วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554

น้ำท่วมกับมุมที่มองด้วยความห่วงใย





วันนี้เห็นภาพข่าวถ่ายเขตที่น้ำท่วมไปเรื่อยๆ เห็นขยะลอยมากมาย เกิดความรู้สึกเป็นกังวลแทนมากๆ ก็ได้แต่คิดเงียบๆว่าอะไรที่น่าเป็นห่วง (ส่วนที่กระทบต่อคน)


  • ขยะที่ไม่มีที่ทิ้งที่จะกำจัดอย่างถูกวิธี  ขยะมากมายถูกทิ้งลงน้ำ ถุงพลาสติก กล่องโฟมจำนวนมากมายที่จะเหลือเป็นขยะลอยน้ำ แต่ขวดพลาสติกไม่น่าห่วงเพราะจะมีคนเก็บไปขายได้
  • สารปนเปื้อน สารอันตราย จากแหล่งต่างๆกระจายไปทั่ว (แต่มีมุมมองจากบางฝ่ายว่าน้ำมากเลยเจือจาง ไม่ต้องห่วง?)
  • สิ่งปฎิกูลมากมายที่ถูกทิ้งลงในน้ำ  แพร่เชื้อโรค แพร่โรค
  • คราบน้ำมัน ตัวทำละลายประเภทต่างๆ

ในอนาคตเมื่อน้ำเริ่มนิ่ง สิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อสุขภาพมากทีเดียว
  • กระสอบพลาสติกที่บรรจุทรายจำนวนมหาศาล เมื่อน้ำเริ่มลด ต้องรื้อกระสอบ สิ่งกีดขวางต่างๆออก เพื่อไม่ให้น้ำขัง
  • น้ำที่เน่าขัง เป็นแหล่งของเชื้อโรคต่างๆ ยุง แมลงวัน แมลงหวี่ ฯ กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์และอาจเป็นอันตราย
  • สารเคมี ยาฆ่าแมลง ที่จะถูกนำมาใช้
  • ดินเหนียว ดินทรายจำนวนมากที่ต้องเก็บโกย ไม่ให้อุดตัน กีดขวางการระบายน้ำ ทั้งคูคลองเล็กๆ และในท่อ ต่างๆ
  • กระสอบพลาสติกที่บรรจุทรายจำนวนเป็นล้านถุง ซึ่งจะเริ่มเปื่อย ยุ่ยหากเปียกชื้น เมื่อผ่าน 1- 2 เดือนไปแล้ว และหลังจากนั้นหากทิ้งไว้นานขึ้นก็ยุ่ยเป็นเศษ เป็นฝุ่น
  • ฝุ่นพลาสติกจำนวนมากที่ไม่มีใครคิดถึง เมื่อหายใจเข้าไปย่อมส่งผลต่อสุขภาพ
  • ฝุ่นจากดินหินคลุก ทรายที่กระจายไปทั่ว ส่งผลต่อระบบหายใจ ก็คงต้องล้างถนนครั้งยิ่งใหญ่
  • ซากพืช ซากสัตว์ ที่ค่อยๆเน่าเปื่อยมากมาย


ที่สำคัญเหนืออื่นใดคือ ความเข้มแข็งของจิตใจที่จะต่อสู้ปัญหาที่จะเผชิญหลังน้ำลด ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องช่วยตัวเองให้มากที่สุด เพราะคงยากที่จะให้ใครหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่จะช่วยได้ทั่วถึงและทันท่วงที วิธีคิดที่ถูกต้อง  ความอดทน การมีสติสัมปชัญญะ จะทำให้ภาวะเครียด ต่างๆค่อยๆผ่อนเบาลง

แต่ช่วงเวลานี้ที่คนกำลังตื่นตระหนก กังวล มากน้อยต่างกัน บางคนว่างๆนั่งๆนอนๆ บางคนคงหางานทำ คนจำนวนมากมาอยู่รวมกัน หากหน่วยงาน องค์กรใดจะจัดกิจกรรมทางจิตวิทยา เสริมธรรมะ เพื่อการสร้างเกราะ เพื่มความเข้มแข็งทางจิตใจให้เขารู้จักเอาไปใช้คิดเมื่อยามทุกข์ หลังจากที่ไปเห็นว่าน้ำท่วมทรัพย์สินเสียหายอย่างไร จะได้คลายเครียดได้

อีกไม่นานทุกอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็จะผ่านพ้นไปด้วยดี รอเวลา ...

เราเคยท่องกลอนบทนี้ไม่รู้ว่าใครเขียน จำได้มาเกินยี่สิบปีแล้ว น่าจะใช้ได้ในสถานการณ์เช่นนี้ว่า

ชีวิตเปรียบเหมือนเรือที่ลอยล่อง  หางเสือต้องถือให้มั่นมิหวั่นไหว
เมื่อพายุโหมกระหน่ำควรทำใจ  ว่าโพยภัยทุกข์มหันต์นั้นธรรมดา

ชีวิตเกิดมาเพื่อต่อสู้ และ
เผชิญกับทุกสิ่งด้วยความเข้มแข็งและมีสัมปชัญญะ 
 ตราบใดที่มีลมหายใจ ก็คงยังมีความหวังเสมอ
เอาใจช่วยทุกคนจริงๆ