เนื่องจากเราเป็นเด็กเรียนทุนรัฐบาล การเรียนที่นี่เงินค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตจะได้เดือนละ 760 ปอนด์ อันนี้รวมค่าที่พักที่ค่อนข้างแพงมาก ตอนที่มาเรียนเป็นช่วงที่ค่าเงินแพง 1 ปอนด์เท่ากับ 67-70 บาท ตลอด 4 ปีที่เรียน (หลักสูตร Ph.D. ที่นี่ 4 ปี) ครั้งแรกให้ค่าคอมพิวเตอร์ 700 ปอนด์ ให้ค่าหนังสือ 500 ปอนด์ /ปี ค่าเล่าเรียนรัฐบาล (กพ.) จะจ่ายตรงไปยังมหาวิทยาลัยในแต่ละเทอม ปีแรก tuition fee ประมาณ 9000 ปอนด์/เทอม ค่า bench fee (ปฎิบัติการ สารเคมี) 5000 ปอนด์/ปี
เราซื้อ notebook จากไทยเป็น notebook ตัวแรกเลยของ Fujisu ราคา 100,000 เศษ ราคาเกินเงินที่รัฐให้อีกเท่าตัว แต่ไม่เป็นไรเอาดีไว้ก่อน เงินก้นถุง pocket money ก็ซื้อ travel cheque ไป
เมื่อมาถึง london ต้องจัดการชีวิต จัดการค่าใช้จ่ายต่างๆที่ไม่เคยรับผิดชอบมาก่อน จัดการเปิด bank account ที่ยุ่งมาก ค่อยเขียนวันหลังเพราะเรื่องมันยาว ปีแรกอยู่หอพักมหาวิทยาลัยเลยยังไม่ยุ่งเรื่องการเดินทาง เราอยู่ zone 1 ซื้อ travel card เป็นรายสัปดาห์ และอื่นๆปรับไปตามสถานการณ์ ส่วนมากปีแรกไม่ไปไหนไกล เดินเป็นส่วนใหญ่ ที่ไปบ่อยก็ covent garden, china town ไปซื้อเสบียงมาเก็บ
ส่วนของการเรียน ก็เริ่มต้องจัดการลงทะเบียนกรอกสารพัดข้อความ รายการต่างๆ ในห้อง lab ต้องอ่านระเบียบการใช้ห้องวิจัย กฎระเบียบเป็นแฟ้มใหญ่มาก ลงชื่อเซ็นต์หลังอ่าน Control of Substances Hazardous to Health Regulations (COSHH).ในแฟ้มถือว่าได้อ่านและรับรู้ระเบียบของห้องวิจัยแล้ว ที่นี่เขาจะเข้มงวดกว่าของไทยเรามาก การใช้เครื่องมือทุกอย่างต้องมีการลงชื่อการใช้ และจุดประสงค์การใช้ สภาพเครื่องที่ใช้
เราต้องรอโค้ดในการเบิกวัสดุทุกอย่าง สารเคมี อุปกรณ์การเรียน และอุปกรณ์ lab ที่นี่จะมีรหัสของแต่ละคนในการเบิกของ ไปเบิกที่ชั้นใต้ดินมีสารพัดอย่างให้ shopping จริงๆไว้ค่อยเขียนเพิ่มอีก เอาเป็นว่าช่วงแรกเรายังไม่มีรหัสเบิกของ ต้องใช้รหัสกลางก่อน สิ่งแรกที่เบิกคือสารพัดสมุดที่ต้องใช้ เราชอบสะสมสมุด เจอสมุดที่นี่แล้วปวดใจ plain มากๆ (เชยแต่เก๋) แต่ก็เป็นระเบียบใน lab เราที่ต้องใช้เหมือนกัน
แฟ้มน่าใช้มีหลายแบบ ชอบๆๆ แบบมีสายรัดนี่ชอบสุดๆแต่แพง สมุดห่วงแบบที่เปิดแล้วมีซองให้ใส่เอกสาร ข้างในด้วย