก่ง มันเลยดินพอกหางหมู การแก้เกรดทำได้โดยง่ายแค่จนท.ทำไม่ได้ผ่านอาจารย์ก็เคยมีมาแล้ว เป็นเด็กในโปรแกรมเราเองเลยรู้ทะลุ มิน่าเด็กตายไปแล้วยังมีเกรดได้ ทั้งอจ.(ที่สอนบ้างไม่สอนบ้างและไม่เช็คชื่อ สงสัยไม่ได้ตรวจข้อสอบ นั่งเทียนอีก เลยไม่รู้ว่าเด็กตายไปแล้ว แต่มีเกรด)

วันนี้ที่ไปเพราะจนท.จัดตารางสอนวิชาเคมีสิ่งแวดล้อม และพิษวิทยาสิ่งแวดล้อม ไปไว้ที่ตึกใหม่ที่มีแต่โต๊ะและเก้าอี้ และอีกวิชาที่ตึกมนุษยศาสตร์ ชั้น 3 เลยงงๆ ว่าแล้วจะทำปฏิบัติการเคมี ทดสอบสาร ได้อย่างไร จินตนาการยังไงก็ไม่ออก ว่าจะต้องหอบตะกร้าอุปกรณ์ไป ยังไง เด็กเดินหอบอุปกรณ์จากตึกที่อยู่หลังสุดของมหาวิทยาลัยไปจนตึกที่อยู่หน้าสุดของมหาวิทยาลัย และหากลืมอะไร ก็ขับรถมาเอาที่ห้อง lab ชั้น 4 ของตึกท้ายสุด แล้วทำ lab ที่ไหน น้ำใช้ล้างอุปกรณ์ ฯ นึกไม่ออก เลยไปถามจนท.ว่าทำไมจัดตารางสอน แบบนี้อีกแล้ว เพราะตรวจสอบแล้วว่าโปรแกรมได้แจ้งห้องที่จะใช้สอนมาด้วย แต่ไม่ได้สนใจ เป็นแบบนี้มาตลอด ห้องเล็กจุ 30 คน จัดคน 50 คนก็มี เพราะไม่เคยรู้สภาพ ผอ.ทะเบียนก็อยู่วิทย์ไม่น่าไม่รู้เรื่อง ถ้าเขาเอาใจใส่ทำงานตามหน้าที่ตำแหน่งและให้คุ้มกับเงินประจำจำแหน่งที่ได้ ก็คงไม่มีอะไรบกพร่องซ้ำซากหลายๆเรื่อง ซ้ำแล้วซ้ำอีก  จนท.ก็ขอโทษบอกว่าจะเปลี่ยนให้ แล้วเขาก็ดำเนินการเปลี่ยนให้ อันนี้อจ.แต่ละคนต้องมาแจ้งกันเอง

เจอกรรมการสภามหาวิทยาลัยคนหนึ่งเลยคุยกันยาว ไปรับรู้เรื่องความไม่มีคุณภาพและตั้งใจทำเช่นนั้นจริงๆของพวกกรรมการ ผู้บริหารและอื่นๆที่เกี่ยวข้อง สงสารประเทศไทย นักศึกษาที่ตั้งใจมาหาความรู้ ที่มีสถาบันการศึกษาแบบสร้างภาพ ผลิตบัณฑิตด้อยคุณภาพออกสู่สังคม งานวิจัยชื่อเรื่องอย่างหนึ่ง ทำอีกอย่างหนึ่ง สภาฯให้กลับไปแก้ ก็แก้บทคัดย่อมา ขอดูรูปเล่มไม่มีให้ เพราะจริงๆไม่ได้แก้เนื้อหาอะไร ทำแต่เขียนบทคัดย่อมาใหม่อย่างเดียว นี่เป็นส่วนน้อย หนักกว่านี้ขนาดจ้างทำกอปปี้ยังไม่มีกรรมการสภาฯจับได้ เพราะกรรมการคุมงานวิจัยไม่ต้องรับรู้หรือไม่ก็....อนาถจริงๆ

ตอนนี้กรรมการสภามหาลัยชุดใหม่ถึงขนาดบอกว่าป.โทที่ต้องนำเสนอชื่อเรื่อง บทคัดย่อให้สภาฯตรวจ ตอนนี้ไม่ต้องเอาเข้าสภาฯแล้วเอาเฉพาะจำนวนตัวเลขที่จบก็พอ ให้พิจารณาที่ระดับสภาวิชาการ ลงล็อก คราวนี้คลิ๊ก ออกช้างม้าได้เลย เพราะเขาไม่รู้ว่าสภาวิชาการของที่นี่ท่านได้อย่างไรมา และถูกครอบ คุม สั่งโดยใคร อันตราย น่าอนาถใจกับสำนึกครู สำนึกคนจริงๆ

กลับบ้านคุยกับ link ว่าต้องวางจริงๆ ไปรับรู้แล้วเศร้าใจกับคุณภาพการศึกษา บางสถาบันเรียนกันอย่างหนักกว่าจะได้โท เอก มา แต่ที่นี่ง่ายมาก ขนาดยอมเปลี่ยนตัวอจ.ที่ปรึกษาป.โทโดยไม่บอกอจ.ก่อน เพราะคุณภาพงานยังไม่ถึงอจ.ก็ไม่ยอมให้จบ แต่นศ.ต้องการจบ คณบดีเลยเปลี่ยนตัวอจ.ที่ปรึกษาแทนเพราะไม่งั้นเสียชื่อที่ต้องคืนทุนเพอช (PERCH) เสียหน้าเสียเครดิตคณบดีที่เป็นผู้ไปขอทุนนี้มา เลยแก้ปัญหาแบบ ( ) ง่ายๆๆๆ ตอนนี้งานป.โท คุณภาพป.ตรี ก็กำลังจะเข้าสอบได้ เศร้าใจ หรือดีใจ ที่มีคนจบแบบ ( ) ง่ายๆ ออกไปในสังคมอีกแล้วดี

มหาวิทยาลัยที่สร้างภาพได้ดี คุณภาพจริงจับไม่ได้ ประเมินตามตัวอักษร รับปริมาณมากเข้าไว้ ผลิต..สู่สังคม เสียดายเงิน เสียดายเวลาของคนที่เข้ามาเรียน เขาควรได้อะไรที่ดีๆออกไป ได้ความรู้ ความคิด สำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ที่ผ่านการบ่มเพาะ และตัวอย่างที่ดีของผู้เป็นครู  ไม่ไช่ออกจากมหาวิทยาลัยที่ ดีแต่เปลือกจริงๆ

วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

23 May: demand=supply=money


นกน้อยทำรังแต่พอตัว รังนกหน้าบ้าน

เช้าไปวัด แวะซื้ออาหารถวายพระอาคันตุกะจากกทม.ที่แวะมาหาพระอาจารย์ ไปเทสโก โอนเงินไปสำหรับถวายค่าหนังสือของวัดท่ามะโอ และโอนเงินไปสำหรับ C1

บ่ายไปซื้อต้นไม้ 1 คู่ ไว้ตั้งที่ด้านหน้าบังตาได้เล็กน้อย

อากาศร้อนอบอ้าว เมฆฝนตั้งเค้าตอนเช้า แต่ไม่ตกมาหลายวันแล้ว ตกแต่งบังเกอร์ให้นกกางเขนต่อ

ฟังข่าวเรื่องที่ดินบนเกาะสมุย เขาแพง แล้วเศร้าใจ เห็นภาพการตัดถนนชัดเจน การแปลงตัวเลขในเอกสารฯ เรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดที่นี่เป็นแห่งแรก มันเกิดทุกที่ในเขตอุทยาน ที่ท่องเที่ยว แหล่งทรัพยากร ฯเรื่องแบบนี้เป็นความละโมบของสองฝ่ายคือข้าราชการ (จนท.รัฐ) และฝ่ายผู้ซื้อขายที่ดิน เพราะ demand=supply กับ need ที่ต้องสนอง เพราะผลตอบแทนคือ money แปลกใจอย่างเดียว ตายไปจะคาบอะไรไปได้เท่าไร หรือตอนมีชีวิตนี้ขาดแคลนอะไรมากมายกระท้่งต้องยอมทำในสิ่งไม่ถูกต้อง น่าสงสารจริงๆ ทั้งรุ่นพ่อแม่ปู่ย่าตายาย ที่ไม่สามารถเลี้ยงหรือสอนให้เขามีพอ น่าสงสารลูกหลานเหลนโหลน ที่ต้องถูกเลี้ยงยังชีพด้วยของที่ได้มาแบบทุจริต ชีวิตจะอยู่เย็น และเป็นสุขจริงหรือ

วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

22 May: กิเลสคน กิเลสนก


กางเขนหาอาหารให้ลูก

เช้าไปวัด กลับมารดน้ำต้นไม้ ฝนหลอกว่าจะตกมาหลายวัน จัดสวนต่อ เที่ยงทานอาหารเสร็จ คุณแอ๋วมา ก็เลยให้วัดกระจก ใช้กระจกสีติดแทน

