วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2555

31 Oct: วันชักพุ่ม/ คนพุทธ

 
 
เรือพนมพระกลางน้ำ

 พุ่มประธาน
 
เช้ามืดไปหน้าศาลหลักเมือง วันนี้มีการชักพุ่มผ้าป่า งานประเพณี พระอาจารย์ไปเป็นประธานการเปิด ปีนี้มีการจัดงานในรูปแบบที่เปลี่ยนไป เพราะเปลี่ยนนายกเทศมนตรีใหม่ ทำถนนสายวัฒนธรรมให่มีพุ่มทั้งถนนสายเดียว 300 พุ่ม แต่ที่เราดูแล้วไม่เห็นด้วย ไม่เป็นธรรมชาติ เหมือนการจัดฉากมากกว่า ไม่เหมือนอดีตที่ทำกันมากระจายไปทุกถนน ตามศรัทธา ไม่ต้องมากระจุกที่เดียวเริ่มสวดทำพิธีพร้อมกัน เลิกพร้อมกัน มีพิธีกรกลาง ทุกอย่างมีการจัดการ ในอดีตชาวบ้านจัดการกันบ้านใครก็คนนั้น นั่งลุ้นรอพระที่จะมาจากวัดต่างๆ ตามเลขที่ๆได้ฉลากตรงกัน บางครั้งท่านก็หลงกว่าจะหาพบ แต่นั่นเป็นรสชาดของงานนี้เช่นกัน ตอนนี้แยกชุมชนด้วย พวกไกลๆไม่ไช่ในเมือง ให้ชุมชนจัดการ และพุ่มพิเศษก็นิมนต์พระเอง วันนี้เลยดูเหงาๆ ครึกครื้นตอนออกโทรทัศน์เท่านั้น และเชียร์แต่แข่งขันเรือยาว คงเดาได้ว่าเบื้องหลังการแข่งขันคืออะไร..นี่คือเมืองไทย ทุกงานไม่ว่ามงคลหรืออัปมงคล ก็จะนำเรื่องอัปมงคลมาเกี่ยวเสมอ ผีพนันสิงกันจนไม่รู้รักษาประเพณีวัฒนธรรมให้ดีงามได้ตลอด


 
ทำให้เป็นถนนสายวัฒนธรรม สมมุติขึ้นมา
 
เณรน้อยน่ารัก
 
 
 
 


พระอาจารย์ไปรับพุ่ม 5 แห่งที่นิมนต์มา ก็ทำให้รู้สึกแปลกๆเพิ่มขึ้น เพราะเศร้าลึกๆที่เกือบทุกแห่งที่ไปคนส่วนมากอาราธนาศีลไม่ได้ เลยรู้สึกว่าคนยุคนี้ห่างไกลวัด และไม่เอาใจใส่ สวดมนต์ก็อ้อมแอ้มเหมือนไปยืมหรือขโมยคำสวดของใครเขามา ไม่กล้าออกเสียงเฮ้อ! อ้อ แต่คนพุทธที่สวดได้ก็มีนะ ไม่ทุกคน แต่เรามีความรู้สึกว่าการอาราธนาศีลแค่นี้ คนพุทธกล่าวไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่าจะโทษใครดี??

ในอดีตตอนเราเด็กๆทุกวันศุกร์โรงเรียนจะให้เข้าห้องประชุมสวดมนต์ สวดสรภัญญะชอบมาก ตอนนี้คงไม่มีแล้ว ครูเองจะมีเข้าวัดสวดมนต์ หรือกระทั่งสวดเองที่บ้านกันเองสักกี่เปอร์เซ็นต์ ???? เหมือนที่หลายๆคนกล่าวไว้เราเป็นคนพุทธตามๆพ่อแม่กันมา เอาไว้กรอกในใบต่างๆเท่านั้น และรู้อีกทีก็ตอนใครในครอบครัวตาย เพราะต้องนิมนต์พระมาสวด