วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2555

31 Jan:ทำวัตรเย็น




วันนี้หมดเวลาทั้งวันไปกับการ update OS รุ่นใหม่ของ Mac จาก Leopard มาเป็น Lion ค่า upgrade  934 บาท (10 US dollar) ใช้เวลา เกือบ 3 ชั่วโมง และ install  อีกครึ่งชั่วโมง กรอกโน่นนี่อีก ครึ่งชั่วโมง นั่งฟังอ๋อง (จนท.บริการ น่ารักดี) บรรยายจนเหนื่อย

ค่ำไปวัดทำวัตรเย็นสวดมนต์ คนมาสวดค่อนข้างมาก 15 คน วันนี้คนนำสวดคงเพลินสวดหลายสิบบท รวมทั้งบทบทธัมมจักกัปปวัตตนสูตร สวดไป 2 .30 ชั่วโมง นั่งสมาธิต่ออีก วันนี้หลวงพ่อไม่ได้ลงมา อุทิศกุศลให้ก๋ง ยาย ม่าม้า ป่าป้า ครูอาจารย์ ผู้มีคุณต่อแผ่นดิน เพื่อนๆ เจ้ากรรมนายเวร และขอให้อานิสงส์นี้ได้ปกป้องคุ้มครองในหลวงของเราให้พระสุขภาพแข็งแรง อายุยืนๆๆๆ

ไปซื้อ package Aircard ต่อ

วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2555

30 Jan:

ท้องฟ้าถ่ายจากหลังบ้านก่อนฝนตกไม่นาน เพราะก่อนหน้านี้แดดเปรี้ยงๆ

วันนี้มีกิจกรรมที่บ้านมากหน่อย เกือบ 10 โมงช่างช่วยมาติดตั้งโครงเหล็กยันซุ้มต้นไม้ที่เริ่มแอ่นลงมา นึกว่าไม่นานเสร็จ ปรากฎว่าทำจนบ่ายสามเศษ  (5,300 ) จะให้คนขับรถล้างรถเลยเปลี่ยนใจ

link รู้สึกไม่สบายมา2-3 วันแล้วเลยพาไปหาหมอที่เป็นลูกศิษย์ปรากฏว่าหมอไม่ให้ยาอะไรมา นอกจากบอกว่าไม่เป็นอะไร คงได้ไวรัสมาแต่ร่างกาย recover เองแล้ว ให้พักผ่อนมากหน่อย ช่วงนี้ตรวจรายงานเด็กเยอะไป

เย็นไปดูและฟัง sale บรรยายสารพัดเรื่องของ TV แต่ละรุ่น ฟังจนเหนื่อย มีสารพัดแบบให้เลือก ยังไม่ตัดสินใจต้องมาตรองอีกที เลยไปดู iphone กับ galaxy 7 " ของ sumsung  แวะไป Tesco ซื้อของเล็กน้อย ส่วนมากของเจ้าตัวร้าย เข้าบ้านไม่มีของฝาก ส่งเสียงปากยาวกันเป็นแถว  ผ่าน ร้าน Mac  เลยตั้งใจว่าจะซื้อโปรแกรมมาลงเพิ่ม ถามราคา 4,700 บาท

ฝนตกทั้งบ่าย ไม่มีข่าวเตือน แต่ไปเตือนจังหวัดที่อยู่ล่างลงไป ลงโครมได้แบบจู่โจมมาก ตอนนี้อากาศแปรปรวนอีกแล้ว ร้อนจัดมา 3 วันเต็ม

วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2555

My silent corner 15 : ทุนเล่าเรียน /เตรียมตัวก่อนเรียน



เนื่องจากเราเป็นเด็กเรียนทุนรัฐบาล การเรียนที่นี่เงินค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตจะได้เดือนละ 760 ปอนด์ อันนี้รวมค่าที่พักที่ค่อนข้างแพงมาก ตอนที่มาเรียนเป็นช่วงที่ค่าเงินแพง 1 ปอนด์เท่ากับ 67-70 บาท ตลอด 4 ปีที่เรียน (หลักสูตร Ph.D. ที่นี่ 4 ปี) ครั้งแรกให้ค่าคอมพิวเตอร์ 700 ปอนด์ ให้ค่าหนังสือ 500 ปอนด์ /ปี ค่าเล่าเรียนรัฐบาล (กพ.) จะจ่ายตรงไปยังมหาวิทยาลัยในแต่ละเทอม ปีแรก tuition fee ประมาณ 9000 ปอนด์/เทอม ค่า bench fee (ปฎิบัติการ สารเคมี) 5000 ปอนด์/ปี

การคิดค่าเรียนของมหาลัยที่นี่ จะแบ่งเป็น 2 แบบ สำหรับ Resident และประเทศในเครือจักรภพอังกฤษ (Commonwealth) กับพวก Non-resident ค่า bench fee /tuition fee จะต่างกันครึ่งหนึ่ง  ค่าเล่าเรียนจะเพิ่มขึ้นปีละ 10 % ค่า bench fee คงที่

เราซื้อ notebook จากไทยเป็น notebook ตัวแรกเลยของ Fujisu ราคา 100,000 เศษ ราคาเกินเงินที่รัฐให้อีกเท่าตัว แต่ไม่เป็นไรเอาดีไว้ก่อน เงินก้นถุง pocket money ก็ซื้อ travel cheque ไป

เมื่อมาถึง london ต้องจัดการชีวิต จัดการค่าใช้จ่ายต่างๆที่ไม่เคยรับผิดชอบมาก่อน จัดการเปิด bank account ที่ยุ่งมาก ค่อยเขียนวันหลังเพราะเรื่องมันยาว ปีแรกอยู่หอพักมหาวิทยาลัยเลยยังไม่ยุ่งเรื่องการเดินทาง เราอยู่ zone 1 ซื้อ travel card เป็นรายสัปดาห์ และอื่นๆปรับไปตามสถานการณ์ ส่วนมากปีแรกไม่ไปไหนไกล เดินเป็นส่วนใหญ่ ที่ไปบ่อยก็ covent garden, china town ไปซื้อเสบียงมาเก็บ

ส่วนของการเรียน ก็เริ่มต้องจัดการลงทะเบียนกรอกสารพัดข้อความ รายการต่างๆ ในห้อง lab ต้องอ่านระเบียบการใช้ห้องวิจัย กฎระเบียบเป็นแฟ้มใหญ่มาก ลงชื่อเซ็นต์หลังอ่าน Control of Substances Hazardous to Health Regulations (COSHH).ในแฟ้มถือว่าได้อ่านและรับรู้ระเบียบของห้องวิจัยแล้ว ที่นี่เขาจะเข้มงวดกว่าของไทยเรามาก การใช้เครื่องมือทุกอย่างต้องมีการลงชื่อการใช้ และจุดประสงค์การใช้ สภาพเครื่องที่ใช้

เราต้องรอโค้ดในการเบิกวัสดุทุกอย่าง สารเคมี อุปกรณ์การเรียน และอุปกรณ์ lab ที่นี่จะมีรหัสของแต่ละคนในการเบิกของ ไปเบิกที่ชั้นใต้ดินมีสารพัดอย่างให้ shopping จริงๆไว้ค่อยเขียนเพิ่มอีก เอาเป็นว่าช่วงแรกเรายังไม่มีรหัสเบิกของ ต้องใช้รหัสกลางก่อน  สิ่งแรกที่เบิกคือสารพัดสมุดที่ต้องใช้ เราชอบสะสมสมุด เจอสมุดที่นี่แล้วปวดใจ plain มากๆ (เชยแต่เก๋) แต่ก็เป็นระเบียบใน lab เราที่ต้องใช้เหมือนกัน

สมุดบันทึกปฎิบัติการเล่มยาว คือที่ต้องใช้ ส่วนเล่มเล็กเราจะใช้บันทึก diary ตลอดที่อยู่ สมุดมี 3 สี เทา แดง น้ำเงิน ที่นี่สงสัยผูกขาดสินค้า niceday เพราะวัสดุเครื่องเขียนเป็นของ niceday เกือบทั้งนั้น

แฟ้มน่าใช้มีหลายแบบ ชอบๆๆ  แบบมีสายรัดนี่ชอบสุดๆแต่แพง สมุดห่วงแบบที่เปิดแล้วมีซองให้ใส่เอกสาร ข้างในด้วย

วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2555

28 Jan: พี่ไก่ /ชีวิตเสี่ยงภัยเมื่อหมดโปรโมชั่น


เช้าไปตลาดจะแวะไปหาแอน แต่วันนี้ไม่มาเลยพลาดไปหนึ่งงาน  นั่งเขียนงานต่อ ตอนสายพี่ไก่โทรมาบอกว่าถึงชุมพรแล้ว เลยนัดรอ เที่ยงไปทาน MK สุกี้ กะกิ่ง ไปดูTV ที่กิ่งจะซื้อ กลับมารอพี่ไก่ต่อ เปลี่ยนโปรแกรมให้พี่ไก่พักผ่อน บ่าย4โมงไปรับ แวะไป Home Pro ซื้อ TV แยกย้าย เราพาพี่ไก่ไปทานข้าว  แวะมาที่ถนนคนเดิน  และไปทานไอติมรับน้อง กลับมาคุยที่โรงแรมต่อ ต่อโทรศัพท์คุยกะแหวนที่อังกฤษ เรียนที่ Brunell U 5 ทุ่มเศษกลับ พรุ่งนี้พี่ไก่ไปนครฯ กระบี่ต่อ

วันนี้เขียนเรื่อง ชีวิตเสี่ยงภัยเมื่อหมดโปรโมชั่น
http://meepole.blogspot.com/2012/01/blog-post_28.html

วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555

27 Jan: สำนึก "คน" ไทย



ยายเรามาจากประเทศจีนตอนอายุ 14 ปี ยายบอกว่าคนจีนมาไทยเสื่อผืนหมอนใบ ทำมาหากินด้วยความขยันขันแข็ง มีชีวิตที่เป็นสุข ยายรักแผ่นดินไทย ยายสอนให้เรา รุ่นลูกรุ่นหลานรักแผ่นดินไทย ทำประโยชน์ตอบแทนคุณแผ่นดิน จะได้ไม่เสียชาติเกิด เราโชคดีมากที่มีบรรพบุรุษสั่งสอนให้ไม่เนรคุณแผ่นดิน ให้รักชาติ ทำสิ่งดีๆให้แผ่นดิน ส่วนตัวเราสวดมนต์แล้วระลึกถึงพระคุณบูรพกษัตริย์ไทยที่ได้ปกปักรักษาเอกราชของชาติไทยมาทุกยุคสมัย

วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2555

26 Jan: กิเลส


ที่มาภาพ: sanook.com

วันนี้ตั้งแต่เช้าสอนๆๆๆๆ 08.30-18.10 น พักทานข้าว ไกล้เที่ยง 11.50-13.00 น 9 ชั่วโมง ไม่เหนื่อยมากแต่หมดแรง ส่วนเด็กไม่ต้องพูดถึง ทำยังกะไปวิ่ง100 เมตรมา วันนี้ให้ทดลองวัดความดังของเสียง ต้องไปยืมอุปกรณ์จากโปรแกรมฟิสิกส์มา เห็นเด็กสนุกก็มีความสุข เป็น lab เดียวที่ทำได้ในวิชามลพิษ เพราะไม่มีอุปกรณ์อื่นๆ อยากให้อธิการบดีมาเห็นว่าความสุขที่เด็กมีอุปกรณ์การเรียนเป็นอย่างไร เขาอยากให้เปิดโปรแกรมใหม่ๆสร้างภาพพูดไปทั่ว แต่ไม่อนุมัติเงินอุปกรณ์ (มีการไม่รักษาคำพูด ในกรณีนี้ตั้งแต่ปาหี่ในสภามหาวิทยาลัย)  แต่อนุมัติทำอะไรๆที่  ... โดยไม่สงสารเด็กเลย อยากเปิดคณะแพทย์ โดยอ้างคุยว่าเปิดพยาบาลแล้ว ใครมาเห็นเบื้องหลังการถ่ายทำรู้ความจริงจะตกใจว่าทำกันได้ หากมีตนยอมพูดความจริงที่บอกต่อ และบางคนก็ลาออกไปแล้ว บางคนยุคบุกเบิกก็ถูกทำให้ออกไปแล้ว สภาพยาบาลที่ว่าแน่แล้ว ก็พลาดได้  ...อยากเห็นคนประเมินคุณภาพที่จริงจังกับงาน รับผิดชอบต่อสังคมจริงๆ มาประเมินก็จะรับรู้ อย่าดูเพียงเอกสารสร้างภาพ..เพราะพยาบาลไม่เหมือนคณะอื่นๆที่มั่วๆกันเพราะนี่คือ..ชีวิตคน

