วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

My silent corner 16 : ทุนเล่าเรียน /การเตรียมสมัครที่เรียน

เอกสารยืนยันการได้รับทุนจากรัฐบาลไทย ที่ต้องแนบไป

เราไม่รู้ว่าสมมุติหากเราไปเรียนด้วยทุนตัวเอง (ทุนครอบครัว) จะยุ่งยากมากไหมในเรื่องการเตรียมเอกสารต่างๆ  แต่สำหรับเราการสอบชิงทุนไปเรียนต่อนี่ก็เป็นอะไรที่เกินความคาดหมาย การเตรียมตัวก่อนสอบจึงแทบไม่มี เพราะจากวันที่สามีบอกให้เรียนต่อคือวันสุดท้ายของการยื่นสมัคร จึงเหลือการเตรียมตัวไปสอบภาษาอังกฤษที่ส่วนกลางจัดสอบทั่วประเทศพร้อมกันน่าจะไม่เกินเดือน ก็เลยไม่เครียด ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ได้ เราไม่รู้หรอกว่าคนที่สมัครแบบเดียวกับเราที่ต้องมาแข่งกันมีกี่คน ก็ดีไม่ต้องลุ้น สามีพาไปสอบ นั่งรอข้างสนามสอบ รายนี้พ่อยก คิคิ สอบเสร็จออกมาไม่รู้หรอกว่าได้ไหม ไม่คิดอะไร นอกจาก try my best  ในที่สุดวันประกาศผลมาถึงบอกสอบข้อเขียนผ่าน ให้เข้าสัมภาษณ์ได้ ก็ไปกทม.อีก คราวนี้ตื่นเต้นเพราะดีใจที่สอบผ่าน และต้องเป็นด่านที่เจอคนสัมภาษณ์ วันสอบก็รู้ว่ามีหลายคนที่เลือกทุนเดียวกัน มีกรรมการสอบเต็มห้องประชุม (จำไม่ได้ว่าที่ไหน) กรรมการโต๊ะละ 3 คน มีชาวต่างชาติ 1 คน หลังจากนั้นไม่นานก็รู้ว่าสอบทุนผ่าน มีสำรอง 2 คน หากเราสละสิทธิ์  ตัดสินใจอยู่หลายวันว่าจะเรียนหรือสละสิทธิ์  ปรึกษาพระอาจารย์ ผู้ใหญ่ สามี  ในที่สุดเรียนก็เรียน

...แต่การเลือกประเทศเป็นเรื่องของเราโดยทุนนี้ให้เลือกประเทศในยุโรป แคนาดา สหรัฐอเมริกา  ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จากการปรึกษาทั้งอาจารย์ตอนเรียนโท พระอาจารย์หลายรูปที่นับถือสนิทกัน  อาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ให้เรา และสามี ในที่สุดก็มาลงตัวที่ประเทศอังกฤษ ด้วยหลายเหตุผล (ไม่เคยรู้ว่านี่เป็นลิขิตล่วงหน้ามาประมาณ 3 ปี จะบันทึกคราวต่อๆไป) หลังจากนั้นก็เป็นการเลือกมหาวิทยาลัยในอังกฤษให้ตรงกับสาขาที่รับทุน  ตรงนี้ล่ะยิ่งกว่า shopping อีก สมัยก่อนโน้นไม่มีการสื่อสารที่รวดเร็วมากนัก การเข้าถึงข้อมูลต้องไปที่ศูนย์การศึกษาต่อต่างประเทศ ที่ธนาคารกรุงเทพ จำสาขาไม่ได้ คิดว่าน่าจะสีลม กรุงเทพ ก็ไปเริ่มต้นที่นั่น สำหรับคำแนะนำ ข้อมูลและเอกสารต่างๆ ได้มาแล้วก็เอามาคลำทางเอง คราวนี้สนุกแต่เครียดกว่าเดิม เพราะต้องตอบไปทางกพ.(คุณปิติกาญจน์) ว่าเลือกประเทศใหน มหาวิทยาลัยอะไรก่อน เพื่อเขาจะดำเนินการทางเขา ซึ่งมีเวลาไม่นานนักสำหรับเด็กบ้านนอก ตจว.ที่ไม่ค่อยประสีประสาเรื่องอะไรเกี่ยวกับตปท.แต่โชคดีมีสามีผู้รอบรู้ เรื่องเลยเร็วเพราะรู้ไปโม้ด สารพัดเหตุผลที่เอามาแจกแจงให้ฟัง ว่าที่ไหนเป็นอย่างไร เลยส่งชื่อมหาวิทยาลัยที่เลือกให้ตรวจสอบ เพราะต้องเป็นมหาวิทยาลัยที่กพ.รองรับ และ ranking " Top ten " ผ่านแล้วในที่สุดเลือกส่งใบสมัคร กรอกๆๆ ไปยัง 4 มหาวิทยาลัย ที่มีสาขาตรงกับที่ทุนให้เรียนคือ Environmental biotechnology (เทคโนโลยีชีวภาพสิ่งแวดล้อม)  ในที่สุดทั้งสี่มหาวิทยาลัยก็ตอบรับมาทุกที่ ก็เป็นรายการเลือกอีก brain storm กันก็ได้เลือก King's College , University of London  แน่นอนอันนี้ผ่านการตรวจสอบ ความเหมาะสม ความทันสมัย ชื่อเสียงด้านต่างๆ และระบบการศึกษา ตกลงเลือกที่ King's แล้วเรื่องก็ยังไม่จบเรื่องเพราะนั่นเป็นเบื้องต้นเท่านั้น ต้องสอบภาษาอังกฤษให้ผ่านตามเงื่อนไขของมหาวิทยาลัย คือ IELTS ซึ่งขอที่ เกณฑ์ minimum  6.5 ตายแน่ๆๆ