วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555

6 April: วันจักรี/พายุงวงช้าง


เช้าไปวัด ไปสนามบินเปลี่ยนตั๋ว แวะทานก๋วยเตี๋ยว ก่อนพระเพลเสียอีก เพราะจะรีบกลับมาเขียนหนังสือต่อให้ยาว ฝนตกเล็กน้อย ซ่อมที่ปิดรังให้ลูกนกเพิ่ม

วันนี้ไม่ได้ไปทำวัตรเย็น แต่สวดมนต์ที่บ้านตามปกติ

เกิดพายุงวงช้างที่สิงค์โปร์ ภาพถ่ายสวยเลยเอามาไว้ในนี้ ดูสงบแต่น่ากลัว  ข่าวย่อๆดังนี้

"...นักวิทยาศาสตร์เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า waterspout หรือ ที่ประเทศไทยเรียกว่า พายุนาคเล่นน้ำ หรือ พายุงวงช้าง และภาพพายุงวงช้าง ที่ทุกท่านเห็นนี้ เป็นภาพที่ถ่ายได้จากทางตะวันออกเฉียงใต้ของชายฝั่งประเทศสิงคโปร์ โดยช่างภาพนามว่า เจอร์รี่ หลิว ซึ่งถ่ายได้จากนอกระเบียงอพาร์ทเม้นต์ของเขาซึ่งตั้งอยู่ริมทะเล...หลิวบอกว่า มักมีปรากฏการณ์ธรรมชาตินี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งตามชายฝั่งทะเลในสิงคโปร์ ..........

พายุงวงช้างนั้น เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากลมพัดวนบิดเป็นเกลียว เห็นได้จากเมฆที่มีลักษณะเป็นลำ หรือเป็นกรวยหัวกลับยื่นลงมาจากฐานของเมฆฝนฟ้าคะนอง และเห็นได้จากพวยน้ำที่พุ่งขึ้นมาเป็นพุ่ม ประกอบด้วยหยดน้ำพุ่งเป็นฝอยขึ้นจากผิวพื้นทะเล มีลมแรงพัดเข้าหาบริเวณศูนย์กลางของพวยน้ำ ยอดของพวยน้ำอาจเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่แตกต่างไปจากฐาน ทำให้แกนเอียงหรือบิดเบี้ยวแล้วหลุดออกจากกันและสลายตัวไป เกิดขึ้นได้สองแบบ คือ เป็นพายุทอร์นาโด ที่เกิดขึ้นเหนือผืนน้ำ ซึ่งอาจจะเป็นทะเล ทะเลสาบ โดยพายุทอร์นาโดจะเกิดขึ้นระหว่างที่ฝนฟ้าคะนองอย่างหนัก เกิดอากาศหมุนจากบนลงล่าง ส่วนอีกแบบ คือ เกิดจากการที่มวลอากาศเย็น เคลื่อนผ่านเหนือผิวน้ำที่อุ่นกว่า ทำให้อากาศที่ติดอยู่กับผืนน้ำจะยกตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทำให้อากาศโดยรอบไหลเข้ามาแทนที่ จากนั้นจึงพุ่งเป็นเกลียวขึ้นไป นั่นคือ อากาศหมุนจากล่างขึ้นบน
ส่วนขนาดของพายุงวงช้างส่วนใหญ่ยาวประมาณ 10-100 เมตร แต่บางครั้งยาวมากถึง 600 เมตร ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางก็พบได้ตั้งแต่เล็ก ๆ แค่ 1 เมตร ไปจนถึงหลายสิบเมตร โดยในงวงช้างแต่ละอันอาจมีท่อหมุนวนเพียงท่อเดียวหรือหลายท่อก็ได้ โดยแต่ละท่อจะหมุนด้วยอัตราเร็วในช่วง 20-80 เมตรต่อวินาที กระแสลมในตัวพายุเร็วถึง 100-190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอาจสูงถึง 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งสามารถคว่ำเรือเล็ก ๆ ได้สบาย "
ที่มา:http://hilight.kapook.com/view/69714