วันนี้มีการปรับทุกข์ของน้องๆอาจารย์อีก 2 กลุ่ม มีเวลาคุยสั้นๆหนึ่งกลุ่มย่อย อีกกลุ่มดอกเตอร์รุ่นกลางบอกค่อยว่ากันเพราะวันนี้สอนก่อน ไว้รอบหลังก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องอะไร


เที่ยงมีคนนัดไปทานเที่ยง ก็หยั่งเสียงเราเรื่องอธิการคนใหม่ เอ่ยชื่อมาเราก็หัวเราะขำกิเลส  ถามว่าเป็นไง  เขาให้มาหยั่งถามหรือไง ?? บางคนนี่มิเห็นโลงมิหลั่งน้ำตาจริงๆ บาปกรรมทำกันมาตั้งแต่วัยกลางคน ต้องตามใช้กันจนเลยเกษียณหรืออย่างไร ทำไมไม่ช่วยกันสร้างบุญในวัยไกล้และหลังเกษียณเช่นนี้หนอ..ละอายไม่มี แต่ก็ควรละบาปบ้างเนอะ อันนี้คงสอนกันไม่ได้แล้วจริงๆ.. แก่เกินแกงทั้งคู่ คงต้องรอดูละครฉากสุดท้าย ในละครมักจะสำนึกบาป สารภาพบาป อันนี้ชีวิตจริงจะรอดูว่าจะมีสำนึกบาป ขอขมากันหรือไม่ ก็ได้แต่หวังจริงๆอยากให้เขาเหล่านั้นกลับตัว กลับใจมาสวมวิญญาณที่มี สำนึกครู อีกครั้ง

วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2555

25 Jan: มิจฉาทิฐิ


วันนี้เตรียม slide สอนวันพรุ่งนี้ เย็นกลับมาทำความสะอาดบ้าน

 เย็นได้ดูรายการเจาะข่าวเด่น สรยุทธ์ กับคนห่มเหลืองชื่อเกษม เห็นแล้วเข้าใจคำว่า มิจฉาทิฐิ จริงๆ และเข้าใจมากเลยว่าทำไมเราจึงไม่ควรเถียงกับคนที่มีมิจฉาทิฐิ ถ้าจะโต้แย้งกันอีกฝ่ายต้องมีความเข้าใจเรื่องนั้นๆ ศึกษามาก่อน พูดง่ายๆคือมีปัญญามาด้วย ไม่งั้นแทนที่จะสร้างสรรค์อะไรให้เกิดขึ้น กลับจะกลายเป็นการทำให้เสื่อมมากขึ้นโดยเฉพาะคนที่ไม่มีความรู้เข้าใจศึกษา หรือศรัทธาที่ดีพอ  ดาบสองคมจริงๆ พรุ่งนี้มีรายการนี้ต่ออีกตอน

วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2555

24 Jan: โบนัส..ตอบเกณฑ์คาใจ..ความจริงของยุคสมัย

hitechcj.com

บ่ายนี้เปิด mail เจอ mail ของอจ.น้องๆที่มหาวิทยาลัยที่อุตส่าห์ส่ง mail เรื่องกฎเกณฑ์ไปให้หลายๆคนในมหาวิทยาลัยรวมทั้งเราด้วย ว่ามีคนตั้งข้อข้องใจสอบถามเรื่องเกณฑ์การให้โบนัส (ที่บอกว่า "ลับ" ) นั้น ที่จริงแล้วตามระเบียบเขามีกฎเกณฑ์ ระเบียบของกพร. แล้วแนบมาให้อ่านกัน เราเลยเปิดอ่าน scan แบบหยาบมากเลยจำไม่ได้ คิ คิ

จริงๆ..อ่านแล้วหรือไม่ต้องอ่านให้เสียเวลาก็ย่อมรู้อยู่แก่ใจทุกคนว่า มหาวิทยาลัยที่อ้างว่าเป็นมหาลัยเพื่อท้องถิ่นนั้น ใช้กฎอะไรเป็นเกณฑ์ เราเข้าใจความรู้สึก ที่น้องดอกเตอร์หลายคนที่เขาสอนมาก ทำงานจริงจัง กลับได้โบนัสน้อยกว่าแม่บ้านที่ทำงานในตึกนั้น ซึ่งหลายๆคนก็ได้อย่างไม่ยุติธรรม บางคนได้มากจนงงๆๆ เช่น ระดับรองอธิการคนหนึ่ง ได้ 290,000 บาท เทียบกับผู้บริหารในระดับรองอธิการเหมือนกันได้แค่ 180,000 บาท คนหลังเลยกิน...พอมึนๆเลยเผลอตัดพ้อออกมาความลับเลยไม่ลับ แล้วอาจารย์ธรรมดาๆๆดอกเตอร์น้องๆที่ได้กัน 8,000 ไม่ต้อง...จนหัวทิ่มบ่อหรือไงเอ่ย  เราเลย mail ตอบกลับไปด้วยข้อความข้างล่างนี้


....As i know from here กด-เกณฑ์ is beter than กฎเกณฑ์  555

ข้อความต่อไปนี้อาจช่วยให้คำตอบได้บ้างกรณีเหตุปัจจัยอย่างเดียวกันอาจไม่นำไปสู่ผลอย่างเดียวกัน

"....ในทำนองเดียวกัน คนต่างคนทำความดีอย่างเดียวกัน คนหนึ่งทำแล้วได้รับการยกย่องสรรเสริญ เพราะเขาทำในที่ที่เขานิยมความดีนั้น หรือทำเหมาะแก่กาลเวลาที่ความดีนั้นก่อประโยชน์แก่คนที่ยกย่อง อีกคนหนึ่งทำแล้วกลับไม่เป็นที่ชื่นชม เพราะทำในที่ที่เขาไม่นิยมความดีนั้น หรือทำแล้วเป็นการทำลายประโยชน์ของคนที่ไม่พอใจ......."

ข้อความอันนี้มาจากหนังสือวิธีคิดตามหลักพุทธธรรมของท่าน ประยุทธ์ ปยุตโต

(มีที่มหาวิทยาลัยมหิดลบางคณะเขาได้รับโบนัสเท่ากันทุกคนไม่มีผู้บริหารหรืออาจารย์เพราะเขาคิดว่าทุกคนช่วยกันขับเคลื่อน)

ของมหาวิทยาลัยเรานี่ปกติก็น่าปลื้มมากกกกก !!!!ที่เห็นผู้บริหารเขียนการ์ดชื่นชม ทำโลห์ชื่นชมระดับปฎิบัติการตลอดเวลาว่า".."ช่วยกันทำให้มหาวิทยาลัยมีผลงาน ฯ ช่วยกันขับเคลื่อนเหมือนกัน 555

ดังนั้นอย่าไปสงสัยอะไรเลย อะไรที่ "ลับ" ก็อย่าไปสงสัย อะไรที่ "เปิด" ก็อย่าไปเชื่อ ให้ดูที่ "คน"ในสังคมนั้น เมื่อรู้แล้วว่าเป็นเช่นใดก็อย่าไปให้ค่ามันมากนัก เพราะความจริง ความดี ความซื่อตรง ความซื่อสัตย์ สัจจะ ความมีคุณธรรม ศักดิ์ศรีของวงศ์ตระกูล ซื้อไม่ได้ด้วยเงิน เพราะสิ่งเหล่านี้ต้องถูกบ่มเพาะมาตั้งแต่วัยเยาว์ ตั้งแต่ในครอบครัวที่ปฎิบัติและหล่อหลอมกันมา กระทั่งครูที่อบรมสั่งสอนกันมา อันนี้จึงควรสบายใจ ตัวเราเท่านั้นทำในสิ่งที่ถูกควรเป็นพอ เงินภาษีแผ่นดินเป็นเงินไม่ธรรมดาจริงๆ ..พวกเราโชคดีที่ได้มาในวิถีที่ถูกต้อง (ไม่ได้เบียดเบียนใครมา)..............ก็ไม่รู้ว่าที่เราเขียนตอบนี่จะทำให้สบายใจกันได้หรือเปล่า?

21-22-23 ตรุษจีน

ที่มาภาพ theholidayspot.com

ตรุษจีนไป BKK ร่วมฉลอง+ไหว้+กินๆๆ ที่บ้านป่าป๊า ม่าม้า ของสามี ปีนี้อาปาสั่งโตะจีนเลี้ยงลูกหลานเช่นเคย ปีนี้เลี้ยงที่ภัตตาคารจีน ที่สามย่าน เป็นของเพื่อนอาปา หมึกแดง ได้แนะนำรายการอาหารไว้ หลายอย่างแต่อาปาก็เอาแบบที่เคยชอบๆกันแต่เพิ่มปลาดิบสูตรพิเศษ เราถูกคะยั้นคะยอให้กินกลัวคาว แต่ลองกินแบบที่บอกกับน้ำจิ้มพิเศษแบบหวาน ไม่คาวคงเพราะหวานกลบ แต่ลองแค่ชิ้นเดียว ที่บ้านสามีทุกคนพี่น้องจะมารวมญาติเป็นประจำอยู่แล้วในรุ่นลูก แต่รุ่นหลานพอโตๆแล้วก็จะถูกกระเตงๆมาเหมือนเก่าให้พร้อมหน้ากันค่อนข้างยากเพราะบางคนติดเรียน ติดเข้าค่าย ปีนี้รุ่นหลานเลยขาดเจ้ามินท์ไปหนึ่งคนเพราะเรียนสถาปัตย์ปี 3 จุฬาฯ ติดงานเขียนแบบที่ทำกันหามรุ่งหามค่ำ ครอบครัวสามี มีสถาปัตย์จุฬาฯ 3 คน เลยเข้าใจกันว่าเรียนหนักมาก อีกคนจะเรียนตามพ่อแต่พ่อเขาไม่ให้เรียน ปีนี้ยังขาดลูกสาวและลูกเขยอีกคู่เพราะทำงานกระทรวงการตปท.อยู่มาเลเซีย แต่ได้โทรศัพท์มาคุยกับเราก่อนเราไป BKK เพราะมีปัญหาเรื่องความดันสูง (อันนี้ง่ายมากเรารักษาหายไปนับไม่ถ้วนรายแล้ว เพียงแต่ที่มาเลเซียไม่น่าจะมีสมุนไพรที่เราต้องใช้ แต่แนะให้ลองหาต้นที่แทนกันได้และมาเลย์น่าจะมี) ปีนี้ก็รวมญาติสายตรงกันได้ 20 กว่าคน ฉลองตรุษจีนด้วยการให้อั่งเปาเด็กๆ และให้ปาปา ม่าม้า รุ่นลูกๆให้ของขวัญกัน ปีนี้เราให้ผ้าเช็ดตัวรูปสัตว์คู่น่ารักทุกคนชอบถุงผ้า packing ที่ใส่

