วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

2 Nov: มหาวิทยาลัยเพื่อท้องถิ่น

วันนี้เขียนเรื่อง

น้ำท่วม: การใช้ด่างทับทิมในครัวเรือน  ใน

http://meepole.blogspot.com/


เข้าใจผิดเรื่องตารางสอน นึกว่าสอนวันนี้ ปรากฏว่าไปมหาวิทยาลัยตั้งแต่ 07.45 น  สอน 08.30 จอดรถหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์ เจออาจารย์สิ่งแวดล้อมเดินมาพอดี ชี้ให้ดูขยะกองโตที่ใส่ถุงดำหลายใบวางกองคงรอรถขยะมารับ พร้อมแกลลอนสารเคมี 2 ใบวางตั้งรอทิ้ง  อจ.เขาชี้ให้ดูแกลลอนนั้น พร้อมพูดพร้อมกันว่า เอาสารเคมีตั้งทิ้งไว้กับกองขยะแบบนี้ได้อย่างไร สารอะไร และสุดท้ายใครทิ้ง  นักศึกษาที่เดินมาเรียนก็แวะมาดูว่าอจ.สองคนก้มๆเงยๆดูอะไรเพราะ กำลังอ่านว่าเขาเขียนไว้ที่หน้าแกลลอนว่าอะไร เขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า 70% ethanol  90% ethanol ก็เลยบอกว่าไม่น่าเป็น ethanol เพราะสีออกแดงๆนะ อีกใบดูไม่ออกแต่เดาว่าสีเข้มสักหน่อย ซึ่งไม่ว่าสารอะไรก็อันตรายทั้งสิ้นเพราะคนเก็บขยะอ่านไม่ออก และอาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์เทของเหลวที่ไม่รู้แน่ว่าเป็นอะไรทิ้ง(ที่ไหนก็ไม่รู้) แล้วเก็บแกลลอนพลาสติกมาใช้ หรือฯ

 นักศึกษาสิ่งแวดล้อมพูดว่า เขาเอาสารมาทิ้งแบบนี้ได้อย่างไร ฟังแล้วชื่นใจหน่อยที่เด็กมีสำนึก จิตสาธารณะ ดีกว่าอาจารย์ หรือไม่ก็เจ้าหน้าที่ห้องปฎิบัติการที่เอามาตั้งทิ้งเช่นนี้ หรือใช้ให้นักศึกษามาทิ้ง ก็เลยให้ถ่ายรูปไว้เป็นตัวอย่างเอาไว้สอนเด็ก ให้ดูเยี่ยงแล้วอย่าเอาอย่าง และสะท้อนถึงความรับผิดชอบต่อสังคมของอาจารย์ที่ไม่สอน แนะนำหรือบอกเจ้าหน้าที่ จริงๆเรื่องนี้เป็นสำนึกที่ควรอยู่ในใจของผู้ปฎิบัติงานด้านนี้ กำลังยืนคุยๆ ถ่ายรูปกัน ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์เดินเอาขยะมาทิ้งพอดี พร้อมอาการไม่สนใจ (อยู่แล้ว) เราไม่แปลกใจ แต่นศ.และอาจารย์ที่ยืนแปลกใจ ว่าทำไมเขาไม่สนใจ เรื่องนี้ เราก็บอกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งหน้าที่การงาน ไม่ได้ให้คุณโทษกับเขา เขาไม่สนใจหรอก เพราะผอ.คนนี้เองที่ยืนสูบบุหรี่หน้าตึก จนเราเองสอนเด็ก เตือนเด็กไม่ได้เพราะครูทำเป็นตัวอย่างแล้ว และสูบในห้องทำงานที่เด็กต้องเดินผ่านหากจะใช้ห้องประชุมเล็ก จนกลิ่นบุหรี่เหม็นทั้งห้อง เป็นทั้งผอ.ศูนย์วิทย์ และตำแหน่งกรรมการสภามหาวิทยาลัย ผู้น่าจะทรงเกียรติ แต่ไม่มีความรับผิดชอบต่อสาธารณะแบบนี้แบบนี้ที่ไหนมีบ้าง ? แต่ลึกๆที่เราคิดคือถ้าคนมีสำนึกก็ไม่ไช่สมพรล่ะ หุ หุ คิดหลายครั้งแล้วสลดใจที่มักจะมีอาจารย์ไร้สำนึก (หรือขาดความคิด) แบบนี้มากจริงๆ และในมหาวิทยาลัยเพื่อท้องถิ่นแบบนี้มีตัวอย่างการทำแบบไร้จิตสาธารณะที่คาดไม่ถึงอีก แล้วเราจะหวังคนรุ่นหลังที่ผลิตออกไปได้อย่างไร น่าสงสารท้องถิ่นจัง