บ่ายจัดการสวนต่อ จัดการทำบังเกอร์ใบไม้กันแดด กันฝนให้ลูกนกกางเขน

ช่วงนี้มีข่าวทางโลกหลายอย่างที่น่าเบื่อ การเมือง ข้าราชการที่โกงกิน ไม่ทำหน้าที่ด้วยความสำนึก รับชอบไม่รับผิด แปลกที่คนเดี๋ยวนี้คิด พูดอธิบายเรื่องราวที่สวนทางกับคนยุคก่อนมาก ดูเหมือนเรื่องผิดเป็นเรื่องจำเป็นต้องทำ ต้องเห็นใจ กฎ ระเบียบ แทบไม่มี ผู้คนกลั่นแกล้งกันเพื่อสนองกิเลสตน จนแทบไม่เชื่อว่าเป็นคนที่กำเนิดบนแผ่นดินเดียวกัน กินข้าวที่ปลูกบนแผ่นดินผืนเดียวกัน ฟังข่าวแต่ละวันแล้วน่าสงสารคนที่วันๆต้องใช้สมองแก่งแย่งกัน

วันนี้นั่งดูและถ่ายรูปชีวิตนกดูแล้วแสนอิสระเสรี แต่มีความรับผิดชอบ กางเขนตัวผู้คอยเฝ้าดูแลรังของลูก นกอื่นเข้าไกล้ก็ร้องแกกๆๆ ขู่หรือเตือนภัยก็ตาม แม่นกหาอาหารมาป้อนลูก แม้ต้องแย่งอาหารกับแม่นกตัวอื่นก็เพื่อลูกน้อย ตามสัญชาติญาณสัตว์ แต่ไม่สะสมจนเกินตัว และเฝ้าไกล้ๆ บินวนเวียน  เห็นแล้วคิดถึงกลุ่มคนพวกที่โลภมากเกินเหตุ วันๆเฝ้าแต่หาเงินที่จะได้นอกเหนือจากปกติ จนชีวิตต้องขาดอิสระเสรี เพราะอะไรที่ได้มาด้วยความไม่ถูกต้องก็ต้องใช้วิธีที่ไม่ถูกต้องและต้องเป็นทาสของกิเลสนั้นตลอดไปอีกนาน จนกว่าจะมีโอกาสเข้าใจ หรือตระหนัก "เหตุผลของการได้เกิดมาเป็นคน " และ "ชีวิตหลังความตาย" แต่ถ้าโชคร้ายไม่มีโอกาส ตายไปพร้อมโลภะ โมหะ โทสะจริตที่สะสม เห็นผิดเป็นชอบเหมือนหลายๆคนที่สังคมได้รับรู้การตายของคนเหล่านั้น ช่างน่าเห็นใจจริงๆ ชีวิตที่เบามา แล้วหนักไป สว่างมาแต่มืดไป

วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

21 May:เบบี้นก เกิดใหม่

เช้าไปวัด  กลับบ้าน เก็บกวาดเป็นหนูแจ๋วครึ่งวัน เรียงก้อนหินแต่งสวน หลบขึ้นมาเขียนหนีงสือห้องข้างบน เพราะตอนนั้ช่วงบ่ายจะอบอ้าว ฝนตั้งเค้าทุกวันแต่ไม่ตกจริงเลยแย่ ลมแรงครู่เดียวก็หายไป

รอช่างกระจก นัดแล้วใยไม่มาโทรตามก็ผิดนัดอีกเลยไม่โทรตามแล้ว เหมือนกันหมด คนไม่ค่อยรักษาคำพูดกันเลย เขาไม่คิดหรือไงหนาว่าอีกฝ่ายต้องรอ ไปไหนไม่ได้

ค่ำนี้ TZ mail มาบอกจะมา holiday เมืองไทย soon อยากพบเรามาก

วันนี้เอะใจตอนเที่ยงนั่งทานข้าวอยู่ดีๆเห็นนกหน้าขาวลงมากินลูกไม้ที่ฝักเพิ่งแตก เจ้ากางเขนลงมาโจมตี สามสี่รอง ครั้งหลังถึงกับจิกกดบนพิ้นลงมาดิ้น ร้องแกกๆ เหมือนหวงอะไร เราก็แซวว่าสงสัยหวงลูกหรือเปล่าเพราะตรงนั้นเคยมีรังกางเขนแล้ว คิดเล่นๆ พอบ่ายอากี ต้องการใบบอนเลยเดินทาบริเวณนั้น เราก็เลยพลิกลิงที่แชวนดูปรากฎว่ามีลูกกางเขนจริงๆด้วยน่าจะ 2 ตัว มีไข่เหลืออีก 2 ฟองยังไม่ฟัก เราดีใจมาก เพราะคราวนี้เห็น "เบบี้นก" น่ารักมากๆ ปีกเป็นแท่งตลกมาก พรุ่งนี้จะเอารูปลงเก็บไว้ เย็นนี้ไปดูไข่ออกครบได้นกน่าจะ  4 ตัง เพราะเขาอุกเป็นก้อนกลมๅ ไม่อยากไปรบกวน ช่วยจัดรอบรังเอาใบไม้มาดามรอบไม่ให้โดนแดดจัด ตอนนี้คงได้เป็นแม่เลี้ยงอุปถัมถ์นกอีกรอบแล้ว

วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

20 May:


เจ้ากางเขนขาประจำ ช่วงนี้โชคดี มีกินทั้งวันลงมาหาจั๊กจั่นที่ออกจากรูมาลอกคราบ ตอนเช้ามืดหาจั๊กจั่นที่ลอกคราบเสร็จ

เช้าไปวัด ตักบาตร วันนี้วันพระ คืนนี้ตั้งใจจะสวดมนต์ ได้แค่จุดธูปเทียน พอจะสวดรู้สึกแปลกๆด้านหลัง เลยลุกไปเปิดพัดลม เหลือบเห็นคนงานชายที่มาตกแต่งข้างบ้านสองคน ยืนเดินมองที่ระเบียง เลยดับเทียนนั่งสวดมนต์ได้ไม่ครบที่ตั้งใจ เสร็จก็เลยโทรศัพท์หาคุณแอ๋วให้ช่วยมาเปลี่ยนกระจก ติดเป็นกระจกลายพิกุลจะได้มองเข้ามาไม่ได้ หลายวันแล้วที่พยายามหลบ แต่เขาก็ส่องไฟสว่างมากเข้ามา

วันนี้ให้มาตัดหญ้า
เมื่อคืนโทรสั่งร็อตไวเลอร์ 1 ตัวเพศเมีย ตอนนี้อายุเกือบ 3 เดือน ที่ฟาร์มส่งคลิบมาให้ดูน่ารักมาก ตอนนี้หาชื่อให้อยู่ ตั้งหลายชื่อแล้วยังไม่ถูกใจกัน

วันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

19 May:

คราบจั๊กจั่นเต็มหลังบ้าน เสียดาย chitin

เช้าไปวัด กลับบ้าน เที่ยงช่างเชตมาทำงานเลยบอกให้มาบ่าย ก็มาบ่ายเศษ บ่ายสามเศษเสร็จเรียบร้อย จบเสียที project อันน่าเบื่อ(คน) วันนี้อากาศอ้าวมาก

วันนี้เพิ่งตัดสินใจไม่ไปมาเลเซียแล้ว ต้องบอกทางโน้นอีก คราวหน้าจะไปดู oil palm estate ที่ Sabah ไม่รู้ว่าทำกันไปถึงไหนแล้วยังไม่รายงานมา ผลทดลองคราวที่แล้ว fail

วันนี้ข้างบ้านกิจกรรมย้ายบ้าน เริ่มจากการซื้อสารอันตรายเข้าบ้าน เห็นรถบริษัทเฟอร์นิเจอร์ 2 แห่งมาส่งของเห็นแล้วสยอง สารก่อมะเร็ง หอบ หืด ภูมิแพ้ กระตุ้นโรคอื่นๆอีก ลอยอบอวลในบ้านเพียบ ถ้าปูพรมต่อล่ะก็ หนาวจับใจ ทำใจยากที่ต้องเฉยแต่ต้องทำเพราะไม่ได้คุ้นเคยกัน เดี๋ยวจะโดนว่า เกี่ยวอะไรด้วย? หุ หุ

วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

18 May: เจ๊หัว 2/ ใจดีนะไช่ แต่ไม่โง่


ดอกระฆังเงินหน้าบ้าน


เช้านี้ไปตักบาตรอุทิศให้เจ๊หัว หากเจ๊หัวได้รับคงแปลกใจ เพราะเราไม่ไช่ญาติ แต่เป็นลูกค้าที่รู้จักกันและเจ๊หัวเป็นผู้มีน้ำใจเอื้อเฟื้อ มักจะบอกเราเสมอว่า "อาจารย์จ่ายเมื่อไหร่ก็ได้" แล้วเราก็หัวเราะเสมอ ความรู้สึกดีๆ ในความเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ไช่คนค้าขายอย่างเดียว ยังมีมนุษย์สัมพันธ์กับลูกค้า ไม่ไช่คนค้าขายรุ่นใหม่ที่มักทำตัวเป็นนักธุรกิจ สินค้าขายโดยลูกจ้าง พนง. การตัดสินใจก็เป็นพนง.เพราะมีเปอร์เซนต์ลดแน่นอน สำหรับเจ๊หัวจะเดินดู ทักทายลูกค้า ไปร้านสิริสินไม่เคยไม่เจอเจ๊หัว แต่จากนี้ สิริสิน คงเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