ไปไหว้ไท่ส่วยเอี๊ย ที่วัดเล่งเน่ยยี่ อย่างน้อยสิ่งที่ได้คือความสบายใจและสุขใจที่ได้ทำบุญในจุดต่างๆที่มีให้ทำ ไม่ว่าจะทำบุญที่ไหนๆ ผลบุญและกุศลก็ส่งผลให้เกิดความสุขทุกครั้งที่ทำ ก็ดีทั้งนั้น

ขอให้ทุกๆคนที่ได้เข้ามาเยี่ยมเยือนกันในนี้ พบแต่สิ่งที่ดี มีมงคล สุขภาพแข็งแรง เจริญในธรรม ตลอดปีและตลอดไปนะคะ  :)


ที่มาภาพ:siambrandname.com

วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555

20 Jan: ไปเลี้ยงนักเรียนรร.สอนเด็กตาบอด


วันนี้เช้าเตรียมไปรับรายการอาหารที่สั่งไว้ ไก่ทอด ขนมลูกชุบ วุ้น เลี้ยงนักเรียนตาบอด มีเด็กประมาณ 70 คน เด็กจะลงมาทานอาหารประมาณ 11.30 น ระหว่างรอเราก็เดินไปดูเด็กเรียนหนังสือกัน  ได้เก็บภาพน่ารักของพวกเขา เราจำได้หลายคนที่เคยเจอเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เลยทักทายถามข่าว บางคนโตเร็วจังสูงขึ้นหน้าตาเปลี่ยนไป กิจกรรมของพวกเขาเราจะเขียนเอาไปลงอีกบล็อกที่ http://meecorner.blogspot.com/2012/01/blog-post_20.html

กลับเที่ยงเศษ แวะทานข้าวกันที่ร้านกองข้าวหอมในเมือง ไม่ค่อยประทับใจนัก ไม่สมราคา คิดว่าคงไม่พาใครไปอีกแล้ว

บ่ายไปเอาหนังสือ ไปดูลูกหนูชมพู่ ตั้ง 7 ตัว แน่ะ มีคนจองหมดแล้ว

วันนี้ได้ข่าวจากคนนอกว่าที่ในมหาวิทยาลัยเช้านี้มีตำรวจเข้าไปหลายคนเพราะอาคารต่างๆถูกงัดหลายสิบจุด เราก็บอกว่ามีกล้องวงจรปิดน่าจะมากกว่า 50 ตัวในมหาวิทยาลัย ติดเต็มไปหมดตั้งแต่มีใบปลิวข่าวของอธิการและรองอธิการออกแจกหลายครั้งเมิ่อปีที่แล้ว อธิการเลยใช้งบติดกล้องซะให้ทั่วไปหมดจะได้เฝ้าระวัง เขาก็บอกว่ามีการตัดสายกล้องออก สงสัยงานนี้เกลือเป็นหนอน หรือ....???
วันนี้ที่มหาวิทยาลัยรับสมัครนักศึกษาภาคปกติรุ่นใหม่อีกครั้งแล้ว เฮ้อ!  เห็นแล้วเศร้าใจ อนาถใจทุกครั้ง สงสารอนาคตของประเทศจริงๆ  ที่นี่เอาแต่ปริมาณอย่างเดียว คุณภาพไม่ต้องพูดถึงเพราะไม่..

วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2555

17-18 Jan: สังสรรค์เพื่อนเก่า (ที่แก่แล้ว)

เมื่อวานนัดกันกับเพื่อนร่วมรุ่นระดับประถมปลาย ได้ 12 คนมาจากที่ต่างๆสังสรรค์ปีใหม่ เพื่อนในวัยเด็กเป็นเพื่อนที่ดีมาก คบกันด้วยความรู้สึกที่ไม่ยึดติดอะไรนอกจากความเป็นเพื่อน มีอาชีพอะไร ไม่สนใจ ลูกสามีเป็นใครก็ไม่ค่อยใส่ใจนอกจากเอามาล้อเลียนกัน ไม่มีสงวนท่าที แย่งคุยกันยิ่งกว่าเด็ก สงสัยจะปล่อยแก่กัน ใครมีเรื่องทุกข์ก็ช่วยรับฟัง แก้ปัญหาได้ก็ช่วย แก้ไม่ได้ก็บอกว่าตัวใครตัวมันเนอะ ...รอบแรก เราไปคนแรกช่วยสั่งอาหารเสร็จระหว่างรอก็นั่งเจาะรูกระดาษคำตอบ ตรวจข้อสอบ โดนแซวว่า" meepole มันเป็นยังงี้ตั้งแต่เด็ก ไปไหนต้องเอาหนังสือไปด้วย" กลับเกือบ4ทุ่ม คนอื่นอยู่ต่อ เราต้องรีบมาทำคะแนนต่อ งานนี้เจอ "ชาย" เพื่อนเก่าสามสถาบันเขาดีใจมากที่เจอเราจนเขาน้ำตาไหล งงๆๆ ทำไมต้องดีใจมากขนาดนั้นน้อ! เอาหนังสือไป20 กว่าเล่มแจก ไม่พอ เพราะบางคนจะเอากันหลายๆเล่มไปให้ต่ออีก เลยผลัดไว้ก่อนจะเอาไปให้ทีหลังอีก

วันนี้สอนทั้งวัน ไม่เหนื่อยนัก  บ่าย ดร. Bo  + ดร.กำแหง (มอ.) มาจากสงขลาแวะมาหา เลยเลิกสอนก่อนเวลาลงไปคุยกันที่ห้องดร.ดาว ดร.ชุ  ดร.กานต์ คุยกันขโมงสารพัดเรื่อง (ความแย่ของผู้บริหาร ตามเคย) ก็บอกว่าปัญหาโลกแตก กิน  กาม  เกียรติ เป็นกิเลสที่หากคนไม่มีสติ ย่อมยับยั้งไม่อยู่ ยิ่งพวกนี้เขาไม่มีหิริ โอตตัปปะ ก็ยิ่งผลักดันพวกเขาไปได้ไกลมากขึ้น

พวกเขาพาไปเลี้ยงกัน แต่เราขอตัวเพราะงานค้างมากไปแล้ว และให้พวกดอกเตอร์หนุ่มสาวเขาไปกันดีกว่า เราไปก็จะกลายเป็นคุณแม่พาลูกๆไปหลายคน หุ หุ

ค่ำนี้เพื่อนบ้านโทรมาชวนไปทานน้ำชาคุยกัน ไปตั้งแต่ 2 ทุ่ม กลับเอาเที่ยงคืน

วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

17 Jan: วันครู วันของศิษย์

ที่มาภาพ: oknation.net


เพราะ"ครู คือผู้ปลูกฝังความรู้และความดี" วันนี้จึงได้ไปเยี่ยมคารวะกราบคุณครูผู้สอนความรู้ และเป็นตัวอย่างที่ดีให้เราเห็นต่อจากเมื่อวานอีกวัน....วันนี้ ตั้งแต่เช้า เราไปซื้อพวงมาลัยดอกไม้สดไปคารวะคุณครูต่อ ไปบ้านผอ.เชิดคนแรก (78 ปี)  เจออ.ชัยยุทธ เพิ่งเกษียณไปนั่งคุยอยู่ก่อนแล้ว ผอ.และพี่อุทัย ดีใจมาก ให้พรยาววววมาก ว่าแล้วนั่งคุยต่อผอ.ถามเราว่ารีบไปไหนไหม เราก็บอกไม่ เพราะผอ.จะชวนคุยเรื่องธรรมะ เลยยาว ชั่วโมงเศษ  ลากลับพร้อมรับปากว่าจะพา link ไปคุยเรื่องธรรมะที่ยังข้องใจดีกว่า แม่นกว่าเรานัก  หลังจากนั้นแวะไปหาครูเนติภรณ์ (93) อจ.ยังเหมือนปีที่แล้ว ความจำดี หูตาดี ขึ้นลงกระไดที่ชัน 2 ชั้นได้สบายมาก เดินไม่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยใดๆ ปีนี้มีนักเรียนที่เติบโตมีหน้าที่การงาน ไปอยู่ยังประเทศต่างๆ 21 คนมาหาอจ. จาก เวียตนาม เปรู ฯ  อจ.คุยด้วยความอิ่มใจที่มีศิษย์ระลึกถึงพระคุณ มาเยี่ยมเยือน คุยพอสมควรกลับมาทานเที่ยงที่บ้านเสร็จ บ่ายเศษไปต่อ ไปกราบปีใหม่ท่านวิสุทธิ์ที่วัดศานติไมตรี เอาตะกร้าที่น้องดร.รุ่นกลางมาฝากเราไปถวายท่าน เพราะได้ตั้งใจตั้งแต่แรกและบอกน้องๆไว้แล้วว่าจะนำไปถวายพระให้ร่วมอนุโมทนา  สนทนาพอสมควรแก่เวลา ท่านอยากได้ข้อมูลเรื่องย่าเหล เลยอาสาท่านจะกลับมา search ให้ สายโทรศัพท์ท่านที่วัดมีปัญหาเลยใช้ internet ไม่ได้  กลับจากนี้ก็ไปหาพี่พลและพี่อู้ดต่อ (early retire ปีนี้ทั้งคู่) ตั้งใจจะคุยไม่นาน กลายเป็นนานมาก จน 5 โมงเย็น ไป BigC ต่อ ทำธุระจน เกือบ 6 โมง ซื้อโดนัท 1 กล่องฝากให้ลูกพลขับ ที่ขับรถให้ทั้งวัน

วันครูปีนี้ผ่านไปด้วยความสุข อิ่มใจของครู ส่วนศิษย์อย่างเราได้พรจากใจของครูมาเต็มล้น จำไม่ได้หมดแต่ทุกคำที่ออกจากใจและปากของครูล้วนมีมงคลทั้งสิ้น เพราะท่านให้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ และปรารถนาดี สุขและปิติใดจะมากเท่ากับเราสามารถทำให้ผู้มีพระคุณมีความสุข ยิ่งท่านเหล่านั้นสูงวัย จนคนรุ่นใหม่หลายๆคนไม่เห็นคุณค่าอาจเห็นเป็นเพียงคนแก่ที่เดินผ่านไปมา แต่แท้จริงแล้วท่านเหล่านั้นยังคงเป็น "ครูของศิษย์ และเราก็เป็นศิษย์ของครู" ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ นอกจากจะบอกครูว่า เราโชคดีที่มีครูดี เป็นสิ่งที่เราบอกทุกคนที่มีโอกาสสนทนาด้วยแลแม้กระทั่งสอนเด็กก็บอกเช่นนี้กับเขาเช่นกัน  ขอบพระคุณคุณครูทุกคน สำหรับความเป็นครูที่ท่านมีให้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง สิ่งที่เราตอบแทนท่านได้มีอย่างเดียวคือ เป็นคนดีของสังคม และโชคดีที่เราเป็นครู จึงสามารถนำสิ่งดีที่ท่านมอบมาถ่ายทอดต่อไป

วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555

16 Jan :วันครู ไปกราบคุณครู

วันนี้เช้าจัดการธุระต่างๆเรียบร้อย ก็ตั้งใจไปกราบคุณครูผู้สั่งสอน ตั้งแต่ชั้นประถม-มัธยมปลาย ชั้นอนุบาลเหลือ 2 คน คุณครูอรุณ และคุณครูละออ อายุก็ 70 up ไกล้ 80 แต่ยังแข็งแรง วันนี้บ่ายไปเยี่ยมกราบคุณครูอำพนเป็นคนแรก (85) อยู่ไกลคนละอำเภอ เคยสอนเราตอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 เอาผลไม้/ดีนางาดำไปบำรุง และผ้าเช็ดตัว set สวย 1ชุด หลังจากกราบที่อกอจ. จับมือให้กำลังใจ ก็ลากลับ    .................หลังจากนั้นก็กลับเข้ามาอำเภอเมืองไปกราบอ.คลิ้ง (80 up) และภรรยา (65) สอนมัธยมปลาย เอารังนกไปบำรุง อจ.ทั้งสองยังแข็งแรงเดินออกกำลังกายทุกวัน มัวหลงทางเล็กน้อยเข้าซอยเล็กซอยน้อย เข้าทางลัดเลยหลง ..............แล้วไปกราบอ.เสริมสุข (76)  ต่อ เอาveta เบอรี่ ไปเยี่ยม อจ.สอนตอนประถม 6 อจ.เป็นเบาหวานเดินไม่ได้ ต้องถด แต่มีลูกดูแลดี สุขภาพจิตอจ.เลยยังดีอยู่ เราบอกอจ.ว่าไปเยี่ยมกราบอจ.อำพนมา อจ.เลยขอให้เล่าสุขภาพของอ.อำพน ก็เลยเล่าให้ฟัง อจ.เสริมสุขเมื่อฟังจบก็พูดว่า" meepole เธอได้บุญมากที่ทำให้อจ.เขาดีใจ ให้อจ.เขาระลึกได้ ได้บุญจริงๆ" ครูก็ดีใจที่เธอมาเยี่ยมเพราะมีเธอและเก่ง (อจ.คิดว่าอยู่รุ่นเดียวกัน แต่เราไม่แน่ใจว่ารู้จัก?) เท่านั้นที่ยังมาเยี่ยมครูอาจารย์ อีกคนปีนี้มาไม่ได้อยู่กทม.แต่โทรศัพท์มา เราคุยได้ไม่นานต้องรีบกลับเพราะต้องไปสวดมนต์ต่อ เลยยังไม่ได้เยี่ยมอจ.อีก 3 คน

พรุ่งนี้จะไปเยี่ยมกราบอจ.อีก วันนี้อจ.ทุกท่านให้ศีลให้พร ให้อยู่เย็นเป็นสุข แค่นี้ก็สุขมากแล้ว แต่ที่สุขมากคือทำให้อจ.มีความสุขและดีใจ เราขอบคุณอจ.ทุกท่านที่นอกจากสอนวิชาความรู้แล้ว อจ.ยังสอนให้เราเป็นคนดี และอจ.สมัยก่อนนั้นท่านปฎิบัติดี เคี่ยวเข็ญลูกศิษย์ ให้เรียนและเป็นคนดี ลงโทษเมื่อทำผิด และเอาใจใส่ ต่างกับยุคนี้ที่ส่วนมากต้องทำผลงานของตัวเองก่อน จึงไม่ค่อยเหลือเวลาเอาใจใส่ศิษย์มากนัก

วันนี้สวดมนต์เสร็จ นั่งสมาธิก็แผ่กุศลให้คุณครูอำพลให้อจ.ไม่เจ็บปวด ให้อจ.นอนหลับได้สนิทแม้เพียง1 คืนก็ยังดี ออกจากสมาธิก็ยังคงอุทิศอานิสงส์ให้คุณครูเช่นกัน (รายละเอียดจะเขียนเพิ่มเติมต่อ เป็นเรื่องที่ยังไม่อยากเขียนวันนี้)

วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2555

15 Jan: เงา

เงา

เมื่อคืนฝนตกตลอด วันนี้ฝนตกไม่มากแต่ไม่มีแสงแดด อากาศค่อนข้างเย็น ไม่ได้ออกไปไหนทั้งวัน เช้านี้พระอาจารย์ไปเป็นประธานการประชุมของพุทธสมาคม เราเลยไม่ต้องเข้าเมือง วันนี้เลือกนายกสมาคมคนใหม่แทนผอ.โกวิทที่เสียชีวิตไป และก็ได้อจ.ล้วน เป็นนายกฯคนใหม่

เห็นโฆษณาขาย DVD เรื่อง Buddha ของ BBC ก็ตั้งใจทันทีว่าจะอุดหนุน พอฟังต่อรายละเอียดที่เขาเอามาโฆษณา ถึงผู้มีชื่อแสดงทัศนะ ความคิด ในเอกสารรูปเล่มที่มีให้ ยกตัวอย่างเห็นหลายคนที่มีชื่อเสียงในลักษณะต่างๆในสังคม แล้วรู้สึกว่าเขาสนใจแต่ชื่อเสียงที่เป็นที่รู้จักของคนเหล่านั้นในสังคมที่นิยมให้ค่าเพี่ยงที่เห็นอย่างผิวเผิน เพราะหลายคนเหล่านั้น เรารู้มี่มาและที่เป็นไป และสร้างภาพเหมาะกับคนยุคใหม่ที่ไม่มีการศึกษาอะไรลึกซึ้งเลยเป็นเหยื่อของคนเหล่านั้นไปมากมาย สร้างความร่ำรวยอยู่เบื้องหลังในคราบผู้มีธรรมะ ก็เลยตัดสินใจไม่ซื้อดีกว่า จะได้ไม่เห็น จิตก็จะไม่หดหู่

หากคนเราสามารถสะท้อนตัวตน และจิตใจภายในได้เหมือนเงาตนเองให้คนอื่นได้เห็นก็ดีไม่น้อย แต่ทว่าความจริงแล้วเราไม่สามารถมองเห็นหรือแปลสิ่งที่เห็นให้ตรงกับความจริงได้เลย เพราะเราส่วนมากนั้นรีบตัดสินทุกอย่างจากสิ่งที่เห็น เห็นเขายิ้มก็บอกว่าใจดี เห็นเขาดุ ก็ตัดสินว่าเขาร้าย โดยไม่ศึกษา ไม่ดูเข้าไปในตัวตน

บางคนสอนเรื่องการกตัญญูรู้คน ความอ่อนน้อม แต่กลับอกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ของตนเอง แสวงหาผลประโยชน์จากครูอาจารย์ แข็งกระด้างต่อผู้ใหญ่ แต่กลับอ่อนโยนต่อฝูงชนผู้สามารถสร้างกระแสและสร้างชื่อเสียง ฐานะให้ตนได้  การสร้างภาพเช่นนี้มีมากในสังคมเรามากนัก เพราะเขาก็รุ้จุดอ่อนแอของคนในสังคมปัจจุบันเช่นกันว่าส่วนมากขาดปัญญา แสดงให้เห็นก็เชื่อที่เห็น

วันนี้ส่งmail ไป HNY Jeremy คิดถึงอจ.นะ นั่งอ่าน diary note ตอนไปใหม่ๆว่าอจ.ก็เมตตาเรามากพอควร

My silent corner 14 : King's college; Thanks ! Tundee


ตราสัญญลักษณ์ของ University of London

ในที่สุดวันรุ่งขึ้นราวบ่ายสามโมงก็รอ Tundee เป็นนัดบอดเพราะไม่รู้คนไหน รอสักครู่เห็นคนๆหนึ่งเดินผ่านเข้ามา และเดินเข้าในห้อง Jeremy เลยเดินตามเข้าไปแล้วถามเขาว่า Are U Tundee? แล้วก็..ไช่เลย เขาน่าจะมาจากอัฟริกา ตัวดำมากกกก ตัวเล็กพูดสำเนียงไม่ขัด และคล้ายๆติดอ่างด้วย  ก็เลยคุยถาม Jeremy ว่าจะต้องทำอะไร ก็สรุปว่าให้เราหาเอกสารอ่านเกี่ยวกับอาหารเลี้ยงเชื้อก่อน และเอาบางส่วนจากทุนดี เขาจะเอามาให้พรุ่งนี้ เราก็ต้องเปรียบเทียบศึกษาอาหารแต่ละสูตร เพื่อเอามาผสมสูตรใหม่ๆที่จะทดลองเลี้ยง  T.aromatica  ขึ้นไปชั้น 4 ตามทุนดีไปดูห้อง lab เขา ก็เป็นแบบเดียวกับชั้น 3 เป็นช่องทางเดินแคบๆ ห้องปิดทุกห้องต้องชะแง้ดูตรงช่องกระจก ถ้าเขาไม่เอากระดาษปิดช่อง แต่เขาก็จะมีชื่อของ Professor ติดหน้าห้อง แต่ชั้นนี้เงียบมากๆๆๆ บรื๋อ! ...เราไม่ชอบท่าทางทุนดีนัก แปลกๆแข็งๆกระด้าง ยังไงไม่รู้ เขาหยิบเอกสารบางอย่างให้ เขาบอกให้เราอาไปถ่ายเอกสารเอง เราขอเอกสารที่ Jeremy บอกไว้ แต่เขาบอกว่าเขาเขาจะให้แค่ ชื่อreference ไปค้นเอาเอง นัดไปเอากับเขาพรุ่งนี้ 11 โมง

...ทุนดี เท่าที่รู้มาเขาไม่ค่อยมา lab เขามีปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับการเรียนและ ข้อจำกัดส่วนตัว แทบไม่มีใครคุยกับเขาเลย ดังนั้นการติดต่อกับทุนดี ไม่ไม่ไช่เรื่องง่ายนัก เขาผิดนัดบ่อย ขี้หงุดหงิด เราได้ฝึกความอดกลั้นกับเขาเป็นด่านแรก เพราะเวลาเขาพูดเราฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง เคยขนาดบอกเขาว่าเขียนมาให้อ่านดีกว่า ฟังไม่รู้เรื่อง  เขาก็โวยวาย  เราจำได้ว่าเคยหลุดไปครั้งหนึ่งทนไม่ได้ เลยเห็งบไปดังๆบ้าง  กว่าจะนัดเขาได้แต่ละครั้งห่างเป็นอาทิตย์ถึงเดือนทีเดียว สิ่งที่เราต้องเอาความรู้จากเขาคือการเลี้ยงเชื้อในสภาพไร้ออกซิเจน (strictly anaerobic  cultivation) ใน glove box และ ให้ยืม anaerobic jar ทดลองใช้

อันนี้เป็นตัวอย่างของ anaerobic chamber ที่ทุนดีต้องสอนเรา set ระบบ
ที่มาภาพ chem.rochester.edu

ขั้นตอนทุกขั้นตอนที่ต้องทำภายใต้สภาพไร้ออกซิเจน มันเป็นอะไรที่ใหม่สำหรับเราหมด และค่อนข้างทรมาณเลยในครั้งแรกนี้ เพราะการสื่อสารกับทุนดีไม่ราบรื่น เราเองก็ภาษายังไม่แข็งแรงนักสำหรับศัพท์ด้าน microbiology ทุกอย่างต้องรีบกลับมาเปิดหนังสืออ่านทำความเข้าใจให้เร็วที่สุด เป็นอย่างนี้เป็นระยะในช่วงปีแรก ประมาณ 8 เดือน หลังจากนั้นก็แทบไม่ได้ติดต่อทุนดีอีก มารู้ข่าวเขาในอีกปีเศษต่อมาว่าหากเขาไม่มาจัดการ lab ให้เรียบร้อย ห้องlab เขาจะถูกปรับเปลี่ยน และในที่สุดเขาไม่มาและไม่มีใครได้ข่าวทุนดีอีก

 สรุปว่าทุนดี เรียนไม่จบ เราจำหน้าชัดเจนของทุนดีไม่ได้แล้วแต่ยังจำน้ำเสียง กิริยาของเขาได้อยู่ แต่ยังไงก็ตามเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตการเรียนในประเทศอังกฤษ เป็นชาวตางชาติคนแรกที่ทำให้เราเครียดกับการเริ่มต้นเรียนที่นั่น แต่ขอบคุณเขาที่เขาก็ให้เราได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง  Thanks ! Tundee

