วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2555

12 Jan: เรื่องของเงินโบนัส


เช้าไปรับ อจ.ที่สถานีรถไฟ ไปมหาวิทยาลัยต่อ สอนเช้าถึงเย็น  2 วิชา สอบเสร้จก็สอนต่อ วันนี้สอนเรื่อง marine pollution และ oil spill & oil bioremediation

วัรนี้น้องกลุ่มดร.รุ่นกลาง เอากระเช้าปีใหม่มาสวัสดีปีใหม่ เขินจัง รู้ตัวว่าแก่แน่เลยเพราะน้องๆเอาสารพัดนมธัญญพืช แอนลีนแคลเซียมสูง และน้ำขิงมา ก็บอกเขาว่าทีหลังไม่ต้องเปลืองเงินขอร้องเถอะ และบอกให้น้องๆรับรู้เพื่ออนุโมทนาว่ากระเช้านี้จะนำไปถวายพระสงฆ์

เรื่องราวที่คุยกันไว้วันนี้ ทำให้เกิดอาการผะอืดผะอมในความเอาเปรียบเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ของกลุ่มผู้บริหารที่ได้กระทำกัน ไว้ให้อาการนี้จางลดลงไปก่อนจึงค่อยเขียนบันทึก เพราะที่ได้ยินมาในวันนี้ก็เป็นเรื่องน่ารังเกียจเช่นกัน

วันนี้จนท.การเงินโทรมาบอกคณะให้มาแจ้งเราให้ไปรับเงินโบนัส เหลือคนเดียวในมหาวิทยาลัยเหมือนเคย เรื่องเงินโบนัสเป็นเรื่องที่คนไม่มากนักไม่เห็นด้วยกับการต้องให้โบนัส ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป เราก็มีเหตุผลของเรา(ราชการมีโบนัส?? for what??) ดังนั้นเมื่อเงินโบนัสออก เราก็เอาไปทำทานบ้าง บุญบ้าง เช่นเลี้ยงอาหารรร.เด็กตาบอด เพราะเงินโบนัสสำหรับอาจารย์ไม่ได้มากมายมีตั้งแต่ 6000-10000 เศษ แต่ผู้บริหารระดับกลาง ถึงรองอธิการก็มากไปตามลำดับ ปีนี้ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้มาหลายล้าน เท่าที่ทราบแบ่ง 2 ล้าน สำหรับให้ผู้บริหาร 31 คน ดังนั้นรองอธิการที่มีหลายคนมาก ก็ได้คนละ 150,000 บาทหรือบางคนพิเศษก็มากกว่า นี่แค่รองอธิการ ! ส่วนอาจารย์ พนักงานราชการ อจ.สัญญาจ้าง และอื่นๆอีกประมาณ 600 คนก็ ได้จากก้อน 4 ล้านบาท ได้แตกต่างกันตามกฎ...ที่ไม่มีเกณฑ์ที่จะอ้างอิงได้เพราะหลายๆคนลองคุยกันแล้วหาหลักอิงไม่เจอ เท่าที่แต่ละคนบอกเรา ก็มีตั้งแต่ 8,000-10,000  บาทเศษ ต้นๆ   แม่บ้านบางคนได้มากกว่าอจ.พนักงาน เลยเกิดการท้อใจของอจ.รุ่นใหม่ เราก็บอกให้อจ.อาวุโสกว่าไปพูดให้กำลังใจเขา อย่าให้เขาเอาเงินเป็นตัวตั้งนัก มันเป็นสิ่งสำคัญก็จริง แต่ไม่ไช่ที่สุดของชีวิต อย่าให้มันอยู่เหนือเราจนซื้อจิตใจและความสุขทั้งหมดไปได้ ก็ทำได้แค่ปลอบใจไม่ให้เขาเดินในเส้นทางของการต้องไปรับใช้สนองตามคำสั่งให้พวกหัวหน้าที่มีส่วนกำหนดเงินให้ (เช่น ใช้ให้สอนแทน ออกข้อสอบแทน  พิมพ์งานแทน ค้นหาข้อมูลที่ต้องการแทน จนแทบไม่เชื่อว่านี่คือสถาบันการศึกษาที่น่าจะมีผู้ที่พัฒนาด้านปัญญา และสำนึกครู )

โบนัสส่วนของเรายังไม่รู้เพราะวันนี้ก็สอนทั้งวันไม่ว่างไปรับ  แต่ตั้งใจแล้วว่าเงินประเภทนี้ขอคืนกลับให้สังคม ก็จะเอาไปเลี้ยงนักเรียนที่รร.คนตาบอดเช่นเคย พวกเขาชอบทานไก่ทอด  ปีนี้ตั้งรายการไว้ตอนที่เขียนนี้เลยว่า จะเลี้ยงไอศครีมวอลล์ ไก่ทอดชิ้นโตๆ จะลองถามดูอีกว่าปีนี้โรงเรียนต้องการอะไรเป็นพิเศษบ้าง...อยากบอกพวกผู้บริหารกลุ่มนี้เขาจังเลยว่าเงินจำนวนมากมาย หลายครั้งที่พวกเขาได้มาด้วยวิธีที่รู้แก่ใจนั้น ไม่น่าจะสร้างสุขให้เขาได้มากนักหรอกเพราะพวกเขาก็ปิดบังกัน ที่รู้มาก็เล็ดลอดประเภทยิ่งปิดยิ่งมีคนอยากรู้นั่นล่ะ หากเอาไปแบ่งปันสร้างสุขให้ผู้อื่นที่มีโอกาสน้อยกว่า แล้วเห็นเขาเป็นสุข แล้วจะสุขมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณจริงๆ จริงๆบางครั้งหากยังสร้างความดีกันไม่เป็น แค่ลด หรือละสิ่งชั่ว การทำในสิ่งผิด ก็ถือเป็นการเริ่มต้นทำดีที่ง่ายที่สุดแล้ว