วันนี้กลุ่มฮังกาเรียนมาทำงานต่ออีกเล็กน้อย และงานไม่เสร็จจะเบิกเงินที่เหลือทั้งหมด หลังจากที่เมื่อวานเบิก2 ครั้งที่ไหนเขาทำกันแต่เราให้ ไม่อยากฟังคำอธิบาย เพราะเขาผิดคำพูด วันนี้เลยบอกคนไทยว่า คนเราที่ทำงานรับจ้าง ต้องรักษา 2 สิ่งคือรักษาเวลา และรักษาคำพูด ตกลงอย่างไร ต้องเป็นเช่นนั้น หากไปทำที่อื่นใครจะให้เบิกเงินมากและบ่อยเกินข้อตกลงขนาดนี้ ปัญหาของคุณๆต้องแก้ ไม่ไช่มาลงที่ลูกค้าให้มารับรู้อะไรๆของคุณ การเบิกเงินไม่ได้จากที่อื่นไม่เป็นเหตุให้คุณมาเบิกล่วงหน้าที่นี่แทน ยังไม่ทำงานจะเบิกก่อนลงมือทำ 35 % โดยวัสดุทั้งหมดเราก็เป็นผู้ซื้อ ไม่มีใครเขาให้กัน เรายืดหยุ่นให้ 3 งวดโดยจ่ายวันที่สองของการทำงาน ให้ไป 3000 บาทก็ขอเป็น 4000 บาท เราก็ให้ อีกวันทำครึ่งวัน และอีกครึ่งวันขอเบิก 3000 อีก ตั้งแต่เที่ยงก็ให้ เย็นจะขออีก 1500 บาท เราไม่ให้ แต่ใจอ่อนสงสารคนไทยเพราะอ้างว่าฝรั่งไม่แบ่งให้ เลยให้ไป 500 บาท แต่วันนี้เหลือเกินจริงๆขอเบิกหมดอีก 2500 บาท บอกว่าอีก 2 วันจะมาทาเคลือบให้ จะเอาบัตรประชาชนทิ้งให้ไว้ก่อน เราบอกไม่เอาบัตร แต่ขอไม่จ่ายนะ พวกคุณไม่รักษาคำพูด และยังไม่เกรงใจกันอีก (เกือบจะบอกว่า ใจดีนะไช่ แต่ไม่โง่) และก็บอกให้ช่างไทยคนนี้เข้าใจ และให้ไปบอกเพื่อนเขาด้วยว่าหากทำตัวแบบนี้จะดีไม่นาน แม้ทำงานดีแต่ไม่รักษาสัจจะคงไม่มีใครจ้าง ที่ทำกับเราก็ไม่เป็นตามรับปากแต่เราไม่อยากจะเคี่ยวเข็ญ วันหนึ่งเขาจะต้องเจอคนที่เขี้ยวไม่ยอมเขา ซึ่งมีมากมายแล้วเขาจะเรียนรู้หากไม่ปรับพฤติกรรม .....อย่างน้อยเรามีงานอีก 5 ชิ้นใหญ่ๆก็ไม่กล้าให้เขาทำแล้ว และก็ไม่กล้าแนะใครต่อเดี๋ยวจะโดนเหมือนเรา

วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

"เจ๊หัว" สิริสิน (17 May)

คราบจั๊กจั่นบนต้นไม้หลังบ้าน
by meepole
มหาวิทยาลัยเริ่ม scan นิ้วตั้งแต่ 16 ที่ผ่านมา ตั้งใจตักบาตรแต่ออกไปสายเกิน วันนี้เช้าไปวัด ซื้ออาหารไปถวายเพล ไปถึงพระอาจารย์มีแขกนั่งอยู่ รู้ตอนหลังว่าเป็นคนที่ขับรถเฉี่ยวแล้วหนีก่อน และยังไม่มาขอขมา เพิ่งมาขอขมา ก็มีข้ออธิบายว่าวันนั้นรีบไปยื่น..ของลูกความที่ศาล จวนเวลาเลยรีบมาก ฯ .....

วันนี้เพิ่งรู้ข่าว "เจ๊หัว" เจ้าของกิจการร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า "สิริสิน" เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ตั้งแต่เราวัยรุ่นก็รู้จักร้านนี้แล้วเราและ link รู้จักเจ้หัว และสามีมานานยี่สิบกว่าปี เจอก็คุยทักทายด้วยไมตรีจิต เจ้หัวเป็นคนตัวเล็กกระทัดรัด ใบหน้ามักยิ้มเสมอสำหรับลูกค้า สำหรับเราในฐานะลูกค้า และรุ่นก๋งยายแม่ที่รู้จักกัน เจ้หัวเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจ มีมนุษย์สัมพันธ์ดี มีความเอื้อเฟื้อ มีความยืดหยุ่นให้ลูกค้า มีวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลทันสมัย มีกลยุทธ์ในการคิด พูด ทำ ในบั้นปลายชีวิตเราเห็น เจ้หัวอยู่ในกลุ่มรำไทเก็ก  ออกกำลังกายตอนเช้า ทำกิจกรรมสังคม ทุกปีวันเข้าพรรษาก็จะชวนกลุ่มมาถวายเทียนพรรษาตามวัดต่างๆเสมอ  เจ้หัวหาเสียงให้ลูกๆจนประสบความสำเร็จในการเมืองท้องถิ่น ด้วยความที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ลูกๆจึงได้รับส่วนของความดีที่แม่ได้สร้างสะสมเป็นเวลานาน ก็หวังว่าลูกๆคงสืบทอดความดี ความเอื้อเฟื้อ มิตรไมตรีต่อลูกค้าเหมือนที่รุ่นแม่ได้สร้างชื่อมา

วันนี้พระอาจารย์ (เจ้าคณะภาค 16) ได้ไปร่วมในงานรดน้ำศพ ท่านบอกว่าเจ้หัวได้ฝากฝังลูกๆให้ช่วยดูแลทะนุบำรุงพระพุทธศาสนา ซึ่งลูกๆก็ได้สนองความต้องการของแม่ด้วยดี นับเป็นบุญของเจ๊หัว เราและ link เพิ่งได้เจอเจ้หัวไม่นานที่ผ่านมาอาจ 3-4 เดือน ไปหาซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เย็น เจ้หัวก็เดินมาทักทาย เสียงของเจ๊หัวจะเนิบๆ มักทักทายเราสองคนเวลาเจอกันว่า "สวัสดีค่ะอาจารย์ สบายดีนะ"  ครั้งนี้เราก็ยังถามถึงสุขภาพท่าน ก็สดชื่นดี เห็นแต่สูงอายุตามวัยแล้วเท่านั้น วันนี้รู้ข่าวก็ตกใจ เพราะรู้สึกเร็วไป ตั้งศพที่ศาลา1 วัดโพธิ์นิมิตร

ทุกคนถึงเวลาก็ต้องไปตามทางที่แน่นอน คือความตาย เหลือแต่ความดี ที่ทำไว้ในแต่ละส่วนของสังคมขณะที่มีชีวิต ที่จะหนุนส่งให้ไปสู่ภพภูมิที่เหมาะ ด้วยแรงบุญกรรมที่สะสมกันมา ขอให้เจ๊หัวหลับให้สบาย มีสุคติเป็นที่ตั้ง เราตั้งใจจะไปตักบาตรให้ท่านเช่นกัน

วันพุธที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

16 May: เรื่องเจ้าท่า ที่ไม่เคยชัดเจน

ay
น้ำปริ่มริมตลิ่งทุกวัน ไม่เข้ามาในเขตดินเดิม



เมื่อสองวันที่ผ่านมาได้คุยกับนักธุรกิจคนหนึ่ง ทีต้องพบปะเกี่ยวข้องกับคนมากมายในหลายสาขาอาชีพ คำพูดตอนหนึ่งที่กล่าวด้วยความจำนน จนเป็นธรรมดาในสังคม แต่ฟังแล้วน่าเศร้า คือเรื่องการที่ต้องจ่ายทุกอย่าง ทั้งเงิน เหล้า เบียร์ ฯ ให้กับข้าราชการบางหน่วยงานที่ต้องการได้ผลงาน บางครั้งเขาอยากได้ความรวดเร็วไม่อยากเป็นปัญหา ก็จ่ายเงิน ทุกอย่างจ่ายก็จบ เขาจึงเคยชินกับสิ่งนี้มากจนพูดว่า เขารับรองด้วยตัวเองว่าเขาไม่เคยพบข้าราชการที่ไม่ทุจริตเลย เอาทั้งนั้นมากหรือน้อย  ไม่ให้ก็ตามคอยจับผิด เขาไม่อยากวุ่นวายก็จ่ายๆไป เราเลยบอกว่าไม่ทุกคนหรอก คนที่คุณไม่รู้จักมีอีกมากที่อาจดี แต่เราที่ยืนตรงหน้าคุณและสามีที่เป็นข้าราชการ ขอยืนยันตัวเองได้ว่าในชีวิตราชการไม่ทุจริตคอรัปชั่น กล้ายืนยันตัวเองและกล้าให้บอกกล่าวถามทุกคนที่ๆทำงาน ไม่ว่าคอรัปชั่นเชิงนโยบายที่นิยมกัน หรือจะมาในรูปแบบใด ถ้าผิด ชั่ว  ไม่ทำทั้งสิ้น  และกล้ายืนยันใน "ดี" ของตนและครอบครัวด้วยความภูมิใจ