รูป anaerobic jar

วันเสาร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2555

14 Jan: หนังสือสวดมนต์ของวัด /วันเด็ก

ที่มาภาพ: nirotharam.com

เช้าไปวัดจัดอาหารเช้าเสร็จ เรากะ link ก็ไปกุฎิท่านกอบ เพื่อปรึกษาเรื่องการทำหนังสือสวดมนต์ของวัด ฉบับอุบาสก อุบาสิกาใช้สวด ซึ่งที่วัดยังไม่มีของวัดเอง  link เลือกและจัดเรียงบทสวดแล้ว เอาไปให้ท่านตรวจและแนะนำว่า ถูกหรือไม่ อย่างไร  หนังสือนี้เราตั้งใจมากที่จะทำให้มีขึ้นในปีนี้ซึ่งเป็นปีพุทธชยันตี ครบ 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อเป็นพุทธบูชา เป็นโชคดีจริงๆที่ได้มีโอกาสทำ งานนี้ link ตั้งใจทำมาก ค้นหาเรียงบทสวดที่มีมากมาย ตัดให้ถูกต้อง ระหว่างบทสวดของแต่ละที่ แต่ละแบบ งานนี้เราไม่อาจทำได้เพราะไม่รู้ภาษาบาลี ต้องให้ link ทำ (เราให้กำลังใจและค่อยด้านออกแบบปก) ไม่ว่าจะเอาจากแหล่งใดทำไปก็ต้องตรวจอ่านใหม่ ไม่ให้ผิด ก็โชคดีที่มีทั้งพระอาจารย์และท่านกอบเอาใจใส่ตรวจสอบ ทานให้ อีกครั้งก่อนส่งพิมพ์ ตั้งใจให้เสร็จทันใช้วันมาฆะบูชา

วันนี้วันเด็กรถติดมากแวะซื้อ cake แล้วรีบกลับบ้าน ไม่รู้ว่าปีนี้วันเด็กมีกิจกรรมอะไรที่นี่บ้างเพราะฝนตั้งเค้าช่วงเช้าและตกตั้งแต่ก่อนเที่ยง อากาศเย็นตลอดวัน

เจอหยี เลยไปนั่งคุยกันที่บ้านหยี เพราะฝนตกเราเอาหนังสือ เข้าใจในบุญ ไปให้ 6 เล่มเผื่อให้ฝากคนอื่นด้วย

ตะกี้ link เพิ่งได้รับโทรศัพท์จากอ้วนว่าภรรยาคุณไพโรจน์เสียชีวิตแล้ว อายุคง 40 เศษ link, ขาว อยู่ทางนี้เลยฝากเงินให้กานต์สินี เพื่อนร่วมรุ่นป.เอกไปทำบุญกัน บอกว่าทำพวงหรีดแต่กานต์บอกไม่ทันแล้วเพราะจันทร์นี้เผาแล้ว ชีวิตผ่านไปอีกหนึ่ง คุณไพโรจน์เป็นคนที่เคร่งในการรักษาตนและปฎิบัติตนเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีมาก link ชื่นชมมากและจะถืออุโบสถศีลเคร่งมากในวันพระ ตอนไปปฎิบัติธรรมร่วมกันเลยสนิทกันมากกว่าตอนเรียน

วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2555

13 Jan:โบนัส เงินทำบุญของเรา

แปลงโบนัสให้เป็นบุญ


 เช้านี้เข้ามหาวิทยาลัยแล้วไปรับเงินโบนัส ที่กองคลัง(ที่เขียนเรื่องราวไปเมื่อวานนี้) พอเข้าไปจนท.ที่รู้จักก็ทักทายด้วยเสียงอันดังยิ้มแย้ม ว่าไม่เห็นเราเลยนะ เราก็บอกว่าก็มาที่นี่ปีละครั้งตอนรับโบนัส ( เพราะเราไม่เบิกอะไรเลยทั้งปี  หากป่วยก็ไปคลีนิคจ่ายเงินเอง  ค่าเดินทางจะไปไหนก็จัดการตัวเอง ไม่ไปราชการ) รับซองปุ๊บก็บอกหนูแตงว่า ดี เงินนี่จะได้เอาไปเลี้ยงอาหารเด็กตาบอด แตงเลยบอกว่าขอร่วมด้วยแล้วฝากเงินมาร่วม ก็อนุโมทนากับจิตที่ตั้งใจอันเป็นกุศลของเขา  มาขึ้นรถ link แซวทันทีว่าไงเปิดซองแล้วหรือยัง ก็บอกยัง ตื่นเต้นกับ jackpot จัง หุ หุ แอ่นแอ๊น!!!! ได้เงินไปทำบุญปีนี้ 9,200 บาทไม่ขาดไม่เกิน...สาธุ

ว่าแล้วก็ไปโรงเรียนคนตาบอดทันที เดินเข้าห้องธุรการ กำลังนั่งตอบคำถามของจนท.ว่ามาธุระอะไร? ก็มีอจ.ของที่นั่นเดินมา พูดว่า "อาจารย์คะ สวัสดีค่ะ "ในมือเธอชูบีกเกอร์ (เครื่องแก้ววิทยาศาสตร์ ดังรูป) แล้วพูดต่อว่า "อจ.คะ นี่กำลังสอนวิทยาศาสตร์ อยู่และใช้บีกเกอร์ที่อาจารย์มอบให้คราวก่อน" เราก็เลยยิ้มแล้วตอบว่า "ดีจัง เดี๋ยวจะแวะไปคุยด้วยนะคะ "...ว่าแล้วก็หันมาทำความตั้งใจต่อจนเสร็จ แล้วก็ไปคุยกับอาจารย์ท่านนั้นซึ่งนั่งสอนวิทยาศาสตร์เรื่องการควบแน่นที่หน้าห้องโต๊ะม้าหิน ตรงทางเดินสนามมีเด็กประถม 5 มี 6 คน เราก็นั่งดู คุยเป็นระยะๆ ได้ความคิด ความรู้สึกอะไรหลายอย่าง ค่อยนำมาเขียนอีก เป็นเวลาสมควรก็ขอตัวกลับ อาจารย์เขาก็พูดว่า "อจ.meepole ดีใจไหมคะที่เห็นเด็กๆได้ใช้อุปกรณ์ที่อจ.ให้มา" เราก็ตอบว่า "ดีใจและอิ่มใจค่ะ"

เรารู้สึกเช่นนั้นจริงๆ และมีความรู้สึกอื่นอีกหลายอย่างตามมา จริงๆแล้วเราลืมไปแล้วเรื่องการนำอุปกรณ์วัสดุวิทยาศาสตร์มาให้ เพราะคงนานมากแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าบีกเกอร์ใบเล็กๆนั้นสร้างความสุขให้เราได้ทั้งวัน  เอ! ติดสุขมากไปหรือเปล่า คิๆ

เงินคงจะเหลือ ก็จะใช้สร้างบุญใน project ต่อไป ไว้คิดอีกว่าจะทำอะไรให้เขาได้อีก

หลังจากออกจากโรงเรียนคนตาบอด ตั้งใจเอาเงินส่วนหนึ่งไปถวายพระที่วัดศานติไมตรี แต่ไปถึงมีการเปิดพิธีบวชธรรมจาริณีเลยกลับออกมาก่อนค่อยไปอีก เลยเข้าเมืองไปซื้ออาหารเพลถวายพระอาจารย์ ฉลองโบนัสก่อน บุญแรกที่สำเร็จ...สาธุ

ไปถึงวัดได้ทำทานอีกเพราะเจอคณะของโรงเรียนแห่งหนึ่งมากับผอ.รร. มากราบปีใหม่พระอาจารย์ พระอาจารย์แจกหนังสือคนละเล่ม (เข้าใจในบุญ) เราแจกให้อีกคนละ 2 เล่ม (สุขภาวะด้วย 3 อ. ที่แจกตอนถวายกุฎิ  และบ้าน...ที่สนพ. ซื้อลิขสิทธิ์เอาไปพิมพ์) รวมได้ไป 3 เล่ม สบายใจทั้งผู้ให้และผู้รับ ถ้าเอาไปอ่านก็จะเกิดประโยชน์แก่ชีวิต ดังที่เราปรารถนาจะให้เกิด :)

วันนี้เขียนเรื่อง

คนดี ..ของเด็กhttp://meecorner.blogspot.com/2012/01/blog-post_13.html

 และ   เตือนกัน..ของไม่หมดอายุ คนกิน(อาจ)หมดอายุได้
http://meepole.blogspot.com/2012/01/blog-post_13.html

วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2555

12 Jan: เรื่องของเงินโบนัส


เช้าไปรับ อจ.ที่สถานีรถไฟ ไปมหาวิทยาลัยต่อ สอนเช้าถึงเย็น  2 วิชา สอบเสร้จก็สอนต่อ วันนี้สอนเรื่อง marine pollution และ oil spill & oil bioremediation

วัรนี้น้องกลุ่มดร.รุ่นกลาง เอากระเช้าปีใหม่มาสวัสดีปีใหม่ เขินจัง รู้ตัวว่าแก่แน่เลยเพราะน้องๆเอาสารพัดนมธัญญพืช แอนลีนแคลเซียมสูง และน้ำขิงมา ก็บอกเขาว่าทีหลังไม่ต้องเปลืองเงินขอร้องเถอะ และบอกให้น้องๆรับรู้เพื่ออนุโมทนาว่ากระเช้านี้จะนำไปถวายพระสงฆ์

เรื่องราวที่คุยกันไว้วันนี้ ทำให้เกิดอาการผะอืดผะอมในความเอาเปรียบเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ของกลุ่มผู้บริหารที่ได้กระทำกัน ไว้ให้อาการนี้จางลดลงไปก่อนจึงค่อยเขียนบันทึก เพราะที่ได้ยินมาในวันนี้ก็เป็นเรื่องน่ารังเกียจเช่นกัน

วันนี้จนท.การเงินโทรมาบอกคณะให้มาแจ้งเราให้ไปรับเงินโบนัส เหลือคนเดียวในมหาวิทยาลัยเหมือนเคย เรื่องเงินโบนัสเป็นเรื่องที่คนไม่มากนักไม่เห็นด้วยกับการต้องให้โบนัส ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป เราก็มีเหตุผลของเรา(ราชการมีโบนัส?? for what??) ดังนั้นเมื่อเงินโบนัสออก เราก็เอาไปทำทานบ้าง บุญบ้าง เช่นเลี้ยงอาหารรร.เด็กตาบอด เพราะเงินโบนัสสำหรับอาจารย์ไม่ได้มากมายมีตั้งแต่ 6000-10000 เศษ แต่ผู้บริหารระดับกลาง ถึงรองอธิการก็มากไปตามลำดับ ปีนี้ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้มาหลายล้าน เท่าที่ทราบแบ่ง 2 ล้าน สำหรับให้ผู้บริหาร 31 คน ดังนั้นรองอธิการที่มีหลายคนมาก ก็ได้คนละ 150,000 บาทหรือบางคนพิเศษก็มากกว่า นี่แค่รองอธิการ ! ส่วนอาจารย์ พนักงานราชการ อจ.สัญญาจ้าง และอื่นๆอีกประมาณ 600 คนก็ ได้จากก้อน 4 ล้านบาท ได้แตกต่างกันตามกฎ...ที่ไม่มีเกณฑ์ที่จะอ้างอิงได้เพราะหลายๆคนลองคุยกันแล้วหาหลักอิงไม่เจอ เท่าที่แต่ละคนบอกเรา ก็มีตั้งแต่ 8,000-10,000  บาทเศษ ต้นๆ   แม่บ้านบางคนได้มากกว่าอจ.พนักงาน เลยเกิดการท้อใจของอจ.รุ่นใหม่ เราก็บอกให้อจ.อาวุโสกว่าไปพูดให้กำลังใจเขา อย่าให้เขาเอาเงินเป็นตัวตั้งนัก มันเป็นสิ่งสำคัญก็จริง แต่ไม่ไช่ที่สุดของชีวิต อย่าให้มันอยู่เหนือเราจนซื้อจิตใจและความสุขทั้งหมดไปได้ ก็ทำได้แค่ปลอบใจไม่ให้เขาเดินในเส้นทางของการต้องไปรับใช้สนองตามคำสั่งให้พวกหัวหน้าที่มีส่วนกำหนดเงินให้ (เช่น ใช้ให้สอนแทน ออกข้อสอบแทน  พิมพ์งานแทน ค้นหาข้อมูลที่ต้องการแทน จนแทบไม่เชื่อว่านี่คือสถาบันการศึกษาที่น่าจะมีผู้ที่พัฒนาด้านปัญญา และสำนึกครู )

