แปลงโบนัสให้เป็นบุญ
เช้านี้เข้ามหาวิทยาลัยแล้วไปรับเงินโบนัส ที่กองคลัง(ที่เขียนเรื่องราวไปเมื่อวานนี้) พอเข้าไปจนท.ที่รู้จักก็ทักทายด้วยเสียงอันดังยิ้มแย้ม ว่าไม่เห็นเราเลยนะ เราก็บอกว่าก็มาที่นี่ปีละครั้งตอนรับโบนัส ( เพราะเราไม่เบิกอะไรเลยทั้งปี หากป่วยก็ไปคลีนิคจ่ายเงินเอง ค่าเดินทางจะไปไหนก็จัดการตัวเอง ไม่ไปราชการ) รับซองปุ๊บก็บอกหนูแตงว่า ดี เงินนี่จะได้เอาไปเลี้ยงอาหารเด็กตาบอด แตงเลยบอกว่าขอร่วมด้วยแล้วฝากเงินมาร่วม ก็อนุโมทนากับจิตที่ตั้งใจอันเป็นกุศลของเขา มาขึ้นรถ link แซวทันทีว่าไงเปิดซองแล้วหรือยัง ก็บอกยัง ตื่นเต้นกับ jackpot จัง หุ หุ แอ่นแอ๊น!!!! ได้เงินไปทำบุญปีนี้ 9,200 บาทไม่ขาดไม่เกิน...สาธุ
ว่าแล้วก็ไปโรงเรียนคนตาบอดทันที เดินเข้าห้องธุรการ กำลังนั่งตอบคำถามของจนท.ว่ามาธุระอะไร? ก็มีอจ.ของที่นั่นเดินมา พูดว่า "อาจารย์คะ สวัสดีค่ะ "ในมือเธอชูบีกเกอร์ (เครื่องแก้ววิทยาศาสตร์ ดังรูป) แล้วพูดต่อว่า "อจ.คะ นี่กำลังสอนวิทยาศาสตร์ อยู่และใช้บีกเกอร์ที่อาจารย์มอบให้คราวก่อน" เราก็เลยยิ้มแล้วตอบว่า "ดีจัง เดี๋ยวจะแวะไปคุยด้วยนะคะ "...ว่าแล้วก็หันมาทำความตั้งใจต่อจนเสร็จ แล้วก็ไปคุยกับอาจารย์ท่านนั้นซึ่งนั่งสอนวิทยาศาสตร์เรื่องการควบแน่นที่หน้าห้องโต๊ะม้าหิน ตรงทางเดินสนามมีเด็กประถม 5 มี 6 คน เราก็นั่งดู คุยเป็นระยะๆ ได้ความคิด ความรู้สึกอะไรหลายอย่าง ค่อยนำมาเขียนอีก เป็นเวลาสมควรก็ขอตัวกลับ อาจารย์เขาก็พูดว่า "อจ.meepole ดีใจไหมคะที่เห็นเด็กๆได้ใช้อุปกรณ์ที่อจ.ให้มา" เราก็ตอบว่า "ดีใจและอิ่มใจค่ะ"
เรารู้สึกเช่นนั้นจริงๆ และมีความรู้สึกอื่นอีกหลายอย่างตามมา จริงๆแล้วเราลืมไปแล้วเรื่องการนำอุปกรณ์วัสดุวิทยาศาสตร์มาให้ เพราะคงนานมากแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าบีกเกอร์ใบเล็กๆนั้นสร้างความสุขให้เราได้ทั้งวัน เอ! ติดสุขมากไปหรือเปล่า คิๆ
เงินคงจะเหลือ ก็จะใช้สร้างบุญใน project ต่อไป ไว้คิดอีกว่าจะทำอะไรให้เขาได้อีก
หลังจากออกจากโรงเรียนคนตาบอด ตั้งใจเอาเงินส่วนหนึ่งไปถวายพระที่วัดศานติไมตรี แต่ไปถึงมีการเปิดพิธีบวชธรรมจาริณีเลยกลับออกมาก่อนค่อยไปอีก เลยเข้าเมืองไปซื้ออาหารเพลถวายพระอาจารย์ ฉลองโบนัสก่อน บุญแรกที่สำเร็จ...สาธุ
ไปถึงวัดได้ทำทานอีกเพราะเจอคณะของโรงเรียนแห่งหนึ่งมากับผอ.รร. มากราบปีใหม่พระอาจารย์ พระอาจารย์แจกหนังสือคนละเล่ม (เข้าใจในบุญ) เราแจกให้อีกคนละ 2 เล่ม (สุขภาวะด้วย 3 อ. ที่แจกตอนถวายกุฎิ และบ้าน...ที่สนพ. ซื้อลิขสิทธิ์เอาไปพิมพ์) รวมได้ไป 3 เล่ม สบายใจทั้งผู้ให้และผู้รับ ถ้าเอาไปอ่านก็จะเกิดประโยชน์แก่ชีวิต ดังที่เราปรารถนาจะให้เกิด :)
วันนี้เขียนเรื่อง
คนดี ..ของเด็ก ๆ http://meecorner.blogspot.com/2012/01/blog-post_13.html
และ เตือนกัน..ของไม่หมดอายุ คนกิน(อาจ)หมดอายุได้
http://meepole.blogspot.com/2012/01/blog-post_13.html