จนกระทั่งมาเจอเหตุการณ์กับตัวเองเมื่อวานนี้ ที่เป็นผลต่อเนื่องจากที่เคยเป็นปัญหา เรื่องมันยาวมาก สรุปได้ว่าเจ้าหน้าที่คือผู้ที่คนที่อยู่ริมน้ำเรียกเขาว่า เจ้าท่า เขามาเพราะข้างบ้านเพิ่งย้ายมาแล้วถมที่หลังบ้าน เราทำก่อนเขาประมาณ1 อาทิตย์ ของเราลอกตักโคลนเอาผักตบ และหญ้าน้ำที่เหม็นออก เอาต้นปอที่หักตั้งแต่น้ำท่วมคราวที่แล้วรกไปหมดออก เพราะต้นปอทะเลข่วงล่างหักเน่า มีงูมาก (เข้ามากัด larna  ตาย) และรกรุงรังมาก ข้างบ้านที่เขาอยู่ก่อนแล้วและมาทีหลังเขาสร้างบ้านล้ำที่ ออกมาลงในคลองและที่สาธารณะมากกว่า 15 เมตร เขาทำเขื่อน สร้างสระว่ายน้ำในที่นอกหลักเขต (เพราะหลักเขตเสมอกันทุกบ้าน หากไม่แอบย้ายหมุดออกมาทีหลังเหมือนที่บางแห่งทำกัน) จนตอนนี้ดินเลนมาถมเพิ่มที่บ้านเราเรื่อยๆ จนเป็นเนิน ผักตบเข้ามาก็ติดออกไปไม่ได้ตอนน้ำลง  บางทีมีหญ้าน้ำ ทางต้นจาก บางทีเป็นขวด โฟม ลอยมาติด ไม่เคยมีการขุดลอก เราถามจนท.เจ้าท่าบอกว่าปกติมอบหมายให้หน่วยงานชุมชนไปแล้ว ?

แต่บ้านของเราเป็นบ้านเดียวที่ไม่ทำอะไร ไม่ถมที่ออกไปในคลอง หรือสร้างศาลาเหมือนหลังอื่นๆ เพราะสามีบอกว่าทำเช่นนั้นอยู่ไปก็ไม่มีความสุขเพราะเบียดบังสาธารณะ เราก็เลยทำอย่างเดียวคือปักไม้ไผ่ห่างๆ กั้นไม่ให้ผักตบชวาเข้ามามากนัก เพราะงูมาเยี่ยมทุกอาทิตย์ (ที่สุนัขกัดตาย) ที่รอดไปไม่รู้กี่ตัว หากคิดจะเบียดบังที่คลองคงทำไปหลายปีที่เริ่มซื้อเพราะทุกบ้านทำกันหมด และเงินไม่ได้เป็นปัญหาเลย แต่ความละอายใจที่จะถมเอาที่คลองมาเป็นของตนนั้นมีมากกว่ามาก ไม่ทำจนเกิดปัญหาในวันนี้

 สามปีที่แล้วจนท.ของเจ้าท่าเขาเคยมาดูบ้านหัวซอยที่สร้างศาลาลงในน้ำ (ตอนนี้ยังอยู่เรียบร้อย สวยงาม)  ก็เลยเดินมาดูเรื่อยๆ ก็พบว่าบ้านเราบ้านเดียวที่ไม่ทำอะไร เขาเลยแนะให้เราทำเขื่อนกั้น เราไม่คิดจะทำ เขากลับบอกว่า ถ้าไม่ทำน้ำจะเซาะข้างใต้ บ้านอาจจะทรุดพังในอนาคต เราก็เลยทำเพียงหาคนมาตอกเข็มมือ เอาแผ่นปูนมากั้นข้างใต้กันน้ำเซาะแค่นั้น ไม่ถม ไม่นานก็มีเรื่อง เจ้าท่ามาตรวจ จากนั้นเรื่องขึ้นศาลตามระบบ จ่ายเงินค่าปรับให้ถูกต้องตามระเบียบ ไม่ต้องโทษใคร โง่เองที่เชื่อจนท.รัฐ



กำแพงบ้านข้างๆที่ล้ำออกมา  เห็นศาลาข้างสระว่ายน้ำในบ้านของคนข้างบ้าน
 ผักตบที่กองไกล้ๆนี่คือที่ของเรา จะเห็นแนวดินโคลนเดิม และแนวที่ถมเพิ่มสูงขึ้นไปประมาณ 40-50 ซม.

 ตอนนี้เอาอีกแล้ว เพราะผู้รับเหมาพาเจ้าท่าผู้หญิงมาดูว่าจะถมดินบนที่เดิมโดยไม่ล้ำออกไป เพิ่มได้ไหมเพราะฤดูน้ำหลากกำลังมาและปีที่แล้วน้ำเซาะเข้ามาในกำแพงด้านใน ส่วนด้านนอกก็พาเอาดินหายไปเยอะ  เลยปีนี้ไม่อยากให้น้ำล้นเข้ามาอีก และข้างบ้านอีกด้านเพิ่งย้ายมาคงจะปิดทางเข้าออก เลยให้ผู้รับเหมาไปถามเจ้าท่า เขาพามาดู เจ้าท่าผู้หญิงบอกถมได้แต่อย่าล้ำ ปรากฎว่าทำเสร็จ จนท.เจ้าท่าอีกฝ่าย(จตุพร) มา บอกว่ามีคนฟ้อง เราก็ออกไปตอบคำถาม ตามผู้รับเหมาที่พาเจ้าท่าหญิงมาดู และเขาแนะนำว่าถมได้ ถมสูงเท่าใดก็ได้แต่ห้ามถมล้ำออกไป แน่นอนผู้รับเหมาระวังจึงถมเหลือไว้จากที่เดิมประมาณ ครึ่งเมตร เราชี้ให้จนท.ดูตลอดแนวน้ำ ให้ดูบ้านอื่นที่สร้างทุกอย่างลงคลอง สร้างกระทั่งสระว่ายน้ำในบ้านในที่สาธารณะ  ตัวบ้าน ศาลาวางอยู่ในที่สาธารณะเขาทำได้ และอยู่ได้ ส่วนคนที่พยายามอนุรักษ์ ไม่เบียดเบียน กลับต้องมาเดือดร้อน

 ของเราตอนนี้ เขาบอกว่าการลอกโคลน เอาผักตบขึ้น ก็ต้องไปขอแบบฟอร์ม และใช้ได้ 6 เดือน หลังจากนั้นจะทำต้องไปขออีก เขาขอให้เรายื่นขอเขียนแบบสร้างท่าจอดเรือตั้งแต่คราวที่แล้ว แต่เราไม่ทำเพราะเราไม่สร้างเขื่อน ไม่ทำท่าจอดเรือ เพราะเราตอบเขาว่าเราไม่มีเรือ

 เราเอาแผนที่อากาศให้เจ้าท่าดู (จตุพร) ว่าแต่ละหลังทั้งหลายตลอดแนวน้ำนี้ที่สร้างล้ำแบบนั้นแล้วคุณเห็นตอนนี้ คุณคิดอย่างไร จนท.คนหนึ่งตอบว่าเขาทำไปแล้ว เจ้าท่าไม่เห็นตอนทำ คำตอบนี้เราสะอึก เลยถามต่อว่าอะไรที่ทำผิดแล้วก็เลยตามเลยไช่ไหม เขายิ้มเป็นคำตอบ  อยากถามเจ้าท่าจังว่าเลือกปฎิบัติ เลือกเห็น หรือเลือกทำหน้าที่ด้วยอะไร คนที่พยายามอนุรักษ์ ไม่ลุกล้ำ เพียงต้องการป้องกันความเสียหายไม่ให้เกิดซ้ำ (กำแพงทรุด) กลับต้องมีเรื่องวุ่นวาย  ว่าล้ำ ว่าถมไม่บอก (ก็ให้จนท.มาดูเองแล้ว) จะให้เชื่อใคร ตอนนี้ผู้รับเหมาก็ถูกแจ้งข้อหา เขาบอกเราว่าคงต้องเขียนแบบ เราบอกว่าไม่ขอรับรู้เพราะเราไม่เขียนแบบ เรายินดีจ่ายเงินค่ารื้อขนดิน เพราะเขาให้ขนดินออกหมดเพื่อจะมาถ่ายรูป เรายินดีที่ไม่ต้องไปรบกวนใคร ระดับใหน แต่ต้องการอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยให้ "ความยุติ ด้วยธรรม" ไม่รู้จริงๆว่ามีหรือไม่ในหน่วยงานกรมเจ้าท่า