โบนัสส่วนของเรายังไม่รู้เพราะวันนี้ก็สอนทั้งวันไม่ว่างไปรับ  แต่ตั้งใจแล้วว่าเงินประเภทนี้ขอคืนกลับให้สังคม ก็จะเอาไปเลี้ยงนักเรียนที่รร.คนตาบอดเช่นเคย พวกเขาชอบทานไก่ทอด  ปีนี้ตั้งรายการไว้ตอนที่เขียนนี้เลยว่า จะเลี้ยงไอศครีมวอลล์ ไก่ทอดชิ้นโตๆ จะลองถามดูอีกว่าปีนี้โรงเรียนต้องการอะไรเป็นพิเศษบ้าง...อยากบอกพวกผู้บริหารกลุ่มนี้เขาจังเลยว่าเงินจำนวนมากมาย หลายครั้งที่พวกเขาได้มาด้วยวิธีที่รู้แก่ใจนั้น ไม่น่าจะสร้างสุขให้เขาได้มากนักหรอกเพราะพวกเขาก็ปิดบังกัน ที่รู้มาก็เล็ดลอดประเภทยิ่งปิดยิ่งมีคนอยากรู้นั่นล่ะ หากเอาไปแบ่งปันสร้างสุขให้ผู้อื่นที่มีโอกาสน้อยกว่า แล้วเห็นเขาเป็นสุข แล้วจะสุขมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณจริงๆ จริงๆบางครั้งหากยังสร้างความดีกันไม่เป็น แค่ลด หรือละสิ่งชั่ว การทำในสิ่งผิด ก็ถือเป็นการเริ่มต้นทำดีที่ง่ายที่สุดแล้ว

วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

11Jan: ความหวัง




วันนี้ออกข้อสอบทั้งวันจนเสร็จ วันนี้เย็น clear บ้านครั้งยิ่งใหญ่เพราะชาบู ฉี่มั่ว ทั่วทั้งบ้านไม่รู้เพี้ยนอะไร หยอดทุกที่ยาวจากหลังบ้านถึงหน้าบ้าน  เขาคงรู้ตัวเพราะเราถามตั้งแต่เช้าว่าฉี่ใคร?? แค่นี้ชาบูก็เดินย่องแบบสโลว์โมชั่นเข้าใต้เก้าอี้นอนหมอบ วันนี้เลยให้อยู่นอกบ้านรวมกับตัวอื่นเป็นการลงโทษ

ช่วงนี้เวลาฟังข่าว ให้เศร้าจิต หลายเรื่องไม่อยากบันทึกไว้จดจำ รู้แต่ว่าวันหนึ่งประเทศเราคงมีคนดี ซื่อสัตย์ รักชาติ แผ่นดินเกิด มีสำนึก ละอายบาป คิดดี ทำดี อย่างจริงใจ มากกว่าที่เป็นอยู่   MY HOPE !!


น่าจะเป็นจั๊กจั่นหน้าบ้าน

วันอังคารที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2555

10 Jan:

ระฆังเงิน

เช้านี้ไปตรวจสุขภาพประจำปี วันนี้ออกข้อสอบทั้งวัน  ส่ง mail ให้ Ann/ ให้จ้อ ไปรับไวนิลให้/เจองูสาบลายเสือคอสีแดง เจ้าPote' กัดตรงคอมันทะลุแตกแล้วแต่มันยังดิ้นอยู่ larna พยายามจะไปกัดซ้ำ เราเลยกันมันออก พร้อมกับต้องตีงูให้ตายไม่งั้นมันก็คงทรมานอีกนาน เฮ้อ!ไม่เคยสบายใจเลยเมื่อต้องตีงู  คืนนี้สวดมนต์อุทิศอานิสงส์การสวดพุทธมนต์ กรวดน้ำไปให้ พรุ่งนี้ตักบาตรไข่ไปให้อีก ค่ำนี้ไปส่ง pa เกือบไม่ทันรถติดมาก ติดทุกไฟแดงเลย


ฝนตกเป็นช่วงๆ อากาศเย็นดี

วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2555

9 Jan: เปิดเทอมอีกครั้ง/เจอคนที่เราเคยให้ทุนเรียน


ลูกและดอก ต้นรำเพย ในบ้าน

เช้านี้ไปเดินตลาดในอีกอำเภอ เพราะต้องไปรับผู้ใหญ่ ไปส่งท่านเสร็จเข้ามหาวิทยาลัย แล้วออกมาสั่งทำไวนิล

วันนี้คล้ายเปิดเทอมอีกครั้งหลังจากปิดตั้งแต่ 29 ธค.เพื่อชดเชยที่เปิดก่อน นานไปหน่อยเลยยังไม่ปรับตัวให้เข้ากับบรรยากาศในนั้น วันนี้ตำราสอนนศ.วิชา ชีวเคมีสวล (environmental biochemistry) เสร็จเรียบร้อย เป็นต้นฉบับให้นศ.ไปถ่ายเอกสารเข้าเล่มเอง เล่มนี้ใช้เวลาเกือบสามเดือนในการปรับปรุงเพิ่มเติม ช้าไปหน่อย ยังไม่พอใจนักแต่ก็ดีในระดับหนึ่ง

โลกกลมแท้ วันนี้ pa มาบ้านพร้อมกับช่างคนหนึ่งที่ไม่รู้จัก เขาจะมาดูสาย internet ที่เดินวุ่นวายผ่านสวน จะมาช่วยทำ  เราก็ไม่ได้สนใจนัก เดินออกไปดูที่ระเบียงว่าช่างไหน เขามองเราแบบตั้งใจมองให้เห็นแล้วสวัสดี เรารับไหว้แล้วเข้าบ้าน ไม่คิดอะไรมาก พอเขากลับไปกับ pa แล้ว link ก็เข้ามาบอกว่า หนุ่มคนนี้เขาบอกว่าเราเคยให้ทุนการศึกษา ส่งเขาเรียนหนังสือ เราบอกว่าจำไม่ได้ เขาว่าตอนนั้นเขาบวชแล้วเรียนมสธ ปีสุดท้ายแต่จะหยุดเรียนก่อนเพราะไม่มีเงินลงทะเบียน  หลวงพ่อบอกว่าให้เรียนไป จะหาโยมที่จะให้ทุนเรียนต่อ เขาจึงได้เรียนต่อจนจบ เรากับ link ก็งงๆ ว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าเป็นเราที่ให้ทุนเพราะนอกจากไม่เคยเห็นแล้วยังจำไม่ได้อีก ก็เลยเดาว่าหลวงพ่อคงบอกเขา ไว้คราวหน้ามาซ่อมค่อยถาม แต่ว่าโลกกลมดี และรู้สึกอิ่มใจและเกิดปีติที่รู้ว่าในที่สุดเขาเรียนจนจบ

วันนี้ลมแรงมากทั้งวัน ผิดปกติ และวันนี้เขียนเรื่องเบาๆ วงดนตรีป่าๆhttp://meecorner.blogspot.com/2012/01/amphibian-symphony.html



เจ้าหนู "ปาด" ตัวนี้ เราช่วยไว้จากการที่โดดเข้าช่อง freeze ในตู้เย็นโดยไม่ตั้งใจ

วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2555

8 Jan: ทำวัตรเย็น


เช้านี้กำลังทอดถุงทองและเปาะเปี๊ยะเผือก แก๊สหมด โทรบอกที่ร้าน ประจำ รอพอสมควร โทรไปถามว่าทำไมช้าจังเขาบอกว่าแก๊สยังไม่มาส่ง ต้องรออีกครึ่งชั่วโมง ก็บอกว่าไม่เป็นไรต้องการเพียงรู้ว่าต้องรอ หรือควรเป็นรายการอื่นแทน นานไปก็ตัดสินใจว่าทำแซนวิชปูอัดให้สามีแทน ขนมปังเนย+ข้าวโพดนึ่งคลุกเนยของเรา เราไม่ชอบทานอาหารคาว ตอนเช้า ยกเว้นข้าวต้มขาวไข่เค็ม สักครู่เขาโทรมาบอกว่ามีถังเก่าสักหน่อยได้ไหม เราบอกว่าได้ไม่เป็นไรแต่ไม่รั่วเป็นใช้ได้ เขาบอกปลอดภัยแน่ เลยบอกว่าเอามาได้ ในที่สุดเขาเอามาแทนถังเก่าที่ใหม่มาก ก้ไม่คิดอะไร เขาเปิดลองให้ดู แต่ไม่ได้ลองปิด เพราะเราทอดของต่อ ทอดหลายอย่างจนเสร็จ ก็ปิดวาวล์แก๊สที่ถังแบบที่เคยทำ แต่คราวนี้ไฟไม่ดับรอสักครู่ก็ไม่ดับ กระทะควันขึ้นเลยปิดที่เตาแทน ไม่สบายใจเพราะทุกครั้งปิดวาวล์ก่อนเพื่อใฟเผาแก๊สที่ค้างในท่อให้หมดซึ่งก็หมดเร็วมาก แทบจะทันที ก็เลยโทรไปบอกที่ร้านเล่าให้ฟังเขาบอกจะมาดูให้ ครู่เดียวก็มาพร้อมถังใหม่ เขาบอกเปลี่ยนให้เลย น่ารักจัง เราทดลองให้เขาดูว่าไฟไม่ดับ ถามสาเหตุเขาหัวเราะ ไม่ตอบบอกว่าใช้ถังไหม่นี่ดีกว่า เราก็ไม่เซ้าซี้เพราะเขาคงลำบากใจที่จะตอบ ก็จบ

ทานเช้าเสร็จพาเจ้า Pote' ไปฉีดยาประจำปี เขาตื่นเต้นกับการนั่งรถมากไม่ยอมนั่งยืน ข้ามเบาะหน้าหลังไปมา เลยต้องกลับมารับ chabu ไปนั่งเป็นเพื่อน คลายตื่นเต้นไปมากเพราะ chabu  นั่งขวางคุมไม่ไห้ข้ามไปเบาะหน้าได้

เย็นไปทำวัตรเย็น สวดมนต์ที่พระอุโบสถ ตอนนี้สวดพระปริตรที่ใช้สวดมนต์ข้ามปี ซื้อดอกไม้จะไปเปลี่ยนดอกไม้ในโบสถ์ แต่ปรากฎว่าดอกไม้สวยกว่าที่เราซื้อซะอีก เลยไม่เปลี่ยนเอากลับมาใส่แจกันบูชาพระที่บ้านแทน เอาชุดผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก 2 ผืนไปถวายหลวงพ่อกอบ ปีใหม่ ท่านสวดอวยพรให้