ไปเล่าให้หลายคนฟังเขาหัวเราะกันแล้วบอกว่าเราไม่รู้จริงหรืออะไรคือเขียนแบบท่าจอดเรือ ก็บอกว่าไม่ทราบ เพราะเราไม่เห็นใครมีเรือมาจอดจริงๆสักราย
 เราก็ยืนยันผู้รับเหมาว่าไม่จำเป็นต้องเขียนหรอก ที่ถมดิน (หินคลุก) เพราะไม่ได้คิดจะทำอะไรจริงๆ ขอเพียงกันไม่ให้หญ้าขึ้นรก ไม่ให้งูจากน้ำเข้าบ้าน กันไม่ให้น้ำท่วมมาถึงกำแพง (เพราะบ้านเราไม่ได้ถมสูงเหมือนบ้านติดกัน ตอนนี้ต่ำกว่าทุกบ้าน)  ทำแค่นี้ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เชื่อเจ้าท่าอีกรายที่ให้มาดูและก็แนะนำผู้รับเหมาไปแล้ว  ทำไมเขาไม่ดูเจตนา เราเลยงงมากว่าอะไร?? ยังมีรายละเอียดมากกว่านี้อีก แต่บอกกับตัวเองว่าต้องยืนหยัดในความถูกต้อง ไม่ดูถูกข้าราชการด้วยกันโดยการแก้ปัญหาด้วยเงิน เอาเงินไปสงเคราะห์คนที่ควร ทำบุญกับผู้ที่เหมาะ ได้บุญและยังไม่ต้องสนับสนุนเรื่องไม่ถูกต้องอีกด้วย

นี่น่ะหรือคือ "ข้าราชการ" ผู้ทำหน้าที่สนองคุณแผ่นดิน ความชัดเจนที่ควรต้องมีให้แก่ประชาชนผู้ไม่รู้ ผู้ไม่คิดจะทำในสิ่งผิด อย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา จริงใจ ขอได้ไหม

มาหมายเหตุต่อท้าย: เย็นนี้ไปทานข้าวกับกลุ่ม เล่าเรื่องนี้ให้ฟังอีกพวกเขาตั้งข้อสังเกตุกันว่าสงสัย?อาจจะถูกจนท.วางแผนล่อให้ทำ แล้วนำจับหรือเปล่าเพราะสองครั้งเป็นแบบเดียวกัน จนท.มาบอกให้ทำ หลังจากนั้นก็มีคนมาแจ้งว่าผิด  อีกครั้งจนท.ระดับบนมาเองบอกทำได้  ถมเลย ถมเช้าเสร็จหมด บ่ายสองจนท.มาครบ 4 คน...บอกว่ามีคนฟ้อง หุ หุ พวกเพื่อนเขาก็บอกว่าไปขวางกระแสทำไม..ให้เขาเขียนแบบก็หมดเรื่อง เราบอกว่าอยากจะให้ประเทศไทยมีข้าราชการดีเหลืออยู่ ไม่ทุจริตเองและไม่สนับสนุนให้ข้าราชการทุจริตด้วย และอยากพิสูจน์ว่า การเป็นคนที่ยืนหยัดในความถูกต้อง จะไม่มีคนดี ความดี มาช่วยเลยหรือ ไช่ไหมคะ และคนที่ล้ำเขตอย่างชัดเจนไม่ต้องรื้อถอนเพราะได้ขอเขียนแบบท่าจอดเรือเรียบร้อย ไม่ต้องดูเจตนาเลย ไช่ไหมเจ้าคะท่านอธิบดีกรมเจ้าท่า

"ในการดำเนินชีวิตของเรา เราต้องข่มใจ
ไม่กระทำสิ่งใดๆที่เรารู้สึกด้วยใจจริง ว่าชั่ว ว่าเสื่อม
เราต้องฝืน ต้องต้านความคิด และความประพฤติทุกอย่าง ที่รู้สึกว่าขัดกับธรรมะ"

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ไม่มีหนี้ชีวิต/ไม่มีลูก


เช้าฮ้งกาเรียนมาทำงาน สายสมศักดิ์มาจัดการเรื่องดิน บ่ายสองเศษ จนท.มาตรวจ ไม่คาดคิดว่าเร็ว เลยได้โอกาสเปิดแผนที่ให้ดูตลอดแนว แล้วถามว่าพวกคุณเห็นแล้วรู้สึกอย่างไร คนที่ทำไม่ถูกชัดเจนมาก กับคนที่ไม่ล้ำออกไป คนที่พยายามอย่างยิ่งที่จะอนุรักษ์ธรรมชาติ แต่ก็ต้องป้องกันน้ำถล่มมาอีก กลับถูกรบกวน เพราะไม่ยอมรับการเขียนแบบแปลน เพียงเราไม่ต้องการจ่ายในสิ่งที่ไม่ได้ทำ และไม่เคยคิดจะทำ

วันนี้เขียนเรื่อง ไม่มีหนี้ชีวิต/ไม่มีลูก  หลายคนไม่มีลูกแล้วทุกข์ ทุกข์มากด้วย เราเคยพูดกับหลายๆคนแล้วว่ามันเป็นโอกาสดีที่คุณสามารถใช้ความอิสระ สร้างสรรค์สิ่งต่างๆมากมาย คนมีลูกมากมายที่มีทุกข์จนกว่าลูกเอาตัวรอดได้ บางคนจนตายยังไม่พบสุขที่สงบ น่าเศร้าจริงๆ
http://meecorner.blogspot.com/2012/05/blog-post_14.html

วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

13 May: ยืนหยัดในความถูกต้อง/ ข้าราชการ


รากไทรหลังบ้าน

วันนี้เช้าไปช่วยกันเตรียมเอกสาร จัดระบบข้อมูลให้พระอาจารย์เตรียมไปประชุม เพลถวายภัตตาหารพระ 3 รูป บ่ายกลับ

เช้านี้โตเรียกคุยอีก เบื่อจัง แต่ก็คุยนะเพราะเขาต้องการข่าวไปบอกเจ้านาย ก็ให้สิ่งที่อยากรู้ไป แต่เราบอกว่า ไม่ว่าอย่างไร เราไม่มีวันที่จะให้สิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่ว่าเงิน หรือ อบายมุขของเมาต่างๆแก่พวกข้าราชการที่ไม่ทำงานตามหน้าที่ หากคิดแต่จะใช้หน้าที่แลกเปลี่ยนกับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เราไม่อยากให้พวกเขาทำผิด ไม่สนับสนุนให้ทำผิด

 ดังนั้นหากแถวข้างบ้านจะทำอะไรที่ไม่ถูก เราไม่ขอเกี่ยว แต่เราจะทำสิ่งที่ถูกและไม่มีวันไปหาพวกข้าราชการพวกนั้น แต่หากมีอะไรสงสัยก็ขอให้มาถาม มาดูเอง เพราะจะเห็นความจริงทั้งหมด ว่าการที่พวกเขาไม่ปฎิบัติตามระเบียบ เลือกปฎิบัติ ก่อเกิดความเสียหายอย่างไร ในเมื่อบ้านเราไม่ทำแบบบ้านอื่นๆ ที่เอาที่สาธารณะมาเป็นของตน ทำกระทั่งออกโฉนดที่สาธารณะมารวมกับที่ตนได้ ทุกอย่างเพราะเงินซื้อศักดิ์ศรีของบางคนได้ แต่เราเชื่อว่าการโกงที่สาธารณะมาเป็นของตน ไม่มีวันที่ครอบครัวนั้นจะอยู่อย่างสงบสุขได้ แล้วเราจะพิสูจน์กัน !!