My silent corner 13 : King's college พบ Jeremy และ T.aromatica




บางมุมของห้องสมุด เขามีหลายมุมหลายตอนมาก ส่วนที่เป็น Journal จะมากจนตาลายไปหมด

(ต่อ)...เราอ่านสิ่งที่ Jeremy ให้มา 100 abstract โดยเขาบอกว่าให้อ่านดูว่าสนใจเรื่องทางไหน..บ่ายของวันที่ 10 พค. ไปตึกเจอ Clare เขาบอกว่า Jeremy ตามหาเราอยู่ ก็งงๆๆว่าหาทำไม ยังไม่ได้นัด เราก็วุ่นวายใจพอควรไม่รู้ว่าจะถามเรื่องที่อ่านหรือเปล่า  เพราะยังไม่ได้สรุปอะไรออกมาจริงจังเลย แต่ Sarah บอกว่าไม่ต้องห่วงหรอก เขาคงถามเพียงว่ารู้อะไรบ้าง ไมถึงกับรายละเอียด....สักครู่ Jeremy มาก้เริ่มซักด้วยประโยคแรกคือ ไปถึงไหนแล้ว ทำอะไรบ้าง ก็ตอบว่า อ่านค้นอย่างเดียว จบแล้วแต่ยังไม่เข้าใจหลายเรื่อง  jeremy หยิบตัวอย่างเชื้อ T จากกล่องกระดาษออกมาเป็นหลอดแก้วปิดหัวท้ายหลอดเหมือนฟิวส์ขนาดเล็กประมาณ 2 นิ้ว เห็นอักษร T เราเลยพูดว่า  T.aromatica อจ.บอกว่า "Yes! นี่เป็นของที่คุณจะทำ"  ว่าแล้วอจ.นัดให้พรุ่งนี้บ่ายสามให้เราไปพบเด็กนักศึกษาป.เอกคนหนึ่งของ Smith ซึ่งอาจต้องทำงานร่วมกับเรา....(นี่ล่ะเจ้าตัวปัญหาคนแรกของเราเลยทีเดียว หุ หุ)




บางมุมของห้องสมุด ชั้นใต้ดินจะมีห้องอบรม มีห้องmedia ต่างๆให้ใช้ แต่เราไม่ค่อยลงไปบ่อยนัก

จากนั้นก็ถามเราต่อว่าที่อ่านเป็นยังไง เราก็บอกว่า ส่วนมากอ่านเจอแต่ Toluene  pathway  และเรื่องราวของ T.aromatica และอ่านไปๆ ก็สงสัยเรื่องหนึ่ง แต่ไม่เป็นไรจะค้นเอง แต่อจ.เขาไม่ยอมบอกว่าให้ถามเขามาเลยว่าสงสัยอะไร ก็บอกว่า เรื่อง competitive PCR (สมัยสิบปีที่แล้วเรื่องนี้ยังไหม่อยู่แต่ตอนนี้ หมูๆแล้ว) อจ.ก็อธิบายให้ฟังซะยาวและแน่นอนส่วนมากฟังไม่รู้เรื่อง และให้ค้นเกี่ยวกับเชื้อที่ให้มาวันนี้ หลังจากเสร็จก็ไปห้องสมุดค้น Journal  ครั้งแรก Journal ของเขามากจริงๆ ก็ได้ที่ Jeremy ต้องการ จน 3 ทุ่ม กลับหอ

วันเสาร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2555

7 Jan: อรุณรุ่ง





ภาพอรุณรุ่งไกล้ 06.00 น มองจากหน้าต่างห้องนอน สีชมพูอมส้มสวยมาก และเสียงนกหลากพันธุ์ประสานเสียง

เช้าไปวัด เอาขนมปังโอลวีต ไปถวายพระอาจารย์ เลยได้มังคุดจากสวนพี่สาวมา 3 ถุงใหญ่ กลับบ้าน สายอาบน้ำเจ้า larna บ่ายแก่ๆพา larna และ chabu ไปหาหมอให้ตัดเล็บให้ และฉีดยาประจำปี 2 ชุด กลับบ้านแล้วไปรับ pa ไปส่งขึ้นกทม.

ระหว่างทางอ่านบทความดีๆเรื่อง กฎแห่งกรรมมีจริง จะนำไปเล่าไว้ใน Meepole's  silent corner

วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555

6 Jan: กังวลไปทำไมเนอะ

ที่มาภาพ bajan.wordpress.com

เช้าไปวัด แล้วไปส่งผ้านวมซัก กลับบ้าน เขียนหนังสือตลอดวัน โบโทรมา HNY คุยกันหลายเรื่อง กระตุ้นให้โบทำผลงานวิชาการ เข้าสู่ผศ.ได้แล้ว ที่น่าขำคือทางสงขลาได้ข่าวว่าอธิการของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งจะไปเป็น candidate ของที่นั่นหลายคนที่นั่นเลยกังวล กลัวว่าคนทางนี้หากจะไปเป็นแล้ว....ของที่นั่นจะเสื่อมลง เหมือนที่นี่ ก็บอกว่าอย่ากังวลเลย อะไรจะเกิดก็เกิด กรรมดี-ชั่วเป็นของผู้ก่อกรรม เราก็คอยดูผลแห่งกรรมในอนาคตร่วมกันก็แล้วกัน แต่กรรมต่อสาธารณะที่เขาผู้นั้นทำคงเกิดแก่สถาบันนั้นคงเลี่ยงไม่ได้ หากเลือกคนนี้ไป แต่คิดว่าส่วนดีที่จะเกิดแก่ที่นั่นชัดเจนคือการตัดงบก่อสร้างตึกและสิ่งต่างๆจะมีทุกเดือนแบบที่นี่  มีการจัดซื้อครุภัณฑ์เป็นล่ำสัน กิจกรรมการก่อกิจการจะเติบโตรวดเร็ว คุณภาพวิชาการไม่เป็นไร เพราะยังไงยังไงก็มีวิธีผ่านได้ง่ายมาก

 มันก็จริงนะคนดีจะไปที่ใด คนอีกที่ย่อมยินดีรอต้อนรับ คนไม่ดีจะไปตกที่ใด คนดีก็เกรงว่าจะนำความเสื่อม ความตกต่ำด้านคุณธรรมจริยธรรมไปให้ ต้องยอมรับว่าการได้คนที่ไม่มีมโนธรรม จริยธรรมไปเป็นผู้นำสถาบันการศึกษานับเป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับนักศึกษา และอาจารย์ที่มีคุณธรรมเพราะจะถูกเบียดบัง เบียดเบียน เหมือนที่เราเห็นอยู่ คนดีๆเดือดร้อน ครูไม่เป็นครูแต่เป็นนักธุรกิจหาผลประโยชน์ที่ไม่พึงได้จากงบการศึกษา มองไม่เห็นนักศึกษา หาผลประโยชน์ความพอใจส่วนตัวเป็นที่ตั้ง แปลกแต่จริง... คุณภาพบางสถาบันที่เป็นเช่นนี้เลยตกต่ำอย่างที่เป็น (ไม่ไช่ที่เห็น)  ต้องอาศัยการสร้างภาพและสร้างความสัมพันธ์ การประเมินบนโต๊ะอาหารดีๆจึงผ่านไม่มีปัญหา

แต่โดยส่วนตัวจริงๆเราไม่ต้องกังวลกับผู้นำประเภทนั้นมากนักว่าจะทำให้เราเดือดร้อน มันขึ้นกับความเข้มแข็งของจิตใจ ความแข็งแรงของพื้นฐานครอบครัวของเราเอง ดีเสียอีกจะได้เป็นแบบทดสอบ เหมือนที่ท่านพุทธทาสเคยตั้งคำถาม ว่า "อยู่ท่ามกลางกองขี้ทำอย่างไรไม่ให้เหม็น" ??  เราเองยังรักษาตัวให้รอดพ้นจากสิ่งไม่ดีมาได้ทุกครั้ง ทั้งนี้ต้องบอกว่าพื้นฐานครอบครัว คำสั่งสอนของบุพการี ความยึดถือในหลักธรรม มีหิริ โอตัปปะ และที่สำคัญคือความรักครอบครัว จะช่วยฉุดรั้งเราไม่ให้ทำชั่ว คิดชั่วและไม่ให้ตกในที่ชั่วได้ ..เหมือนที่คนโบราณเขาตำหนิคนที่คิด พูด ทำในสิ่งที่ผิดกันว่า" พ่อแม่ไม่สั่งสอนนั่นล่ะ" !! เพียงแต่สงสารเยาวชนในอนาคตของชาติที่มีคนแบบนี้ไปอยู่ต่างหาก

link ไปงานแต่งงานของจนท.ที่มหาวิทยาลัย อจ.ชุที่มหาลัยเราก็แต่ง เราฝากซองหนู Ya ไปแทน

วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2555

5 Jan: สัญญาณเตือนจากธรรมชาติ



ช่วงนี้เห็นดินถล่ม ยุบ แยก สไลด์ หลายจุดในภาคใต้ ล่าสุดที่เขาวัง หากมองให้ดีๆก็จะเป็นผลมาจากกิจกรรมของมนุษย์ ปรากฎการณ์ธรรมชาติเป็นเพียงตัวกระตุ้นให้สิ่งที่คนทำไว้ส่งผลเร็วขึ้น เช่นแอบโค่นป่าด้านใน แอบขุดตักดิน (เช่นที่เขาวัง) ในท่สุดก็ไม่สามารถต้านทานน้ำป่าได้ก้ถล่มเกิดความเสียหายทั่วถึงกัน (ยกเว้นนายทุน ผู้ทำกิจการ) แต่ชาวบ้านรอบนั้นที่ละเลย บางคนเห็นแก่ผลประโยชน์เล็กน้อย บางคนทำเป็นเอาหุไปนา เอาตาไปไร่ ธุระไม่ไช่  ทุกอย่างหากคิดให้ดี ทุกอย่างที่เดือดร้อนกันไปทั่วเป็นผลจากการเห็นแก่ตัวของคนบางกลุ่ม ความละเลยของคนอีกหลายกลุ่ม และความไม่รักธรรมชาติของคนจำนวนมาก เมื่อคุณไม่รักธรรมชาติ ทำร้ายเขา เขาก็มีจุดอิ่มตัวที่รับไม่ได้อีก เขาก็จะไม่โอบอุ้มเราอีก เรายังคงต้องรับผลที่เป็นความเดือดร้อนไปอีกครั้งแล้วครั้งเล่านับแต่บัดนี้ จนกว่าสำนึกที่แท้จริงที่จะได้รับการปฎิบัติ แก้ไข ที่จะปกป้องธรรมชาติ ให้กลับมาเหมือนอดีตที่ป่าเป็นป่า ลำน้ำมีป่าเป็นที่แอบอิง ไม่ไช่ตัดไม้ทำลายป่ากันจนหมด ไม่ว่าภาคใหนๆก็จะจมน้ำไม่มีที่สิ้นสุด สัญญาณเตือนจากธรรมชาติได้สำแดงมาหลายตรั้งแล้ว แต่ดูเหมือนว่าคนเรายังประมาทอยู่

วันนี้เช้าไปวัด เจ้า yiching นั่งรอที่หน้ารั้วเลยเชียว ไปโอนเงินให้ค่าพิมพ์หนังสือ สั่งอาหารชุดที่ MK กลับบ้าน บ่ายนัดJack มาดูบ้านที่จะตกแต่งสวนใหม่ เย็นไปตระเวณดูบริเวณต่างๆที่คุณขาวสนใจ เราก็นั่งติดรถดูไปเรื่อยๆ แล้วไปทานสุกี้กัน แวะHome Pro ตู้เย็นที่ต้องการไม่มีของต้องสั่งจอง เลยค่อยไปดูที่อื่นต่อ ขาวจะซื้อ TV ตัวใหม่ กลับค่ำ

วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555

4Jan: จัดสมดุลชีวิต

แต่ละวันช่างผ่านไปเร็วมาก ไม่ว่าจะใช้อะไรเป็นตัวจับ เช่น ตื่นเช้าอีกวันหนึ่งแล้ว  ถึงเวลาเตรียมอาหารให้หมาๆทั้งหลายก็แสดงว่ามื้อเย็นกำลังผ่านไป  หรือไม่ก็ถึงเวลาสวดมนต์อีกครั้ง เตรียมเข้านอน หมดไปหนึ่งวัน ...ในที่สุดก็ผ่านไป 1 ปี เร็วมากสำหรับคนไกล้แก่ แต่อาจช้าสำหรับวัยรุ่น ...นี่คือวันเวลาที่ไม่เคยรอใคร ผ่านแล้วผ่านเลย ผ่านไปวันหนึ่งก็เหลือน้อยไปวันหนึ่ง นี่คือเหตุผลที่ต้องทำให้คนเราควรทบทวนแต่ละวันที่ผ่านไป และกำลังจะมาในแต่ละวันว่าได้ทำอะไรไปแล้ว เกิดประโยชน์ ดีหรือไม่ อะไรที่จะทำ ทำให้ดี ให้เป็นประโยชน์ ..เราเองยังมีอะไรของตัวเอง(แต่ไม่ไช่ของส่วนตัว)ที่ไม่ได้จัดการให้เรียบร้อยด้วยนิสัยบางอย่างที่เฉื่อยในบางเรื่อง กระตือรือล้นก็เรื่องงานด้านวิชาการที่ชอบขีดๆเขียนๆ แต่เรื่องที่ต้องจัดการอะไรๆก็รอผลัดวันประกันพรุ่งเป็นอะไรที่ต้องกระตุ้นตัวเองให้ จัดสมดุลชีวิตใหม่อย่าเอาแต่นั่งหน้าจอคอมฯ จนชีวิตบางอย่างหายไป

จะทำเขื่อนหลังบ้านก็ผลัดมาปีเศษแล้ว ไม่อยากทำก็ต้องทำเพราะน้ำตอนนี้เต็มตลิ่งมาก งูก็เริ่มมีแม้ว่านานๆทีก็ไม่อยากทำบาป  จะเก็บกวาดบ้านซ่อมแซมหลังที่ไม่ได้อยู่แล้วเผื่อให้ใครเช่าก็ไม่ได้ทำมา 4 ปี ปล่อยแบบนั้นจนไม่รู้เป็นไงแล้วไม่ไปดูเลย เคนคิดจะให้ใครก็ได้ที่ไม่มีทุนทรัพย์มากนักมาตั้งตัวทำกิจการ คิดค่าเช่าพอเป็นพิธีเดือนละ 1000-2000 บาท ตึกอยู่กลางเมือง ตั้งตัวได้มีมากก็ค่อยให้มากก็ได้ แต่ยังหาคนตั้งใจจริงไม่เจอ อาจเพราะเป็นแค่คิดในใจไปเรื่อยๆอีก ก็คงผ่านไปอีกปีแน่ในที่สุด เบื่อมากกับการมีภาระทรัพย์สินที่ต้องจัดการ รอว่าวันหนึ่งคงมีโอกาสที่จะจัดการจนหมดจะได้ถึงเวลาที่ลพ.ในป่าบอกไว้ ว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา รอก่อน ...การไม่มีหนี้อะไรเลยเป็นสิ่งที่ดีมากแล้วสำหรับชีวิตเรา แต่จะดีมากขึ้นหากเราเป็นอิสระจากทรัพย์สินทั้งปวงแล้วใช้ชีวิตที่อยู่เรื่อยๆ มีบ้านเพียงหลังเดียวที่อยู่นี่ก็พอ เขียนหนังสือ มีกัลยาณมิตรในเรือน  เวลาที่เหลือต้องจัดการส่วนเกินที่ไม่ได้เป็นผู้หามา แปลงทั้งหมดให้เป็นผลบุญ กุศล อุทิศให้ท่านๆ ก็หมดหน้าที่แล้ว ก็จะได้ไม่ต้องมีอะไรวุ่นวายกับสังคมข้างนอกอีก เห็นแล้วน่าหลบหลีกจริงๆกับสังคมยุคนี้

ระเบียงทานกาแฟหน้าบ้าน

วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2555

3 Jan: ทำบุญ/ลพ.ในป่า


เช้าตื่นเตรียมผัดสารพัดสีกับกุ้งใหญ่ถวายพระ  กิ่งเตรียมปลากระพงทอดและข้าว เสร็จเราเอาไปวัด ไปจัดผลไม้ และชุดถวายพระให้เรียบร้อย เอาไปโบสถ์ พระท่านมากันแล้ว ท่านกอบเป็นพระนำสวด เสร็จ ไปตลาดซื้อปลาไหลไปปล่อยที่บึงขุนทะเล ฝนลงปรอยๆ เสร็จมีโทรศัพท์มา ก็เลยเปลี่ยนแผน รีบทานข้าว แล้วจัดเตรียมของอีกเล็กน้อยเข้าป่าไปหาหลวงพ่อในป่า เอาน้ำผึ้งไปฝากท่านด้วย เอาหนังสือไปถวาย เอาผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ไปถวายด้วย วันนี้ช่วงต้นเดินทางครึ้มฝนมาก พอไกล้ถึงจึงรู้ว่าเส้นทางเข้าป่าขาด น้ำเชี่ยวมาก ทหารกำลังไปซ่อมให้ บารมีของหลวงพ่อในป่า ที่เส้นทางนี้ไม่ว่าขาดกี่ครั้งจะถูกซ่อมทันทีเสมอและจะเสร็จไม่เกิน 1 วัน เลยต้องถอยออกมาก่อน อ้อมไปอีกทางเล็กๆ ลำบากแต่วันนี้เอาคนขับไปเลยเข้าได้ อยู่ในป่าราว 3 ชั่วโมง  ก่อนกลับก็เป็นห่วงลพ.ก้ถามอีกครั้งว่าถ้าสะพานขาดมากกว่านี้ หรือสะพานใหญ่ ถนนด้านนอกขาด ลพ.จะมีปัญหาเรื่องเสบียงไหม ลพ.ยิ้มหัวเราะเบาๆอีกบอกว่า มีพอที่จะอยู่ได้เป็นปี อย่าห่วง และเป็นที่หลบภัยของชาวบ้านในอนาคตได้ ถึงเวลาที่เหมาะหลวงพ่อให้กลับเอง หลวงพ่ออวยพรก่อนกลับให้สุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย คนไม่ดีคิดร้ายให้ไปไกลไม่สามารถเข้าไกล้ได้ เราเลยต่อหลวงพ่อว่า"ขอให้พบแต่คนดีค่ะ" หลวงพ่อหัวเราะแล้วบอกว่าอย่างเราน่ะต้องพบแต่คนดีอยู่แล้ว ลากลับ คอสะพานที่ขาดช่วงแรกก็ถูกซ่อมเรียบร้อยแล้วดังเนรมิตร ช่วงกลับนี่ฝนตกแรงกว่าช่วงมาเยอะเลย ถึงบ้านค่ำพอดี

อ้อ! เช้านี้ท่านปาลิตเอาหนังสือเข้าใจบุญ (ที่เราถวายท่านไป) มาให้เพราะเราบอกให้ท่านช่วยตรวจสิ่งที่ผิดพลาดที่เกิดให้ด้วยต่อไปจะได้ไม่ผิดอีก ท่านก็เมตตาแก้มาให้ 3 จุดคือท่านแก้และเพิ่มบทกลอนของหลวงพ่อโต พรหมรังสี  และแก้คำว่า อานิสงค์ (ผิด) เป็นอานิสงส์ (ถูก) เราเขียนเป็น (ค์) ผิดๆๆจำไว้ และผิดตรงบาลีซึ่งอยู่ในรูปต้นฉบับผิด 

ตั้งแต่ปีใหม่มายังไม่ได้พักเลย พรุ่งนี้ต้องขอพักทำงานส่วนตัว เคลียร์บ้านหน่อยแล้ว (เอา yiching ไปฝาก pa)

วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2555

2 Jan : BD pa/Mozart - K545


วันนี้ Birthday pa ไปสิชลตั้งแต่เช้า แต่ไปไม่ถึงต้องกลับช่วงก่อนถึงไม่มาก เพราะฝนตกตลอด น้ำท่วมถนนเป็นช่วงๆน้ำเชี่ยวมาก เลยเป็นห่วงถนนถูกตัดขาด ก็เลยตัดสินใจกลับกัน ขับรถไปเส้นทางกระบี่ เซาเทิอร์นเพื่อดูสะพานที่ขาดครั้งที่แล้วว่าซ่อมเสร็จหรือยัง ปรากฏว่านอกจากยังแล้ว ยังแย่มากขาดเพิ่มขึ้น ส่วนฝั้งเราใช้แบริ่ง 2 ช่วงและเป็นหลุมบ่อแบบไม่ต้องหลบเพราะไม่พ้น ที่สงสัยกันคือทำไมน้ำในแม่น้ำค่อนข้างแห้งแล้วที่ตกกันจนท่วมถนนไปหมด มันไหลไปใหนกัน

กลับไปจัดของ 8 ชุด ไว้ถวายพระเสร็จก็ไปแวะที่แมคโครซื้อของเตรียมอาหารถวายพระพรุ่งนี้ 9 รูป เราผัดผักสารพัดสีกับกุ้งใหญ่ กิ่งทอดปลากระพง กับหุงข้าว
วันนี้หมดไปอีกวันไม่ได้อะไรที่ต้องทำ เข้าไปเที่ยว happy new year เพื่อนเก่าออนไลน์ เที่ยวไปเที่ยวมาแวะบ้านเพื่อนคนบ้านไกล ฟังเพลง  Mozart - K545 ที่ลูกสาวคุณคนบ้านไกลเล่น แล้วรู้สึกเฮ้อ! นึกถึงความหลังตอนเราสาวๆ แต่ตอนนั้นเล่นออร์แกนของแม่ เป็นออร์แกนถีบลมด้วย เห็นและฟังแล้วอยากกลับเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง..ตอนนี้ไม่ได้เล่นนานมากจนนิ้วแข็งไม่ไหวพริ้วแบบสาวน้อยแล้ว แก่แล้วเนอะเรา :) ไว้ค่อยเข้าไปฟังอีก นะจ๊ะ

วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2555

1 Jan: Good day -New year 2555


เมื่อคืนนอนตี1กว่าของวันใหม่ ดู count down ส่งความสุขให้กัลยาณมิตร online ที่ยังไม่เคยพบกัน ต้องนั่งเป็นเพื่อนหมาๆทั้งหลายที่ตื่นเต้นกับเสียงปะทัดและพลุ กว่าจะสงบ เมื่อคืนสวดมนต์และบทพิเศษในหนังสือสวดมนต์ข้ามปีที่ได้มา และได้บันทึกทบทวนตัวเองในปีที่ผ่านมา  (http://meepolen.blogspot.com/2011/12/2554.html) ก็สรุปได้ว่าชีวิตไม่ขาดทุน ที่ได้สร้างความดีมากกว่าทำสิ่งที่ไม่ดี บวกลบแล้ว ดี ปีหน้าก็ต้องดำรงความ ดี ให้มั่น

เช้านี้ไปรับหนังสือ "เข้าใจในบุญ "ที่พิมพ์เสร็จทันการ เอาไปให้พระอาจารย์ที่วัด ก็ฉลองศรัทธา  เอาไปที่โรงฉัน วันนี้วันพระ พระอาจารย์ให้โอวาท ให้พร แจกหนังสือไปเกือบ 100 เล่ม เห็นแล้วดีใจที่จะได้มีคนทำบุญอย่างเข้าใจมากขึ้น

หลังจากนั้นกลับบ้าน เย็นไปทำวัตรเย็นและสวดมนต์บทพิเศษต่อ นั่งสมาธินานหน่อยวันนี้ ปีนี้ดีเริ่มปีใหม่ได้ให้ธรรมะเป็นทานคือแจกหนังสือ ได้สวดมนต์สองรอบเช้า เย็น

ฝนตกปรอยๆ หนักบ้างเบาบ้างแต่ทั้งวันทำให้อากาศเริ่มหนาวแล้ว