 ขอให้เรายืนหยัดในความถูกต้องเช่นนี้ได้ตลอดไปเถิด มารอย่ามาเขย่าเลย


ริมคลอง

 บ่ายฝนตกโครมเดียวจอด เย็นนี้อากาศอบอ้าวมาก

วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

12 May:


ดอกพุด ที่บ้าน

วันนี้ยุ่งหลายเรื่อง คุยกะโต และ สัจจะ น่าเบื่อเหมือนกัน เลยไปคุยให้กีกะแปะฟังว่าเจอคำพูดแบบนี้เป็นงงไหม เห็นแก่ตัวจนพูดไม่ออกเนอะ ปล่อยเขาไปเราไม่ไช่ครูเขา

ไกล้เที่ยงไมค์ให้แอ๋วมารับเราไปเคียงเล เสร็จพาไปดูโรงงาน particle board เจอหมาคล้ายพ่อลูกมอม น่ารักมากเลย

เราพาพวกเขาไปไห้วหลวงพ่อพัฒน์ เราขอเหมือนเคย สุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย พบแต่คนดี

พาไมค์แวะมาบ้านเรา แอ๋วบอกเรื่องสัจจะว่าเคยมีปัญหากะลูกหนู (ไพทูรย์) มาก่อน

เย็นฮังกาเรียนมาคุยตกลงงาน

ค่ำไปทานก๋วยเตี๋ยวกะกีและแปะ คุยเรื่องรังนกให้เขาฟัง

วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

11 May: กลุ่ม mike


เห็ดบนโคนมะละกอหลังบ้าน

เช้าอยู่บ้าน  สายๆ mike โทรมาบอกว่ามาถึงสฎ. แล้ว จะไปดูรง.น้ำมันปาล์มก่อน นัดเจอกันเย็น (ค่อยมาเล่าต่อ) เที่ยงทำก๋วยเตี๋ยวราดหน้าทาน บ่ายประชุม

บ่าย link ทำแบบประเมินการอบรมให้พระอาจารย์  วันนี้ทราบข่าวหลวงพ่อนวล วัดไสหร้า มรณะภาพแล้ว

ค่ำนี้ไปสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนเก่าใหม่  นัดเกือบทุ่มแล้วไปทานกันที่เรือนไทย แนะนำกันทั้งเพื่อนใหม่เก่า กลุ่มญว.(หาดใหญ่วิทยาลัย) อารีย์ อุ้ย และภรรยา (ทำขนมเก่ง) นิด ไตรภูมิ แอ๋ว กลับ 5 ทุ่ม แอ๋วมาส่ง จุดใต้ตำตอ นิดเคยเรียนภาษาอังกฤษกับแม่เรามาก่อน เขาบอกว่าเขาประทับใจแม่เรามาก ก็ดีใจแทนนะ

ด้วยวัยที่ไกล้ๆกันทำให้คุยเรื่องสุขภาพ ธรรมะ และกลุ่มพวกเขาก็สนใจธุรกิจ ทุกคนมีไฟ ยกเว้นเรา แต่ก็ฟังเขาได้เรื่อยๆ

วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

10 May: priority ของไอน์สไตน์


ภาพโต๊ะทำงานของไอน์สไตน์

มุมมองของท่านพุทธทาสที่วิจารณ์ไอน์สไตน์

"ทำไมโต๊ะทำงานของไอน์สไตน์จึงรกที่สุด? ...เพราะว่าสมองของเขามัวแต่เปนระเบียบอยู่ด้วยข้อคิด และความเห็นแจ้ง จนไม่มีโอกาสเอาใจใส่กับสิ่งของบนโต๊ะนั่นเอง"
บันทึกลายมือของท่านพุทธทาส จากหนังสือ บันทึก นึกได้เอง

วันนี้ได้รับข่าวของเพื่อนที่เรียนป.เอกด้วยกันจากแดนไกล ดีใจเช่นกัน เช้าเอกกะแป๋วมาช่วยจัดการโยกย้ายต้นไม้ ถ่ายกระถาง 11.30 น.ตามฤกษ์ รถแทรกเตอร์มาช่วยกลบเกลี่ยดิน ให้สมศักดิ์ 5000 ไปช่วยจัดการจ่ายค่ารถ
บ่ายไปดูบ้านไม้ของลูกศิษย์ ไปบิ๊กซี แล้วกลับ ซื้อตับมาต้มให้เด็กๆ ชาบูชอบมากกกกก ตามติดตลอด

อากาศอบอ้าวมากอีกแล้ว

วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

9 May:


แมงปอ หน้าบ้าน

สายไปช่วยงานพระอาจารย์ที่จัดอบรมโครงการเพิ่มทักษะการถ่ายทอดความรู้สู่เยาวชน แก่พระวิทยากร ทั้งหมด 30 กว่ารูป โดยวิทยากรคือ นพ.พงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา

เจอคนหลายคนที่เคยรู้จักและเพิ่งรู้จักฟังเขาพูดจนเมื่อยหู แต่ที่ได้สาระและน่าสนใจมากคือคุณพ่อคุณหมอที่อายุ 82 แข็งแรงมาก ท่านเล่าหลายเรื่องให้ฟัง (แล้วค่อยนำมาเขียนต่อ วันนี้เหนื่อยจัง) ท่านให้หนังสือที่ท่านเขียนเองชื่อ "เสียงจากโลงศพ" เพราะท่านเริ่มเขียนเมื่อท่านอายุ 76 ตอนที่หมอบอกว่าท่านจะมีอายุเหลือไม่เกิน 4 เดือน เพราะเป็นมะเร็งลำไส้ ในที่สุดท่านหายได้แบบสบายๆ และอยู่ต่อมาจนบัดนี้ ท่านสอนหลายเรื่อง

กลับบ้านมาจัดการเรื่องคุณเอกที่ย้ายกองใบไม้ สมศักดิ์ที่มาจัดการเรื่องย้ายของหลังบ้าน บ่ายฝนตกหนักมากจริงๆ หมาๆทั้งหลายตกใจเสียงฟ้าคำรามมารวมตัวเป็นกระจุก

บ่ายแก่กีชวนไปร้านต้นไม้ เขาไปเปลี่ยนลูกหินลอยน้ำ เลยไปดู กลับ 18.10 น. ชวนกันไปทานก๋วยเตี๋ยวต่อ แล้วเลยไปชมกิจกรรมของพระอาจารย์ กลับ 3 ทุ่มเศษ ระหว่างทางขาวก็บ่นเรื่องหา passport ไม่พ บพรุ่งนี้ ต้องไปทำใหม่แล้ว เราเลยบอกวิธีที่เราใช้ให้จุดธูปบอกท่าน หรือตั้งจิตให้ดีแล้วนึกถึงท่าน เพราะเคยใช้มาแล้ว ได้ผลจริงๆ แบบงงๆ ว่าเจอได้ไง กลับถึงบ้านเอารูปพระท่านไปให้ขาวดู บอกให้ตั้งจิตระลึกถึงให้ดี  เสร็จก็กลับบ้าน อาบน้ำ และก็ลงมาได้ยินเสียงโทรศัพท์ ขาวโทรมาบอกว่าเจอแล้ว  ยังไม่ทันได้จุดธูปบอกเป็นทางการเลย ก็คงต้องหาโอกาสไปทำบุญแบบที่อธิษฐานไว้

วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

8 May :ถวายสังฆทาน

ดาหลาขาว หลังบ้าน

เช้าเรากะ link ไปทำบุญถวายสังฆทานอุทิศกุศลให้บุพการี นิมนต์พระ 5 รูปให้สวดที่กุฎิพูลศีล ปีนี้จัดของทุกอย่างเองถวายใส่ถังเหล็กสวยมาก เสร็จแล้วช่วยงานเอกสารพระอาจารย์ต่อ จนเพลกลับ

เย็นหยีแวะมาคุยจนพลบค่ำเดินกลับมาเจอกีเลยคุยต่อ จนหยีแยกตัวไปก็คุยกะกีต่อจนทุ่มเศษ วันนี้ได้ยืนคุยเกือบ 3 ชั่วโมง ค่ำบอกสมศักดิ์ให้จัดการเรื่องรถเกรดดินด้วย คืนนี้สวดมนต์แล้วอุทิศให้อีก

วันนี้ฮ้งกาเรียนมาถามเรื่องงานอีก ก็เลยให้ทำงานเล็กไปก่อน ใจอ่อนตามเคยไม่รู้คราวนี้จะเป็นไง หากมีปัญหาอีกก็คงได้เข็ดจริงๆเสียที

วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

7 May: สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม

ลูกแก่ของดอกหอมเจ็ดชั้น

เพลไปวัด สั่งอาหารไปถวายพระอาจารย์ออกไปรับแล้วเลยไปวัด link อยู่ช่วยงานเอกสารจนเย็น แล้วเลยไปดูสถานที่จัดประชุม วางแผนการจัด แลัวเดินกลับมาขึ้นรถ ก็ได้ยินเสียง เหมือนลูกนกร้องถี่ๅแต่เสียงอยู่ต่ำแถวพื้นเรากะ link เลยมองหา พระอาจารย์ที่เดินนำหน้าไปก่อนหันกลับมาเห็น เลยบอกข้ามมาว่าระวังลูกที่พื้น เลยมองลงไปเห็นงูเขียวคอแดงกำลังกัดลูก(น่าจะ) ปาด ไม่น่าจะกบ ขาหลังข้างหนึ่งหายไปแล้วในปากงู เหลือส่วนอื่นครบปากมันก็ร้อง เราคิดไม่ตกว่าจะช่วยหรือไม่ช่วยเพราะคิดว่ามันรอดจากปากงูก็อาจไม่รอดชีวิต เพราะไม่แน่ใจว่างูมีพิษไหม และหากจะช่วยคงต้องจัดการกับงู เลยไม่อยากจะติดกรรม แต่สงสารปาดจับใจ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ถ่ายรูปจากมือถือไว้แต่ยังไม่ได้เอาออกมา ในที่สุดต้องตัดใจเดินจากไปเหมือนคนแล้งน้ำใจ ไม่สบายใจนัก นี่เป็นครั้งแรกที่เราไม่ได้ช่วยสัตว์ที่กำลังได้รับอันตรายต่อหน้า เฮ้อ ! คืนนี้สวดมนต์อุทิศบุญให้
 กมฺมุนา วตฺตตี โลโก : สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม  

วันอาทิตย์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

6 May:


นกหน้าบ้าน

วันนี้สายๆ clear ระเบียงให้โล่งขึ้น เอาของที่ไม่หยิบใช้ทิ้งไป จากนั้นก็จัดการเอกสารในบ้านที่กองๆๆๆได้อีกจำนวนหนึ่ง บ่ายปั่นตำราต่อ

วันนี้ฝนตก ดี แต่น้อยไปหน่อย

บ่ายสามไปวัด link ไปช่วยพระอาจารย์จัดหน้าเอกสารจนเย็นจึงกลับ
ค่ำนี้เพิ่งเห็นพระจันทร์ขึ้นสว่างชัดสวยมาก น่าจะโตกว่า super moon อีก เลยไม่แน่ใจว่า เขาดูผิดวันหรือเปล่า :)

เมื่อวานโรงงานสารเคมีที่มาบตาพุด ระเบิด วันนี้ที่เหมราช ระยอง ระเบิด สงสารคนงานตาดำๆที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ตายก็มี บาดเจ็บก็มาก ที่จะสุขภาพเสียต่อเนื่องจากสารพิษไปทำลายระบบหายใจ จนถึงเยื่อปอดนี่สิน่ากังวลแทน

วันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

5 May : วันฉัตรมงคล/ สารก่อเกิดการเบี่ยงเบนทางเพศ

ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

วันนี้ วันฉัตรมงคล เป็นวันที่ระลึกในการครบรอบปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับพระบรมราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทยโดยสมบูรณ์

เช้าไปวัด กลับบ้าน ถนนโล่งสบาย เจอลูกศิษย์สมัยรร.สาธิต (ศิริรัตน์) มาทักทายพร้อมพ่อแม่ เที่ยงไปวัดอีกพระอาจารย์ให้ช่วยไปดูการปูพื้นโบสถ์ กลับบ้าน ฝนไม่ตกแห้วอีกแล้ว ท่าดี ทีเหลว

วันนี้รีบปั่นเขียน สารก่อเกิดการเบี่ยงเบนทางเพศ (2) http://meepole.blogspot.com/2012/05/2.html เพราะงงมากที่อยู่ดีๆมีคนเข้ามาอ่านหัวข้อนี้ตอนที่ 1 วันเดียวเกือบ 200 ครั้ง วันนี้อีกร้อยกว่าคงมีคน link เอาไปเผยแพร่ น่ารักจัง เลยมีกำลังใจเขียนต่อเพราะคิดว่าคนสนใจ จะได้เป็นประโยชน์ต่อไป

 เรามัก happy กับการเขียน ส่วนจะมีคนอ่านมากน้อยเป็นเรื่องความตั้งใจของกัลยาณมิตร และความบังเอิญของใครๆที่หลุดหลงเข้ามา หากสนใจก็ตามต่อ ไม่ชอบก็ไม่เจอกันอีก หุ หุ

วันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

4 May: super moon




เช้าอยู่บ้าน สายคุณรังสรรค์แวะมาดูคลองหลังบ้าน ช่วยดูการปรับเปลี่ยน สรุปว่าปีนี้ห้ามมีการปรับเปลี่ยนอะไรๆ ให้พ้น 22 Dec ตามศาสตร์จีน ก็ไม่เป็นไร ผู้ใหญ่ทักก็เชื่อไว้ไม่เสียหาย นั่งคุยจนบ่ายสอง

บ่ายฝนตกหนักมาก อากาศเย็นลงทันตา

วันนี้ก็โยกย้ายที่นั่งทำงาน และวันหลังคงจะจัดการห้องทำงานใหม่ ตอนนี้งานมากจนลำดับไม่ถูก ความสำคัญเสมอกัน เลยกลายเป็นนิ่งไปเลย

มาเขียนเพิ่มเติมว่า ขึ้นไปดู  super moon แต่แห้ว! เพราะเมฆฝนประปราย เห็นดวงจันทร์ลางเลือนแต่ไม่รู้สึกว่าโตขึ้น เห็นแสงหิ่งห้อยที่ต้นหูกระจงริมหน้าต่างห้องนอนชัดกว่า คิคิ

วันนี้ google ระลึกถึง Keith Haring เราก็ชอบศิลปะแนวนี้ ดูแล้วมีชีวิตชีวาดี
 

 โลโก้ Google Doodles ประจำวันนี้ มีประวัติเป็นมาอย่างไร ?

Keith Haring เป็นศิลปินชาวอเมริกัน เกิดวันที่ 4 พฤษภาคม 1958 ในเมือง Reading มลรัฐ Pennsylvania ผู้ให้กำเนิดศิลปะ Subway Drawings (การวาดภาพในสถานีรถไฟใต้ดิน) ซึ่งผลงานของ Keith Haring เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเกิด ความรัก ความผูกพัน ความสัมพันธ์ทางเพศ และมีการเมืองด้วย


วิธีการวาดภาพของ Keith Haring นั้นไม่ได้ซับซ้อน เขาจะวาดโดยใช้เส้นโค้งมน สีสันสดใส ลักษณะคนกำลังเต้นอย่างมีความสุข คนเหล่านั้นไม่มีหน้าตา ไม่มีเพศ ไม่มีอายุ ไม่มีเชื้อชาติ เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของมวลมนุษยชาติ 

 Radiant Baby เป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของ Keith Haring



ที่มาภาพ: luxq.com  blog.freshjive.com

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

3 May:


หอมเจ็ดชั้นหน้าบ้าน (ระยะสอง)


เช้าไปวัด สายไปร่วมพิธียกเสาเอกของกี คุณรังสรรค์มาช่วยเป็นเจ้าพิธี เสร็จก็ไปทานก๋วยเตี๋ยวกัน กลับบ้านอากาศร้อนอบอ้าวมากๆ โชคดีที่บ่ายโมงฝนตกแบบมืดฟ้ามัวดิน อากาศเย็นลงทันตา

เย็นพากันไปกินอาหารทะเลที่ลำพู 2770 บาท

วันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

1-2 May: เรื่องที่ได้เรียนรู้



เมื่อวาน (1 พค.) ไปวัดตอนเช้า ไปกราบเรียนพระอาจารย์เรื่องผลการไปเรียนปฎิบัติธรรมว่าเป็นอย่างไร เล่าให้ท่านฟังว่าแต่ละวันได้ทำอะไร เรียนรู้อะไร และอะไรที่เรายังทำไม่ได้บ้าง จริงๆแล้วทุกอย่างที่ท่านพระอาจารย์สมลักษณ์สอนไม่มีอะไรยากที่ใครจะปฎิบัติไม่ได้ เพียงแต่เราจะต้องมีสติเพียงพอที่จะเตือนตัวเอง เช่น เรื่องการคุมอิริยาบทย่อย เป็นเรื่องยากสำหรับผู้ที่เคยเคลื่อนที่และเคลื่อนไหวเร็วอย่างเรา ที่จะต้องเบรกตัวเอง ดังนั้นเราจึงทำไม่ทัน เหยียด คู้ จึงเป็นอะไรที่พลาดประจำ การเคี้ยว กลืน พอทำได้ การย่างก้าวที่ช้าๆ พอทำได้บ้าง แต่ยังไม่ช้ามากเท่าที่ควรจะเป็น เพราะบางคนเช่น ป้า? จากภูเก็ต สามารถเดินปฎิบัติได้ดีทีเดียว แกอยู่มาได้ 20 กว่าวันแล้ว เราไม่ได้มองหน้าป้าตรงๆนัก เพราะไม่ให้สบตากัน เลยไม่จำเป็นต้องมองหน้า และตรงกับนิสัยเราที่ไม่ต้องวุ่นวายกะใครเป็นดีมาก เลยไม่แน่ใจนักว่าป้าอายุเท่าไหร่แต่เท่าที่มองผิวเผิน (เพราะนั่งทานข้าวข้างแกทุกวัน) น่าจะไกล้ 60 แล้ว นอกนั้นในรุ่นเดียวกันไม่มีใครทำอิริยาบทย่อยได้ และรุ่นหลังที่มายังอายุไม่มากนักไกล้ 40 + อันนี้ไม่คุมเลย เดินหมุนตัวพรวดๆแบบปกติอยู่ อันนี้ก็เลยแล้วแต่ว่าแต่ละคนตั้งเป้า ตั้งใจว่าอย่างไร ขนาดไหน ซึ่งหากทำได้อย่างที่ถูกสอนก็จะดียิ่ง

สำหรับเราก็กราบเรียนพระอาจารย์ (เจ้าคณะภาค) ว่าเราได้ความรู้ปฎิบัติภาคเริ่มต้น การเดินจงกรมที่ประยุกต์หลักทางกายวิภาคศาสตร์เข้ามาด้วยทำให้ถนอมสุขภาพ เดินได้นาน ไม่ปวดเมื่อย ไม่เกร็งกล้ามเนื้อ ที่อาจนำมาซึ่งการบาดเจ็บได้ และเดินให้ท่านดูตามที่เรียนมา พระอาจารย์ก็พอใจ ส่วน link ก็ชอบใจและบางเรื่องเขาก็เคยทำมาเองตอนปฎิบัติที่วัดภัททันตะแต่ไม่รู้เหตุผล บางอย่างทำเองด้วยเหตุผลของตัวเองก็มาตรงกับที่ท่านสอน เช่น วิธีการกำหนดเมื่อคิด ฟุ้ง เป็นต้น...(ค่อยเขียนต่อ)

บ่ายสมศักดิ์ให้รถใหญ่มาเอาเสาเข็ม 23 ต้นและวัสดุก่อสร้างต่างๆไปถวายวัด ให้ค่าใช้จ่ายไป 2000 บาท

วันนี้เช้า link เอา รายงานนศ.เอกสารกองใหญ่ไปไว้ที่มหาวิทยาลัย  แล้วเลยไปบิ๊กซี ซื้อของใช้จำเป็น แล้วกลับบ้าน อากาศร้อนอบอ้าว นึกว่าฝนจะตกเหมือนเมื่อวานแต่ปรากฎว่าแห้ว

วันนี้เต้วิ่งออกไปกัดกะหมาดำ เรียกกลับก็ไม่กลับ link ไปตาม ได้แผลมา 5 จุดหลัก และย่อยๆอีกเลยทำแผลให้ เฮ้อ! เย็นนี้แผลบวมเลยล้างแผลเปลี่ยนยาใหม่ให้ ที่บ้านนี่ยาของหมาเพียบ ซื้อมาทุกขนาน

วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

22-30 April: ไปปฏิบัติธรรมที่วัดท่ามะโอ (1)


ภาพในห้องปฎิบัติธรรม
 ที่มาภาพ http://www.wattamaoh.com

เอาบุญมาฝากทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ
 ขอให้ได้รับผลบุญเช่นเดียวกับที่ meepole ได้จากการไปปฎิบัติมา

อย่าลืมกล่าวอนุโมทนา นะคะ :)

(อนุโมทนาอย่างไรให้เกิดบุญ  http://meecorner.blogspot.com/2011/12/1.html)


ไม่อยู่ 10 วัน ไปปฎิบัติวิปัสนากรรมฐาน ที่วัดท่ามะโอ เขาไม่ให้ใช้โทรศัพท์ และช่วยเอาไปเก็บรักษาให้ด้วย กลัวแต่ละคนจะรักษาระเบียบไม่ได้ เสียงคุยจะไปรบกวนผู้อื่น และฟุ้งได้ ไม่ให้ (ไม่ควร)เขียน ไม่ให้ (ไม่ควร)อ่านหนังสือ ให้ปิดวาจา ไม่สบตากัน เพื่อให้จิตของเราไม่ฟุ้งซ่าน เป็นอะไรที่จะให้เราสามารถอยู่กับตัวเอง อยู่ให้ใจว่างๆ จากงาน ความกังวล เรื่องรบกวนทั้งหลาย อันจะส่งเสริมให้เข้าถึงสมาธิได้เร็วขึ้น เราเลยไม่ได้รู้ข่าวสาร เรื่องโลกภายนอกตลอดที่อยู่ที่นั่น ซึ่งแบบนี้ไม่ได้ทำให้เราอึดอัดแต่ประการใดเพราะปกติชอบที่จะอยู่สงบๆในบ้านที่ร่มเย็นอยู่แล้ว

เช้าวันที่ 22 เม.ย. ประมาณ 8 โมงเช้าถึงสนามบินลำปาง ลงเครื่องก็เดินลากกระเป๋าขนาดเล็กดุ่มๆๆ ออกมาเพราะทางวัดแจ้งว่าจะให้คุณเต้ ไปรับ และจะถือป้ายชื่อวัดให้ทราบ ออกมาก็เห็นคุณเต้ยืนรอรับ ด้วยความอุ่นใจ เพราะที่บ้านเป็นห่วงมากในตอนแรก ว่าไม่เคยไปลำปางแล้วงานนี้เดินทางคนเดียว ไปลำปางครั้งแรก

พระอุโบสถ อายุมากตั้งแต่โบราณนานมา


พระวิหาร

พระเจดีย์

ไปถึงวัดท่ามะโอ ใช้เวลา 15-20 นาที คุณเต้พาเข้าประตูวัดตรงไปตึกที่จะปฎิบัติ เอากระเป๋าวางหน้าตึก เข้าไปที่อาคารศูนย์ปฎิบัติธรรม ดู เทปแนะนำการปฎิบัติเบื้องต้นก่อน ซึ่งมีคนที่มาเช้ากว่าเรามาดูอยู่ก่อนแล้ว หลังจากนั้นก็เข้าห้องพักที่จัดให้พักแบบเดี่ยว (ชอบมาก) เปลี่ยนชุดแปลงร่างเป็นชุดสีขาว แล้วออกไปที่ศูนย์ลงทะเบียนต่อ เจออีก 2 คน เพิ่งมารุ่นพร้อมกันเลยมี 4 คน อุ๊ สายเพชร พงษ์ศักดิ์ เรา (เราอาวุโสสุดในกลุ่ม แต่ค่าเฉลี่ย ไม่ต่างกันมาก ) ต่างคนต่างมาจากต่างที่โดยไม่เคยรู้จักกัน และเราโทรจองก่อนล่วงหน้าเกือบเดือน เพราะทราบว่าบางช่วงมีคนมามากก็รับได้จำกัด (อันนี้ดี  จำนวน ปริมาณบอกอะไรไม่ได้นอกจาก น่าจะวุ่นวายเพราะหากคนเป็นร้อยย่อมเลี่ยงความวุ่นวายได้ยาก)

คนที่มานี่ ส่วนมากค่อนข้างมีประสบการณ์จากที่ต่างๆมาแล้ว แต่เราไม่เคยเข้าเรียนที่สำนักไหน ยังไม่มีครูอาจารย์สอนเป็นทางการ นอกจากอ่านหนังสือแล้วปฎิบัติด้วยตัวเองจากการนั่งทำจิตให้สงบเท่านั้น  ครั้งนี้เลยทำตัวเป็นแก้วว่าง  clear งานเอาไปกองไว้ก่อน (พักงานตำรา 2 เล่ม)  clear ตัวเอง เตรียมใจนานมากให้มาให้ได้ จึงมาด้วยความศรัทธาที่จะเรียนรู้ ...มีอาจารย์ วรรณา (เกษียณแล้ว) มาเป็นผู้นัดแนะ และบอกระเบียบ พร้อมถามว่าใครเอาโทรศัพท์มาให้เอามาเก็บก่อน เลยต้องกลับไปเอาที่ห้อง มามอบให้ รีบโทรมาบอกที่บ้านก่อนว่าจะขาดการติดต่อไปจากนี้ 9 วัน สิ้นอิสรภาพทางโลกทันที ป็อก!!

ดูเทปต่อจนจบ ไกล้ 11.00  เวลาอาหารเพล ก็เข้าตึกไปทานอาหาร และก็ไม่ได้ออกจากตึกนั้นอีกเลย จนเช้าวันสุดท้ายที่จะกลับบ้าน (30) จึงได้ออกไปเดินดูรอบวัด ตั้งใจไปกราบพระประธานในพระอุโบสถ วิหาร และเจดีย์ ได้เจอพระที่เดินออกมาเปิดประตูพระอุโบสถ ท่านเอาไฟฉายส่องมา คงสงสัยว่าสีกามาจากไหนเช้ามืดเดินดุ่มๆในวัดกระมัง เรารีบไหว้ท่านแล้วรีบบอกวัตถุประสงค์การมาและท่านก็เล่าเรื่องย่อๆของวัดให้ทราบ เป็นวัดที่มีอายุนานมากแล้ว

รายละเอียดอื่นๆจะนำมาค่อยๆย่อยและเขียนต่ออีก วันนี้และวันต่อๆไปต้องเร่ง clear งานหลายอย่างที่พอกพูนมากก่อน  แต่สรุปตรงนี้ว่าไปแล้วไม่ผิดหวังจริงๆ แม้ว่าสิ่งที่คาดหวังว่าจะได้กลับมาประกอบปัญญาจะไม่เต็มที่ก็ตาม แต่ได้เรียนรู้อะไรๆในภาคปฎิบัติที่พอใจ และคงจะนำมาปฎิบัติต่อ ไม่ให้เสียเปล่า ที่ครูอาจารย์ได้สอนเรามา

 เรื่องนี้ ยังมีเขียนต่อ แน่นอน

ภาพวิหารและพระอุโบสถจาก http://oplart.blogspot.com/2007/01/0030.html ที่ meepole ถ่ายยังไม่เอาออกจาก mobile phone เลย และไม่แน่ใจความชัด เพราะออกไปถ่ายตั้งแต่ฟ้ายังมืดๆอยู่เลย แต่จะเอามาเพิ่มอีก